24 ก.พ. เวลา 09:54 • ความคิดเห็น

Itawon Class : ความสำเร็จที่เกิดจากการเห็นคุณค่าของตัวเอง

ช่วงหยุดปีใหม่ผมมีโอกาสดูซีรีย์ที่ดีเรื่องหนึ่งโดยไม่ตั้งใจ เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มชื่อ พัคแซรอย ที่เติบโตมากับคำสอนของพ่อบวกกับการที่เป็นคนมีจิตใจที่แข็งแกร่ง แม้เขาต้องเผชิญกับความไม่ยุติธรรมมากมาย จนทำให้เขาต้องสูญเสียทุกคนในชีวิตและกลายเป็นอดีตคนคุกที่ไม่จบการศึกษาใดๆ
ตัวของซีรี่ส์ดำเนินไปเรื่อย ๆ พร้อมกับตัวละครอีกหลายตัวที่มีความแตกต่างหลากหลาย ทั้ง เด็กกำพร้า เด็กต่อต้านสังคม คนผิวสีที่ถูกเหยียดเชื้อชาติ ทรานเจนเดอร์ และนักเลงกลับใจ เหล่าบุคคลที่ไม่ถูกยอมรับจากมาตราฐานสังคมเหล่านี้มารวมตัวกันในร้านอาหารเล็ก ของ พัคแซรอย ร่วมกันต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคมาด้วยมิตรภาพ การยอมรับกันและกัน และความไม่ยอมแพ้
เมื่อดูซีรีย์ไปจนจบรู้สึกได้ว่าซีรีย์เรื่องนี้เป็นซีรีย์ที่ให้แง่คิดด้านต่างๆ ทั้งด้านการใช้ชีวิต การทำธุรกิจ แต่ด้านที่ผมอยากพูดถึงคือ แง่คิดสำหรับพ่อแม่ที่ลูกกำลังเติบโต เพื่อการสร้างความพร้อมให้ลูกในการเข้าสู่สังคมโลกในอนาคต โลกที่มีความหลากหลายและโลกที่มีโอกาสและการแข่งขันสำหรับทุกคน
การเตรียมพื้นฐานที่ดีให้กับลูกเริ่มตั้งแต่ลูกเริ่มจำความได้ เริ่มจากคำสอนของคุณพ่อคุณแม่ คำสอนที่ให้ลูกมีความคิดที่เป็นของตัวเอง มีแนวทางการใช้ชีวิตที่มั่นคงชัดเจน ที่สำคัญต้องมีทัศนคติเชิงบวก พูดโดยรวมก็คือการบ่มเพาะอุปนิสัยการเห็นคุณค่าในตัวเอง (self esteem) ให้กับลูก อุปนิสัยนี้ช่วยสร้างความแข็งแกร่งของใจป้องกันจากปัญหาและเพิ่มพูนความสุขให้ชีวิต แม้เผชิญกับปัญหาหรืออุปสรรคก็สามารถตัดสินใจทางเลือกของตัวเองได้
ดังเช่น พัคแชรอย พระเอก Itawon Class ที่ได้รับคำสอนจากคุณพ่อ และกลายเป็นหลักความคิดสำคัญของเขาในการก้าวสู่ความสำเร็จแม้ต้องเผชิญกับความไม่เป็นธรรม ความไม่ได้รับการยอมรับต่างๆ
การเห็นคุณค่าของตัวเอง (self esteem) ไม่ใช่ความเชื่อมั่นในตัวเอง (self confidence) ที่เป็นความมั่นใจในตัวเอง(โดยมาก)จากทักษะ ความรู้และความสามารถ หรือจุดเด่นที่ตนเองมี ขณะที่การเห็นคุณค่าในตัวเองเป็นเรื่องของทัศนคติที่มีต่อตนเอง ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่ปรากฎให้เห็นชัดเจนเหมือนกับเทักษะและความสามารถ
คนที่มีความมั่นใจในตัวเองจึงอาจไม่ใช่คนที่เห็นคุณค่าในตัวเอง การที่เราเห็นคุณค่าของตัวเราเอง ยอมรับในสิ่งที่เรามีเราเป็น เคารพในความเป็นตัวเรา เราก็จะสามารถอยู่ได้ด้วยตนเองอย่างมีความสุขกับสิ่งที่เราเป็นได้โดยไม่ต้องรอการยอมรับจากใคร
เมื่อพูดถึงการสร้าง การเห็นคุณค่าของตัวเอง (self esteem) ให้ลูกเพื่อพร้อมเผชิญกับโลกเมื่อเขาเติบใหญ่ ผมอ่านพบบทความการสร้าง self esteem โดยการยึดหลัก 6 ข้อ จาก หนังสือ The Six Pillars of Self-Esteem: The Definitive Work on Self-Esteem by the Leading Pioneer in the Field โดย Nathaniel Branden หลัก 6 ข้อนี้น่าจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มีแนวทางการสอนลูกให้มี self esteem ดังนี้
1 ใช้ชีวิตอย่างรู้สึกตัวตลอดเวลา
คือการอยู่กับปัจจุบันที่เราเป็นอยู่ ฝึกใจของเราให้รับรู้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจกับทุกเรื่องที่เรากำลังเจอ อันไหนชอบก็รู้ตัวว่าชอบ อันไหนไม่ชอบก็ยอมรับว่าไม่ชอบ เพราะเราไม่สามารถหนีสิ่งที่เราไม่ชอบได้ตลอด
2 ยอมรับทุกสิ่งที่เราเป็นโดยไม่มีเงื่อนไข
คือการยอมรับว่าทุกเรื่องที่เรามี เราเป็นตอนนี้ คือส่วนผสมของตัวเราที่ผ่านการสะสมมาตลอด แม้จะมีบางเรื่องที่เรารู้สึกขัดใจ แต่การยอมรับตัวเองให้ได้คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
3 รับผิดชอบชีวิตตัวเอง
คือการเข้าใจและรู้ว่า ชีวิตเราจะสุขหรือทุกข์ เราต้องจัดการมันด้วยตัวเราเอง ไม่ใช่หน้าที่ของคนอื่นที่จะมาจัดการแทนให้ ทุกทางเลือกในชีวิตหรือการตัดสินใจ เราต้องเป็นคนทำและยอมรับผลที่จะตามมา ไม่โทษคนอื่นเมื่อผลออกมาไม่เป็นดังใจ
4 เชื่อมั่นและแสดงออกในจุดยืนของตัวเอง
คือการที่เราสามารถบอกทุกคนได้ในสิ่งที่เราเชื่อ เราต้องการ เรามีความเห็นในเรื่องต่างๆ แต่ต้องเป็นการแสดงออกเชิงบวก ไม่ก้าวร้าวหรือโอ้อวด รวมถึงการไม่ปล่อยให้ใครเอารัดเอาเปรียบเรา
5 ใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย
คือการมีจุดหมายและเดินไปตามแผนที่ของชีวิตที่วางไว้ การใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมายจะให้อะไรกับตัวเองมากกว่าที่เราคิด
6 ซื่อสัตย์ต่อตนเอง
คือการเชื่อและใช้ชีวิตตามแนวทางที่เราเชื่อ เมื่อเรายอมรับตัวเองได้แล้ว การยอมรับจากคนอื่นก็เป็นเรื่องรองสำหรับชีวิต
จริงอยู่ว่าการที่ พัคแซรอยประสบความสำเร็จทางธุรกิจมาจากวิสัยทัศน์ ความสามารถทางธุรกิจ รวมถึงจังหวะโอกาสต่างๆ ของเขา แต่กว่าที่่เขาจะฟันผ่าอุปสรรคตั้งแต่ยังเป็นนักเรียนมัธยมที่เผชิญวิกฤตจนเสียคุณพ่อและตัองติดคุก แต่เพราะการเห็นคุณค่าของตนเอง การมีเป้าหมายในชีวิต ไม่เพียงช่วยในการดำเนินชีวิตของเขา แต่ยังช่วยคนอื่นๆ อีกหลายคนให้ก้าวกลับสู่เส้นทางที่ถูกต้องด้วย และนั่นก็คือสิ่งที่ทำให้ธุรกิจของเขาที่ต้องเผชิญกับคู่แข่งที่มีอำนาจและเงินประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่เขามี
การจะเติบโตและอยู่ในโลกที่ให้โอกาส แต่มีการแข่งขันสูง รวมถึงการแข่งขันที่ไม่เท่าเทียมกัน การเห็นคุณค่าในตัวเอง จะช่วยให้เรามีจิตใจที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะในช่วงวิกฤติของชีวิตและให้เราเดินหน้าไปตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้นั่นเอง
บทความนี้เป็นความคิดเห็นที่มาจากความเข้าใจของผม จากซีรีย์และหนังสือที่อ้างอิงในบทความ อ่านแล้วมีความเห็นแลกเปลี่ยนสามารถแสดงออกได้เต็มที่ครับ
โฆษณา