ริดสีดวงคืออะไร? อาการ สาเหตุ และวิธีรักษาที่ได้ผล
ริดสีดวง เป็นโรคที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การนั่งหรือยืนนาน ๆ การเบ่งขณะขับถ่าย หรือการรับประทานอาหารที่มีใยอาหารต่ำ บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้ รวมถึงอาการ สาเหตุ และวิธีการรักษาอย่างละเอียด
ริดสีดวงคืออะไร?
ริดสีดวง (Hemorrhoids) คือการที่หลอดเลือดดำบริเวณทวารหนักหรือไส้ตรงมีการบวมและอักเสบ โดยแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ได้แก่
1. ริดสีดวงภายใน เกิดในบริเวณไส้ตรงด้านใน มักไม่ทำให้รู้สึกเจ็บแต่สามารถทำให้มีเลือดออกได้
2. ริดสีดวงภายนอก เกิดบริเวณรอบทวารหนัก มีอาการเจ็บปวดและบวมชัดเจน
อาการของริดสีดวงที่ควรรู้
ผู้ป่วยริดสีดวงมักแสดงอาการที่แตกต่างกันไปตามระยะของโรค อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่
1. เลือดออกขณะขับถ่าย
2. ก้อนบวมบริเวณทวารหนัก
3. ความรู้สึกคันหรือระคายเคืองรอบทวารหนัก
4. อาการเจ็บปวดขณะนั่งหรือขับถ่าย
หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาการอาจลุกลามจนกระทบต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว
ริดสีดวงเกิดจากอะไร?
ริดสีดวงเกิดจากแรงดันที่เพิ่มขึ้นในหลอดเลือดดำบริเวณทวารหนักและไส้ตรง ซึ่งอาจเกิดจาก
1. การเบ่งขณะขับถ่าย
2. ท้องผูกหรือต้องนั่งขับถ่ายนาน
3. การยกของหนักเป็นประจำ
4. การตั้งครรภ์
5. พฤติกรรมการนั่งหรือยืนนาน ๆ โดยไม่เปลี่ยนอิริยาบถ
ปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มโอกาสเป็นริดสีดวง
บางคนอาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นริดสีดวงสูงกว่าคนอื่น โดยปัจจัยเสี่ยงหลัก ได้แก่
1. การรับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย
2. การดื่มน้ำน้อย
3. การไม่ออกกำลังกาย
4. อายุที่เพิ่มขึ้นทำให้เนื้อเยื่อในบริเวณนี้อ่อนแอลง
วิธีการวินิจฉัยริดสีดวง รู้ให้ทันก่อนอาการลุกลาม
แพทย์สามารถวินิจฉัยริดสีดวงได้โดยการสอบถามประวัติการขับถ่ายและตรวจร่างกายเบื้องต้น หากอาการซับซ้อน อาจต้องใช้วิธีเพิ่มเติม เช่น การส่องกล้องไส้ตรง
แนวทางการรักษาริดสีดวง
การรักษาริดสีดวงขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ
1. ระยะเริ่มต้น สามารถรักษาได้ด้วยการปรับพฤติกรรม เช่น รับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูง ดื่มน้ำมากขึ้น และหลีกเลี่ยงการเบ่ง
2. การใช้ยา มียาทา ยาเหน็บ หรือยารับประทานที่ช่วยลดการอักเสบและอาการเจ็บปวด
3. การผ่าตัดรักษาริดสีดวงด้วยเลเซอร์ เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีริดสีดวงระยะรุนแรงหรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบอื่น
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
