11 ม.ค. เวลา 03:09 • ความคิดเห็น
สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาในเรือนกาย กายที่ประกอบด้วย ธาตุทั้งสี่ ธาตุนะโม แล้วก็ต้องไปหาเอาน้ำเลือดน้ำหนองของผูอื่น เนื้อเป็ด ไก่ อาศัยแรงกายของผู้อื่นมาช่วยส่งเสริม ให้ได้มาซึ่งน้ำเลือดน้ำหนอง หล่อเลียงกาย ..ไม่เอาธาตุข้างนอกมาเสริมธาตุภายในให้กายมันมีพละกำลัง ..ก็เกิดอารมณ์อดอยากหิวโหย หิวอยากจะกิน อยากจะได้ .เกิดขึ้นในกายที่จิตอาศัย
อารมณ์ต่างที่เกิดขึ้น ในกาย นั่นไหลออกมาจากธาตุทั้งสี่ ก็เหมือนดินฟ้าอากาศ ..บันดาลชีวิต ..ให้เป็นไปตามอารมณ์กรรมที่เกิดขึ้น มีลมเข้าออก หายใจอยู่ตรงนี้ ไปหายใจตรงโน้น ขันธ์ทั้งห้า ก็เปลี่ยนแปลงไปตลอด ตามสิ่งที่เกิดขึ้น มีเรื่องราวของอารมณ์โลภโกรธหลงเกิดขึ้น .จิตที่อาศัยอยู่ในกาย ก็ไม่มีสติ ..หยุดยั้งอารมณ์กรรม
เมื่อหยุดยั้งอารมณ์ไม่ได้ จิตนั้นก็ทำไปตามอารมณ์ที่ เชื่ออารมณ์ ..ที่เกิดขึ้นในกาย ที่ไหลออกมาจากธาตุทั้งสี่ จิตนั่นไม่มีความอดทน ..ขันติ .ที่จะฝืนอารมณ์นั้นได้ เมื่อขันติของจิตไม่เกิดขึ้น ..จิตนั้นก็ไม่สามารถที่จะรู้จักเรื่องราวของคำว่า กรรม ที่จิตตกเป็นทาสของอารมณ์กรรมได้เลย
ชีวิตที่เกิดมาทั่งชีวิต ที่ว่า ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว .. แล้วจิตล่ะ ..ไปอยู่เสียที่ไหน ..ใจนั้นเป็นที่ให้อารมณ์นั้นเกิด เกิดที่ชายโครงเบื้ยงช้าย มันเต้นตุ๊บตั๊บๆ ส่งกระแสอารมณ์ ขึ้นไปหน้าตา วิญญาณทั้งหกคลอดจนกลไกที่เรียกว่า สมอง . สั่งให้กายเคลือนที่ไป ตามอารมณ์ที่เกิดขึ้น เกิดคำว่า จิตทาสีทาสา ทั้งมนุษย์หญิงชาย ที่อาศัยอยู่ในรูป ..เกิดสิ่งที่ว่า อารมณ์กรรมเกิดขึ้น ก็ไปสร้างตัวกระทำขึ้นมา
เรื่องของตัวกระทำ นั่นมันเป็นเหมือน เงาดำๆ ..คล้ายผีเกิดขึ้นมาในกายให้จ้ตนั้นยึด .. จิตนั่น ไม่สามารถ..ไม่มีกำลัง ..ที่จะไปสลัด อารมณ์กรรมตัวกระทำนั้นได้เลย .. แล้วก็ใช้กายวาจาใจไปตามอารมณ์กรรมตัวกระทำที่เกิดขึ้น เป็นขี้ข้าอารมณ์ ขี้ข้าของกรรม .ไปจนวันตาย เกิดมาอีก ก็เป็นขี้ข้าอารมณ์อีก จึงต้องเกิดตายๆ นับชาติไม่ได้
โฆษณา