เรากำลังอยู่ในนาวา
ปฐมกาล 6:13-22 TH1971
[13] พระเจ้าจึงตรัสแก่โนอาห์ว่า <<เราตัดสินใจแล้วว่า จะให้บรรดามนุษย์ถึงความพินาศเสียที ด้วยเหตุว่าโลกเต็มไปด้วยความทารุณเพราะการ กระทำของมนุษย์ ดูเถิด เราจะทำลายพวกเขาพร้อมกับแผ่นดินโลก
[14] เจ้าจงต่อนาวาด้วยไม้สนโกเฟอร์ แล้วทำเป็นห้องๆ และยาชันทั้งข้างในข้างนอก [15] จงต่อนาวานั้นตามแบบนี้ คือยาวสามร้อยศอก กว้างห้าสิบศอก สูงสามสิบศอก [16] จงทำช่องข้างบนนาวาให้สูงศอกหนึ่ง จงตั้งประตูนาวาที่ด้านข้าง และทำดาดฟ้าชั้นล่าง ชั้นที่สองและที่สาม [17] เพราะดูเถิด เราเองจะเป็นผู้ทำให้น้ำท่วมแผ่นดิน จะทำลายมนุษย์และสัตว์ที่มีลมปราณทั้งปวงใต้ฟ้า ทุกสิ่งที่อยู่บนแผ่นดินจะตายสิ้น
[18] แต่เราจะตั้งพันธสัญญาไว้กับเจ้า ให้เจ้าเข้าอยู่ในนาวา ทั้งบุตรภรรยาและบุตรสะใภ้ [19] จงนำบรรดาสัตว์ที่มีชีวิตทั้งตัวผู้และตัวเมียทุกชนิด อย่างละคู่เข้าไปไว้ในนาวา เพื่อให้มีชีวิตรอดอยู่กับเจ้า [20] นกตามชนิดของมัน สัตว์ตามชนิดของมัน สัตว์เลื้อยคลานบนแผ่นดินตามชนิดของมันทุกๆชนิด อย่างละคู่ต้องไปกับเจ้า เพื่อให้รอดชีวิตอยู่ได้ [21] เจ้าจงสะสมเสบียงอาหารไว้ทุกอย่าง เป็นอาหารของเจ้าบ้างของสัตว์เหล่านั้นบ้าง>> [22] พระเจ้าทรงบัญชาให้โนอาห์ทำอย่างไร โนอาห์ก็ทำอย่างนั้นทุกประการ
มนุษย์เราทุกคนตอนนี้มีพระเยซูที่กำลังคอยดูแลรับผิดชอบให้กับชีวิตอยู่ครับ เหมือนได้อยู่ในเรือโนอาห์ซึ่งยุคนั้นตอนน้ำมา กับสิ่งมีชีวิตที่อยู่นอกเรือทั้งหมดก็ตายหมดเลยครับ
เช่นกันในวันสุดท้ายเนื้อหนังหรือสิ่งที่เรากำลังมองเห็นขณะนี้จะถูกพระเจ้าเผาทำลายทั้งหมด ส่วนดวงวิญญาณของเราจะถูกพระเจ้ารับไปอยู่สวรรค์บ้านแท้ครับ
ชีวิตบนโลกตอนนี้ เพราะเป็นโลกแห่งบาปมีมารซาตานคอยต่อต้านพระเจ้า คอยล่อลวงมนุษย์ตลอดเวลา จึงทำให้มนุษย์วุ่นวายสับสนในจิตใจ เพราะมีการต่อสู้เสมอระหว่างสองจิตใจในตนคือพระเจ้ากับมารซาตานนี้ครับ
กับคนที่ได้มารู้ความจริงแล้วชีวิตก็จะง่ายขึ้น เพราะตัดสินใจได้ง่ายกว่าคนที่ยังไม่รู้ครับ ส่วนคนที่ยังไม่รู้ความกลัวหวาดวิตกกับชีวิตก็จะเยอะกว่า สุดท้ายก็จะไหลไปในทางที่มารซาตานต้องการกับการพยายามจะปกป้องรักษาชีวิตตัวเอง ซึ่งมารซาตานก็จะหยิบยื่นให้สารพัดวิธีครับ เช่นพึ่งพาในพ่อแม่ เงินทรัพย์สมบัติ กำลังความดีความสามารถ ฯลฯ แต่สิ่งเหล่านั้นก็เป็นเหมือนสินบนที่ทำให้เรามาไม่ถึงควาจริงคือพระเจ้าเท่านั้นครับ
ปัญหาหรือความกลัวหวาดวิตกกับชีวิตจึงไม่จบครับ ต่อให้คุณมีทุกสิ่งของโลกนี้ สิ่งเหล่านั้นก็ไม่อาจจะช่วยคุณได้จริง สุดท้ายมันได้แค่พาเราไปสู่ความพินาศความตายเท่านั้นครับ
ฝากชีวิตกับพระเจ้า คือกลับมาหาพระองค์เท่านั้นเป็นทางรอดของมนุษย์ซึ่งพระองค์ก็ได้เปิดทางให้กับมนุษย์แล้วผ่านทางพระเยซูคริสต์ซึ่งได้ลงมายังโลกเพื่อตายไถ่บาปผิดทั้งหมดให้และกำลังดูแลและจูงนำชีวิตให้ผ่านทางพระคัมภีร์ไบเบิ้ลและคริสตจักรนี้ครับ
ตอนนี้ผมถูกพระเจ้าวางตัวไว้ในตำแหน่งผู้เผยแพร่ข่าวประเสริฐหรือความจริงเหล่านี้ครับ ผมเห็นว่าชีวิตของผมกับครอบครัวภรรยาลูกหรือสมาชิกผู้ติดตามเหมือนกำลังอยู่ในเรือโนอาห์ ซึ่งกับคนหรือสัตว์ในเรือกับนอกเรือมีแตกต่างกันอย่างเดียวคืออยู่ตรงไหน ในเรือหรือนอกเรือ จะพินาศหรือไม่มันอยู่ที่ตรงนี้ครับ กับสิ่งมีชีวิตนอกเรือก็พินาศตายทั้งหมดตอนที่น้ำมาครับ
บ่อยครั้งที่มีความกลัวความกังวลถาโถมเข้ามาหาผมเมื่อมองกับสถานการ แต่สงบลงได้ตอนที่ผมตั้งสติคิดถึงพระคำหรือพระสัญญาของพระเจ้าและเขียนออกมาแบบนี้ครับ ตอนค่อยๆคิดใคร่ครวญกับพระคำ มันก็เริ่มแยกได้ครับระหว่างการโกหกของมารซาตานกับความจริงของพระเจ้า
หลายคนไม่เชื่อว่าพระเจ้าอยู่กับผมตอนที่เขาติดตามความคิดที่มารซาตานให้ ผมเห็นหลายคนตัดสินผมจากสิ่งที่เห็นภายนอกแต่ไม่มองทะลุเข้าไปถึงพระเยซูผู้ซึ่งกำลังใช้ร่างกายนี้ แต่กำลังถูกมารซาตานหลอกให้เชื่อกับจิตสำนึกหรือความรู้สึกนึกคิดแทนพระคำแบบง่ายๆ และคนส่วนมากก็เป็นแบบนี้ แม้มาโบสถ์หลายปีแล้วก็ตาม หลายคนถึงขั้นปิดใจกับผู้รับใช้แล้วออกจากโบสถ์ไปเลยก็มาก นั่นคือสมหวังตั้งใจของมารซาตานครับ
ผมมองเห็นหลายคนที่เชื่อว่ามีพระเจ้า เป็นอาจารย์สอนพระคัมภีร์ฯด้วย แต่ไม่กล้าที่จะเชื่อว่าสิ่งที่ตนกำลังสอนนั้นเป็นความจริง คือสอนเก่ง แต่ตัวเองก็ไม่กล้าจะติดตามแค่สอนให้คนอื่นทำประมาณนั้นครับ ซึ่งตรงนี้ไม่แปลกครับ ผมเองก็เป็นก่อนได้มารู้จักกับอาจารย์ ตอนนี้ก็ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ กับการตัดสินใจที่จะเชื่อติดตามเพียงพระคำเท่านั้น
ส่วนมากจะเชื่อพระเจ้าแบบไม่ยอมปล่อยกับทรัพย์สมบัติของโลกนี้ครับ เพราะมันชินไปแล้วเหมือนคนติดยา มารซาตานให้เสพมาตั้งแต่เกิด พอจะปล่อยเปลี่ยนมาเชื่อวางใจเพียงพระเจ้าก็เลยไม่ง่ายแล้ว เหมือนจะช่วยคนติดยาให้เลิกได้ก็ต้องพาไปสถานบำบัด อยู่ที่นั่นสักช่วงระยะเวลาหนึ่ง
การจะย้ายกลับมาเชื่อวางใจเพียงพระเจ้าก็เหมือนกัน บนโลกก็มีคริสตจักรหรือโบสถ์ที่เป็นเหมือนสถานบำบัดให้กับมนุษย์
เพราะกำลังอยู่ในพระเยซูเหมือนครอบครัวโนอาห์กับสัตว์ที่อยู่ในเรือมีพระเจ้าคอยดูแลรับผิดชอบให้อยู่เสมอ สัตว์ร้ายมากมายในเรือก็เลยไม่เป็นปัญหา เช่นกันกับทุกปัญหาที่ผมกำลังเห็นหรือได้ยิน มีพระเจ้าที่กำลังดูแลรับผิดชอบอยู่แล้ว
กับความจริงนี้มันจึงทำให้จิตใจผมสามารถพักสงบได้แบบนี้ครับ ไม่งั้นมันคงเครียดไปกับการวิ่งแก้ไขคนหรือสถานการแบบแต่ก่อน สุดท้ายมันเครียดจนอยากฆ่าตัวตายหนีเลยก็มีบ่อยๆ แล้วพอแก้ไม่นานมันก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก เหมือนโยนหินลงน้ำตูมน้ำแหวกกระจายแต่แป้บเดียวก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อนครับ
ตลอดมาเพราะจุดสนใจมันผิดน่ะครับ พยายามไปควบคุมแก้ไขเปลี่ยนแปลงกับงานของพระเจ้า พระเจ้าให้ดูให้เรียนรู้กับการทำงานของพระเจ้าแล้วประกาศออกไปใช่ไหมครับ มีความสุขกับสิ่งนี้ แต่ดันไปพยายามทำเสียเอง ทั้งๆที่ทำไม่ได้ เหมือนกบตัวหนึ่งขี่หลังช้างเดินข้ามแม่น้ำ แล้วบอกว่าตัวเองข้ามแม่น้ำมาได้ด้วยกำลังความสามารถของตัวเอง คนมากมายก็กำลังหลงผิดประมาณนั้นครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
