[Right Style by Bom+] ความตึงเครียดระลอกใหม่ “รัสเซีย-นาโต” รอบ “คาลินินกราด” Andrei Kolesnik รองนายกเทศมนตรีแคว้นคาลินินกราดของรัสเซียและเป็นสมาชิกคณะกรรมการป้องกันประเทศในสภาดูมากล่าวว่า มีการรวบรวมยุทโธปกรณ์ของกลุ่มนาโต

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

12 ม.ค. เวลา 03:56 • ข่าวรอบโลก

ความตึงเครียดระลอกใหม่ “รัสเซีย-นาโต” รอบ “คาลินินกราด”

Andrei Kolesnik รองนายกเทศมนตรีแคว้นคาลินินกราดของรัสเซียและเป็นสมาชิกคณะกรรมการป้องกันประเทศในสภาดูมากล่าวว่า มีการรวบรวมยุทโธปกรณ์ของกลุ่มนาโตไว้ใกล้ชายแดนคาลินินกราดของรัสเซีย ตามที่เขากล่าว มีการเคลื่อนกองกำลังและกลุ่มรถถังของนาโตมาไว้อยู่ที่ Gdansk ของโปแลนด์แล้ว โดยชายแดนของภูมิภาครัสเซียอยู่ห่างออกไปไม่เกิน 50 กม. [1]

“นั่นหมายถึง การเคลื่อนตัวของกองกำลังติดอาวุธ (นาโต) ดังกล่าวรอบแคว้นคาลินินกราดกำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ คุณแทบจะได้ยินเสียงเคลื่อนตัวของรถสายพานดังกึกก้อง และนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ขณะนี้มีการเคลื่อนตัวของกองกำลังติดอาวุธอย่างเข้มข้นในโปแลนด์” Andrei Kolesnik กล่าว

เครดิตภาพ: The Economist

ในขณะเดียวกัน Kolesnik เชื่อว่านักการเมืองตะวันตกกำลัง “เล่นสงครามประสาทกับรัสเซีย” ขณะนี้ “ปมทางการทหารที่ซับซ้อนของยุโรป” กำลังก่อตัวขึ้นรอบแคว้นคาลินินกราด ซึ่งอาจต้องมีการตัดสินใจที่ยากลำบาก

“เรามีความรู้สึกกดดัน เราจะมีเวลาเสมอที่จะกดปุ่ม (นิวเคลียร์) พวกเขาไม่เข้าใจผลที่ตามมา จะไม่มีอะไรเหลืออยู่เลยในประเทศยุโรป คุณจะไม่สามารถแยกแยะใครออกจากกันด้วยดีเอ็นเอ ทุกอย่างจะละลายหายไป พวกเขาควรสงสารตัวเอง” เขากล่าวสรุป

ก่อนหน้านี้ เซอร์เกย์ เลเบเดฟ ผู้ประสานงานกลุ่มใต้ดินนิโคลาเยฟที่สนับสนุนรัสเซีย รายงานเกี่ยวกับการถ่ายโอนอาวุธของนาโตจากทั่วโลกเข้ามายังโปแลนด์อีกด้วยเช่นกัน

“ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เราได้รับข้อมูลมากมายจากในโปแลนด์เกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายกำลังพลและทรัพยากรทางทหารจำนวนมหาศาล การเคลื่อนย้ายอาวุธเกิดขึ้นทั่วโลก…” เลเบเดฟกล่าวให้สัมภาษณ์กับ RIA Novosti [2]

เลเบเดฟกล่าวว่าเขาได้รับคลิปวิดีโอจากพยานคนหนึ่งที่สังเกตเห็นการลำเลียงอาวุธไปตามถนนเลี่ยงเมืองวอร์ซอ เขาบังเอิญพบกับรถบรรทุกสี่คันซึ่งคาดว่าเป็นรถลำเลียงพลหุ้มเกราะ MaxxPro ของอเมริกา

นอกจากนี้พันธมิตรแหล่งข่าวของเลเบเดฟยังสังเกตเห็นขบวนลำเลียงขนาดเล็กหลายสิบในพื้นที่นี้ในช่วงสี่คืนที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังพบขบวนหนึ่งบนทางหลวงคราคูฟ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับ “เชชูฟ” ซึ่งเป็นศูนย์กลางการขนส่งที่กลุ่มประเทศตะวันตกส่งอาวุธให้กองทัพยูเครน

ผู้ประสานงานมั่นใจว่ากลุ่มประเทศตะวันตกกำลังเตรียมใช้ “โปแลนด์” เป็นฐานสร้างความขัดแย้งใหญ่กับรัสเซีย เนื่องจาก “พวกเขาจะใช้โปแลนด์ เช่นเดียวกับที่พวกเขากำลังใช้และไม่รู้สึกสงสารยูเครน… พวกเขาต้องการทำทุกวิถีทางเพื่อให้รัสเซียพ่ายแพ้” ก่อนอื่นเรากำลังพูดถึงการปิดล้อมทางกายภาพที่อาจเกิดขึ้นในคาลินินกราด

เรือลำเลียง Cape Kennedy ของกองทัพเรือสหรัฐฯ (AKR-5083) กำลังขนถ่ายยุทโธปกรณ์เข้ามายังเมือง Gdansk ประเทศโปแลนด์ เมื่อมกราคม 2025 เครดิตภาพ: US Navy's Military Sealift Command

เมื่อปลายเดือนธันวาคมปีก่อนหน้านี้ เป็นที่ทราบกันดีว่าโปแลนด์กำลังวางแผนที่จะสร้างถนนไปยังชายแดนรัสเซียในกรณีที่จำเป็นต้องย้ายกำลังพล Maciej Duszczyk รองรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของโปแลนด์ให้สัมภาษณ์กับ Financial Times เกี่ยวกับเรื่องนี้ ตามที่เขากล่าวถนนจะถูกสร้างขึ้นไปยังชายแดนแคว้นคาลินินกราดของรัสเซีย งานก่อสร้างจะดำเนินการในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า [3]

ในปี 2024 โปแลนด์ใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศอยู่ที่ 4.12% ของ GDP และในปี 2025 มีแผนจะใช้จ่ายมากขึ้นไปอีกให้เกือบแตะระดับที่ 5% นอกจากนี้จำนวนทหารในกองทัพโปแลนด์ในปี 2025 คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 229,000 นาย วอร์ซอมีแผนจะจัดการฝึกซ้อมทางทหารระดับชาติที่สำคัญ 6 ครั้งและระดับนานาชาติจำนวนเท่ากันที่สนามฝึกของโปแลนด์ [4]

เครดิตภาพ: Kacper Pempel / Reuters

เมื่อพฤษภาคม 2023 คณะกรรมการโปแลนด์ด้านมาตรฐานชื่อทางภูมิศาสตร์แนะนำให้ใช้คำว่า Królewiec แทน Kaliningrad ในสุนทรพจน์หรือแถลงการณ์ของทางการของโปแลนด์ ตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ผู้อยู่อาศัยในรัฐใกล้เคียงเรียกชื่อเมืองนี้ในแบบของตนเอง แต่รากศัพท์ทั่วไปที่แปลว่า “กษัตริย์” ก็ยังคงใช้มาโดยตลอด

ในภาษาโปแลนด์ เมืองนี้เรียกว่า Krúlewetz ในภาษาเช็กเรียกว่า Kralovets ในภาษาลิทัวเนียเรียกว่า Karaliaučius “คาราลิเอาซิอุส” และ Regiomontium (ในภาษาละตินซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในเวลานั้นเนื่องจากอิทธิพลของคริสตจักร) [5]

ที่เกริ่นเรื่องชื่อเมืองของคาลินินกราดตรงนี้ขึ้นมาเพราะว่าจะนำไปโยงถึงอีกข่าวหนึ่งคือ “กิตานาส นาอูเซดา” ประธานาธิบดีของลิทัวเนียได้ออกแถลงการณ์รุนแรงเกี่ยวกับ “คาลินินกราด” แน่นอนหลังจากนั้นเขาก็ถูกนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัสเซียหลายคนวิพากษ์วิจารณ์

เรื่องราวเริ่มต้นจากเมื่อ 8 มกราคมที่ผ่านมา “นาอูเซดา” ได้แสดงความคิดเห็นบน X เกี่ยวกับการตัดสินใจของทางการรัสเซียที่จะเปลี่ยนชื่อพิพิธภัณฑ์กวีคริสติโจนัส โดเนไลติสในแคว้นคาลินินกราดเป็น “พิพิธภัณฑ์วรรณกรรมในหมู่บ้านชิสเตีย ปรูดี” ประธานาธิบดีลิทัวเนียกล่าวว่านี่เป็น “ความพยายามที่ยอมรับไม่ได้อีกครั้งในการเขียนประวัติศาสตร์ขึ้นใหม่ (ของรัสเซีย)” [6][7]

“แม้ว่าผู้อยู่อาศัยดั้งเดิมที่เป็นชนกลุ่มน้อยของลิทัวเนียซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของเขตคาลินินกราดจะไม่เหลืออยู่แล้ว แต่ร่องรอยสุดท้ายของวัฒนธรรมลิทัวเนียจะต้องได้รับการอนุรักษ์ไว้ ไม่ว่ารัสเซียจะพยายามมากเพียงใด คาราลิเอาซิอุสจะไม่มีวันกลายเป็นคาลินินกราด!” นาอูเซดากล่าว

“กิตานาส นาอูเซดา” ประธานาธิบดีของลิทัวเนีย เครดิตภาพ: 1tv.ge

“คาราลิเอาซิอุส” เป็นชื่อภาษาลิทัวเนียของเขตคาลินินกราด นี่คือ “ชื่อสถานที่ทางประวัติศาสตร์” และ “อัตลักษณ์ทางภาษาบอลติก” ตามที่ได้มีการหารือกันในปี 2023 ในคณะกรรมาธิการรัฐสภาลิทัวเนียที่เกี่ยวข้องกับปัญหาด้านความทรงจำทางประวัติศาสตร์ของรัฐ [8]

ในช่วงศตวรรษที่ 13 ป้อมปราการแห่งโคนิซแบร์กมีหลักฐานว่าปรากฏอยู่ในเขตนี้ โดยมีเมืองสามเมืองก่อตั้งขึ้นรอบๆ ต่อมาเมืองเหล่านี้ได้รวมกันภายใต้ชื่อเดียวว่าโคนิซแบร์ก จนถึงปี 1945 เมืองนี้เป็นส่วนหนึ่งของเยอรมนี หลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง เมืองนี้ถูกผนวกเข้ากับสหภาพโซเวียตและเปลี่ยนชื่อเป็น “คาลินินกราด”

ป้อมปราการแห่งโคนิซแบร์กในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เครดิตภาพ: Top War

“มาเรีย ซาคาโรวา” โฆษกกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย วิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีลิทัวเนียสำหรับคำพูดของเขาเกี่ยวกับคาลินินกราด “เอาอีกแล้ว! คนโง่ที่ไร้สมองอีกคนหนึ่งได้ปีนขึ้นไปที่ไมโครโฟนพร้อมกับจินตนาการทางประวัติศาสตร์ที่เปียกโชก” เธอเขียนโพสต์ในบัญชีเทเลแกรมของเธอเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2025 [9]

ขอเตือนคุณว่าต้องขอบคุณที่เมืองหลวงของลิทัวเนียถูกเรียกว่า “วิลนีอุส” ไม่ใช่วิลโนและเคานัส เป็นการตัดสินใจของ “สตาลิน” ซึ่งในปี 1939 ได้สรุปสนธิสัญญากับฝ่ายลิทัวเนียเกี่ยวกับการโอนเมืองวิลโนและภูมิภาควิลนีอุสให้กับสาธารณรัฐลิทัวเนียและความช่วยเหลือร่วมกันระหว่างสหภาพโซเวียตและลิทัวเนีย

ผู้แทนกระทรวงต่างประเทศของรัสเซียยังกล่าวเสริมว่า “ท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของลิทัวเนียบนทะเลบอลติกในที่สุดได้เปลี่ยนชื่อจากเมเมลเป็นไคลเปดา และในที่สุดก็กลายเป็นของลิทัวเนียในปี 1945 ขอบคุณความสำเร็จที่เสียสละของกองทัพแดง… ของขวัญทั้งหมดนี้ที่สหภาพโซเวียตมอบให้กับลิทัวเนีย… วิลนีอุสสามารถส่งคืนกลับมาได้ หากประวัติศาสตร์กดดันประธานาธิบดีลิทัวเนียมากขนาดนี้” ซาคาโรวากล่าว

เครดิตภาพ: Vyacheslav Prokofiev/ TASS

“ดมิทรี เปสคอฟ” โฆษกเครมลินกล่าวแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำพูดของนาอูเซดาว่า การที่ลิทัวเนียอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนคาลินินกราดนั้น “เป็นเหตุผลที่รัสเซียขอแสดงความกังวล” [10]

“ลิทัวเนียเป็นรัฐที่ไม่เป็นมิตรกับประเทศของเรา เป็นรัฐที่เป็นศัตรูกับเรา ซึ่งปรากฏว่ามีการอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนด้วย ซึ่งเหตุผลนี้จึงเป็นเหตุผลสนับสนุนความกังวลอย่างลึกซึ้งของเรา และเหตุผลสนับสนุนมาตรการรักษาความปลอดภัยในปัจจุบันและอนาคตของรัฐของเรา” เปสคอฟกล่าวกับนักข่าว

“อเล็กเซย์ จูราฟเลฟ” รองประธานคณะกรรมการป้องกันประเทศแห่งสภาดูมากล่าวว่า ประเทศบอลติกทั้งหมด “ควรเป็นของรัสเซีย เช่นเดียวกับก่อนการปฏิวัติ” เขากล่าวเสริมว่าเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วรัสเซียจะสามารถใช้ “ระเบียงซูวาลกี” (Suwalki Gap) ได้อย่างเต็มที่ ตามรายงานของ RIA Novosti [11]

เครดิตภาพ: Defense News

เรียบเรียงโดย Right Style

12th Jan 2025