ศึก Dirty Harry ปะทะDirty Duke กับศึกชิงบัลลังก์คาวบอย: เมื่อ John Wayne เปิดศึกแข่ง Clint Eastwood
ในยุคทองของฮอลลีวูด หากเอ่ยถึงหนังคาวบอย ใคร ๆ ก็ต้องนึกถึเดอะ ดุก จอห์น เวนย์ชายผู้ครองตำแหน่งราชาคาวบอยมาอย่างยาวนานจนแทบไม่มีใครกล้าท้าทายฉายา “The Duke” ของเขา แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ทะเลทรายฮอลลีวูดก็เริ่มเกิดลมพายุใหม่ เมื่อชายหนุ่มผู้ดิบเถื่อนและเต็มไปด้วยเสน่ห์อย่างคลินท์ อีสต์วูดก้าวขึ้นมาท้าทายบัลลังก์ด้วยบทบาทที่แหวกแนวกว่าเดิม
อีสต์วูดจุดกระแสให้วงการคาวบอยลุกโชนอีกครั้งผ่านคาวบอยสปาเก็ตตี้ชุด Dollars Trilogy ของเซอร์จิโอ เลโอเน ซึ่งมีกลิ่นอายของความหม่นมืดและความสมจริงที่แตกต่างจากสไตล์เก่า ๆ ของเดอะ ดุก นี่ยังไม่รวมถึงหนังอย่าง Hang ‘Em High และ High Plains Drifter ที่ตอกย้ำภาพลักษณ์ของอีสต์วูดในฐานะดาราคาวบอยคนใหม่
การมาของคลิ้นท์ อีสต์วูดเปรียบเสมือนหนุ่มเลือดใหม่ที่ยกปืนมาท้าทายมือปืนรุ่นเก๋าอย่าง บรรยากาศในฮอลลีวูดช่วงนั้นจึงเต็มไปด้วยการจับตามองว่า “ราชาเก่า” อย่างจอห์น เวนย์จะรับมืออย่างไรกับ"ชายพเนจร”ดาวรุ่งที่มาแรงเกินต้าน
สิ่งที่เพิ่มดีกรีความเดือดคือเมื่อ Dirty Harry บทบาทตำรวจสุดดิบ ที่เคยเสนอให้จอห์น เวนย์แสดง แต่เขาปฏิเสธ ถูกอีสต์วูดคว้าไปครอง และเขาก็สร้างตัวละคร Harry Callahan ให้กลายเป็นตำนาน ด้วยเรื่องราวที่ดุดันและฉีกแนว
จอห์น เวนย์ถึงกับกุมขมับ ต้องคิดหนักเมื่อเห็นความสำเร็จที่เขาเคยปฏิเสธ
“ฉันน่าจะรับบทนั้นไว้เอง!” เดอะ ดุกเคยยอมรับอย่างตรงไปตรงมาในภายหลัง
แต่ถ้าคุณคิดว่าจอห์ย เวนย์จะยอมแพ้ คุณคิดผิด!
จอห์น เวนย์กลับตัดสินใจยิงหมัดสวน ด้วยการสร้าง McQ หนังแนวตำรวจแบบเดียวกับ Dirty Harry เพื่อประกาศว่าเขาก็สามารถสร้างตัวละครดิบเถื่อนได้เหมือนกัน
“ผมคิดว่าผมจะเป็น Dirty Duke ได้” เวนย์กล่าวอย่างมั่นใจ
อย่างไรก็ตาม แม้จะพยายามสุดตัว แต่ McQ กลับไม่ได้รับการตอบรับที่ดีเท่าที่หวัง ทั้งจากผู้ชมและนักวิจารณ์ หลายคนมองว่ามันเป็นเพียงการเลียนแบบ Dirty Harry ที่อ่อนกว่าในทุกมิติ
และถึงแม้การแข่งขันระหว่างทุ้งคู่จะสิ้นสุดลงพร้อมกับบทเรียนของ “ราชาคาวบอยเก่า” แต่เรื่องราวนี้ก็ยังคงถูกเล่าขานในฐานะหนึ่งในศึกแห่งวงการที่ไม่มีใครลืม เพราะมันไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของหนัง แต่คือเรื่องราวของศักดิ์ศรี ความทะเยอทะยาน และความดื้อรั้นที่ไม่ยอมแพ้ต่อความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย
ในยุคทองของฮอลลีวูด หากเอ่ยถึงหนังคาวบอย ใคร ๆ ก็ต้องนึกถึเดอะ ดุก จอห์น เวนย์ชายผู้ครองตำแหน่งราชาคาวบอยมาอย่างยาวนานจนแทบไม่มีใครกล้าท้าทายฉายา “The Duke” ของเขา แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ทะเลทรายฮอลลีวูดก็เริ่มเกิดลมพายุใหม่ เมื่อชายหนุ่มผู้ดิบเถื่อนและเต็มไปด้วยเสน่ห์อย่างคลินท์ อีสต์วูดก้าวขึ้นมาท้าทายบัลลังก์ด้วยบทบาทที่แหวกแนวกว่าเดิม
อีสต์วูดจุดกระแสให้วงการคาวบอยลุกโชนอีกครั้งผ่านคาวบอยสปาเก็ตตี้ชุด Dollars Trilogy ของเซอร์จิโอ เลโอเน ซึ่งมีกลิ่นอายของความหม่นมืดและความสมจริงที่แตกต่างจากสไตล์เก่า ๆ ของเดอะ ดุก นี่ยังไม่รวมถึงหนังอย่าง Hang ‘Em High และ High Plains Drifter ที่ตอกย้ำภาพลักษณ์ของอีสต์วูดในฐานะดาราคาวบอยคนใหม่
การมาของคลิ้นท์ อีสต์วูดเปรียบเสมือนหนุ่มเลือดใหม่ที่ยกปืนมาท้าทายมือปืนรุ่นเก๋าอย่าง บรรยากาศในฮอลลีวูดช่วงนั้นจึงเต็มไปด้วยการจับตามองว่า “ราชาเก่า” อย่างจอห์น เวนย์จะรับมืออย่างไรกับ"ชายพเนจร”ดาวรุ่งที่มาแรงเกินต้าน
สิ่งที่เพิ่มดีกรีความเดือดคือเมื่อ Dirty Harry บทบาทตำรวจสุดดิบ ที่เคยเสนอให้จอห์น เวนย์แสดง แต่เขาปฏิเสธ ถูกอีสต์วูดคว้าไปครอง และเขาก็สร้างตัวละคร Harry Callahan ให้กลายเป็นตำนาน ด้วยเรื่องราวที่ดุดันและฉีกแนว
จอห์น เวนย์ถึงกับกุมขมับ ต้องคิดหนักเมื่อเห็นความสำเร็จที่เขาเคยปฏิเสธ
“ฉันน่าจะรับบทนั้นไว้เอง!” เดอะ ดุกเคยยอมรับอย่างตรงไปตรงมาในภายหลัง
แต่ถ้าคุณคิดว่าจอห์ย เวนย์จะยอมแพ้ คุณคิดผิด!
จอห์น เวนย์กลับตัดสินใจยิงหมัดสวน ด้วยการสร้าง McQ หนังแนวตำรวจแบบเดียวกับ Dirty Harry เพื่อประกาศว่าเขาก็สามารถสร้างตัวละครดิบเถื่อนได้เหมือนกัน
“ผมคิดว่าผมจะเป็น Dirty Duke ได้” เวนย์กล่าวอย่างมั่นใจ
อย่างไรก็ตาม แม้จะพยายามสุดตัว แต่ McQ กลับไม่ได้รับการตอบรับที่ดีเท่าที่หวัง ทั้งจากผู้ชมและนักวิจารณ์ หลายคนมองว่ามันเป็นเพียงการเลียนแบบ Dirty Harry ที่อ่อนกว่าในทุกมิติ
และถึงแม้การแข่งขันระหว่างทุ้งคู่จะสิ้นสุดลงพร้อมกับบทเรียนของ “ราชาคาวบอยเก่า” แต่เรื่องราวนี้ก็ยังคงถูกเล่าขานในฐานะหนึ่งในศึกแห่งวงการที่ไม่มีใครลืม เพราะมันไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของหนัง แต่คือเรื่องราวของศักดิ์ศรี ความทะเยอทะยาน และความดื้อรั้นที่ไม่ยอมแพ้ต่อความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
