12 ม.ค. เวลา 07:47 • ประวัติศาสตร์

GS-EP4-เทพทันใจ นัตบอบอจี

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวไทยที่มายังเมืองย่างกุ้งประเทศเมียนมาร์ต้องมาสักการะบูชาคงหนีไม่พ้นองค์เทพที่สวมชฎา มือซ้ายถือไม้เท้า มือขวาชี้นิ้วชี้ออกไปด้านหน้า นัตบอบอจี ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ที่เล่ากันปากต่อปากว่าสามารถขอพรให้สมหวังได้อย่างรวดเร็วทันใจจนได้สมญานามว่า เทพทันใจ แท้จริงแล้วเป็นใคร มีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่ ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ไหนบ้าง
เรื่องเล่าที่ผมจะเล่านี้เป็นเรื่องของตำนาน ความเชื่อ อาจจะมีผิดเพี้ยนไปบ้าง หรือชื่อที่เป็นภาษาพม่าอาจจะออกเสียงผิดเพี้ยนไปบ้างต้องขออภัยล่วงหน้าเลยนะครับ เทพทันใจหรือนัตบอบอจี บางแหล่งจะอ่านและสะกดว่านัตโบโบยี ซึ่งที่มาที่ไปของชื่อนัตบอบอจีนั้นมาจากคำว่า นัต และบอบอจี คำว่า “นัต” มาจากคำว่า “นาถะ” ในภาษาบาลีแปลว่า “ที่พึ่ง” แต่สำหรับความเชื่อของชาวเมียนมาร์แล้ว นัต หมายถึงกึ่งผีกึ่งเทพคล้ายเทพารักษ์ที่มีหน้าที่ปกปักษ์รักษาสถานที่ที่ตนได้เคยผูกสัมพันธ์ด้วย
ส่วนบอบอจีนั้นแปลเป็นไทยว่าพ่อปู่ หรือพ่อใหญ่ โดยก่อนสมัยพุทธกาลนี้ชาวเมียนมายังไม่ได้มีศาสนาใดยึดเหนี่ยวจิตใจก็มักจะนับถือผีนัตนี่แหละครับ เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ จนพุทธศาสนาเข้ามาเผยแพร่ในพม่า ทำให้ความเชื่อเรื่องนัตผสมผสานเข้ากับพุทธศาสนา นัตบอบอจีก็เลยหมายถึงปู่เจ้าหลวง วิญญาณเทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ผู้อาวุโสที่คอยคุ้มครองปกป้องสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนานั่นเอง
ตำนานเรื่องเล่าของนัตบอบอจีนั้นเล่าต่อๆกันมาว่าแท้จริงแล้วนัตบอบอจีนั้นมีด้วยกัน 5 องค์ และเกี่ยวข้องกับการสร้างพระมหาเจดีย์ โดยเรื่องเริ่มต้นมาจากพ่อค้าชาวมอญ 2 คนชื่อ ตปุสสะและภัลลิกะ ได้ไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า พระองค์จึงประทานพระเกศาให้พ่อค้าทั้งสองมา 8 เส้น เมื่อพ่อค้าทั้งสองกลับมายังเมียนมาก็ได้นำมาถวายกษัตริย์ก็คือพระราชาโอะกะลาปะ พระราชาโอะกะลาปะจึงได้มีพระราชดำริให้สร้างพระมหาเจดีย์เพื่อบรรรจุพระเกศาของพระพุทธเจ้า พูดง่ายๆก็คือพระราชาโอะกะลาปะจะเป็นสปอนเซอร์สร้างพระมหาเจดีย์ให้อะครับ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นครับอยู่ๆจะสร้างเลยสงสัยกลัวว่าจะง่ายไป พ่อค้าทั้งสองก็คือตปุสสะและภัลลิกะกล่าวว่าตามตำนานของบ้านเมืองเนี่ยการสร้างพระมหาเจดีย์ต้องสร้างที่บริเวณเนินเขาสิงคุตระซึ่ง เนินเขานี้เป็นตำนานไงครับ ตั้งอยู่ที่ไหนก็ไม่มีใครรู้ พระราชาโอะกะลาปะได้ฟังดังนี้ก็เห็นพ้องตามครับ ให้คณะทำงานออกตามหาเนินเขาสิงคุตระแห่งนี้ แต่พอมันเป็นตำนานใช่ไหมครับ มันก็ไม่รู้จะไปหาไปเริ่มต้นที่ไหน แล้วจะรู้ได้ไงว่าตรงไหนคือสถานที่ที่ถูกต้อง
ทีมงานคุณภาพก็ตามหาไปเรื่อยๆจนวันนึงครับ ขณะที่คณะค้นหากำลังทำงานกันอยู่ อยู่ๆก็มีนัตบอบอจีองค์หนึ่งปรากฏกายขึ้นครับ แล้วชี้นิ้วออกไป ทางคณะค้นหาก็เลยเข้าใจว่านัตบอบอจีต้องการจะชี้นิ้วไปยังเขาสิงคุตระนั่นเอง ก็เลยดีอกดีใจมุ่งหน้าไปทิศทางนั้น แต่พอเดินทางไประยะหนึ่งก็เริ่มไม่มั่นใจว่ามาถึงหรือยัง หรือเหลืออีกใกล้ไกลแค่ไหนก็ไม่อาจทราบได้ อยู่ๆก็มีนัตบอบอจีอีกองค์ปรากฏกายขึ้นและชี้นิ้วบอกทิศต่อไปอีก คณะค้นหาก็ดีใจเดินทางไปตามทิศที่นัตบอบอจีองค์ที่สองชี้
พอเดินทางไปอีกสักพักก็พบกับปัญหาเดิมคือไม่รู้ว่ามาถึงหรือยัง เหลือระยะทางอีกใกล้ไกลแค่ไหน และก็เหมือนเช่นเคยอีกครั้งครับ นัตบอบอจีองค์ที่ 3 ก็ปรากฏพร้อมชี้นิ้วอีกครั้ง คณะค้นหาก็เดินทางตามทิศที่ชี้ไปอีกครั้ง ก็พบนัตบอบอจีองค์ที่ 4 ชี้นิ้วอีกครั้ง จนสุดท้ายเดินทางไปพบนัตบอบอจีองค์ที่ 5 คราวนี้ไม่ชี้ไปไหนแล้วครับ ชี้นิ้วลงดิน เป็นการบอกคณะค้นหาว่าถึงแล้ว ที่นี่แหละเขาสิงคุตระนั่นเอง
ดังนั้นนิ้วที่ชี้ของนัตบอบอจี หรือเทพทันใจ ก็คือชี้ไปที่เขาสิงคุตระหรือสถานที่สำหรับสร้างพระมหาเจดีย์ชเวดากองสำหรับเก็บพระบรมสารีริกธาตุนั่นเอง
เมื่อได้สถานที่แล้วก็เริ่มสร้างพระมหาเจดีย์และพระมหาเจดีย์แห่งนี้ก็คือพระมหาเจดีย์ชเวดากองอันเลื่องชื่อนั่นเองครับ ตามตำนานยังกล่าวอีกว่าระหว่างการก่อสร้างเจดีย์แห่งนี้ นัตบอบอจีทั้ง 5 ก็ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อประชุมบนยอดเขาเขาสิงคุตระแห่งนี้ และนำของวิเศษอีก 3 อย่าง มาบรรจุร่วมกันกับพระเกศาของพระพุทธเจ้า
และของวิเศษทั้ง 3 สิ่งนั้นก็คือ ไม้เท้าของพระกกุสันโธ กระบอกน้ำของพระพุทธโกนาคมโน ผ้าสงบของพระพุทธกัสสปะ และในอนาคตยังมีความเชื่อว่าจะมีสิ่งของจากสมเด็จพระอริยะเมตรตรัยหรือพระศรีอาริย์มาบรรจุร่วมไว้ ณ สถานที่แห่งนี้ด้วย
ปัจจุบัน “นัตบอบอจี” ในประเทศเมียนมาร์มี 5 องค์ เท่ากับจำนวนนัตบอบอจีในตำนาน พอดีครับ
– องค์ที่ 1 ตั้งอยู่ที่ “พระธาตุอินแขวน” หินรูปหัวฤาษี เมืองไจทิโย อำเภอสะเทิม เขตรัฐมอญของประเทศเมียนมา บนยอดเขา เหนือระดับน้ำทะเล 3,615 ฟุต
– องค์ที่ 2 ตั้งอยู่ที่ “เจดีย์สุเหล่” ใจกลางเมืองย่างกุ้ง ซึ่งเป็นศาสนสถานหลักใจกลางกรุงย่างกุ้งมานานหลายร้อยปี รอบ ๆ ฐานเจดีย์ จะมีพระประจำวันเกิดให้มากราบไหว้อีกด้วย นัตบอบอจีหรือเทพทันใจที่นี่มีขนาดใหญ่ที่สุดในพม่า และเป็นองค์ที่ชาวพม่านับถือมากที่สุด
– องค์ที่ 3 ตั้งอยู่ที่ “เจดีย์กลางน้ำเยเลพญา” เมืองสิเรียม ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ตรงจุดบรรจบของแม่น้ำหงสาและแม่น้ำย่างกุ้ง เจดีย์ที่นี่สร้างโดยคหบดีชาวมอญ ระหว่างทางขึ้นไปสักการะพระเจดีย์ ตรงประตูทางเข้าจะมียักษ์เขียว 2 ตน ซึ่งชาวพม่าก็เชื่อกันว่า ถ้าหากเราลูบตามตัวยักษ์ แล้วมาลูบที่ตัวเรา อาการปวดเมื่อยต่าง ๆ ก็จะหายไปด้วย ส่วนเทพทันใจที่สถิตอยู่ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องการขอพรทางด้านการค้า ศิลปินดารานิยมมาไหว้องค์นี้ ที่ไหนในย่างกุ้งจะสร้างเทพทันใจ จะต้องมาบรวงสรวงขออนุญาตที่นี่ก่อน
– องค์ที่ 4 ตั้งอยู่ที่ “เจดีย์ชเวดากอง” เมืองย่างกุ้ง เป็นองค์ที่รักษาองค์พระบรมเกศาธาตุที่เจดีย์ชเวดากองไว้นั่นเอง
– องค์ที่ 5 ตั้งอยู่ที่ “วัดโบตาทาวน์” ซึ่งเป็นวัดที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำย่างกุ้ง ซึ่งองค์นัตบอบอจี ณ ที่แห่งนี้นี่เองที่เป็นที่มาของเทพทันใจ และที่เป็นเลื่องชื่อและเป็นยอดนิยมของคนไทย โดยทุกกรุ๊ปทัวร์และนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปด้วยตัวเอง จะเลือกไปเซ่นไหว้เทพทันใจองค์นี้ และผู้คนหลั่งไหลไปไหว้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน คิวยาวเหยียด และเครื่องสักการะที่หนาแน่นและวางขายด้านนอกเป็นจำนวนมาก
ส่วนการบูชานัตบอบอจีหรือเทพทันใจนั้นมีความเชื่อว่าต้องสักการะด้วยดอกไม้ ผลไม้ ได้แก่ มะพร้าวอ่อน และกล้วย จากนั้นให้นำธนบัตรจำนวน 2 ใบใส่ไว้ที่มือท่าน จากนั้นก็อธิษฐานขอพร แล้วดึงกลับคืนมา 1 ใบ เพื่อเก็บรักษาไว้
สุดท้ายให้นำหน้าผากไปแตะกับนิ้วชี้ของท่าน เพื่อให้พรสัมฤทธิ์ผลรวดเร็วทันใจยิ่งขึ้น การอธิษฐานขอพรต่อเทพทันใจ มีเคล็ดลับ ว่าต้องขอเพียงข้อเดียวเท่านั้น เพื่อพลังกล้าแข็งในการถวายเครื่องเซ่น ห้ามเปลี่ยนใจ
นัตบอบอจีหรือเทพทันใจศักดิ์สิทธิ์เพียงใด ท่านใดเคยสักการะขอพรต่อนัตบอบอจีแล้วผลเป็นอย่างไร มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ
#history #ที่นี่มีเรื่องเล่า #ประวัติศาสตร์ #gstory #เทพทันใจ #นัตบอบอจี
โฆษณา