12 ม.ค. เวลา 10:24 • ไลฟ์สไตล์

20 ข้อคิดดีจากหนังสือที่จะ ทำให้คุณเข้าใจคนมากขึ้น

.
.
อ้างอิงจากหนังสือ: เศรษฐศาสตร์พฤติกรรม ฉบับเข้าใจง่ายที่สุดในโลก! (Amazing Decisions)
ผู้เขียน: Dan Ariely (แดน อารีลีย์)
สำนักพิมพ์: วีเลิร์น (WeLearn)
.
1.เราอาศัยอยู่ในโลก 2 ใบที่มีบรรทัดฐาน 2 แบบคือบรรทัดฐานทางตลาดและบรรทัดฐานทางสังคม
.
2.ผู้คนที่ไม่ได้รับสิ่งตอบแทน แต่ลงมือทำด้วยใจหรือบรรทัดฐานทางสังคม มักเต็มใจที่จะลงมือทำมากกว่า เพราะไม่ถูกครอบงำด้วยบรรทัดฐานแห่งการตลาด
.
3.ถ้าผู้คนรู้สึกว่าตัวเองได้รับสิ่งตอบแทนน้อยเกินไป จะทำให้พวกเขาไม่เต็มใจจะลงมือทำ เพราะผู้คนมักทุ่มเทเท่าจำนวนเงินที่ได้รับ
.
4.เวลาเลือกใช้บรรทัดฐานจงเลือกให้ดี ถ้าเอาทั้งสองอย่างมารวมกันจะทำให้เกิดปัญหาแน่นอน เพราะแต่ละคนมีมุมมองไม่เหมือนกัน
.
5.การที่เราเข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการหรือสิ่งที่อีกฝ่ายคิด จะทำให้เราเลือกใช้บรรทัดฐานได้ถูกจนสร้างความพอใจให้ทั้งสองฝ่าย
.
6.ในความสัมพันธ์หรือโลกทางสังคม อย่าได้คาดหวังการตอบแทนหรือสิ่งแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมกัน เพราะเราไม่สามารถคาดการณ์ทุกอุปสรรคหรือทุกผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นได้
.
7.จงใช้แรงจูงใจภายใน ที่ทำให้คนๆนั้นอยากลงมือทำจากใจจริงเพราะจะเต็มใจทำ
มากกว่าที่จะใช้แรงจูงใจภายนอกไม่ว่าจะเป็นของขวัญหรือเงินรางวัลที่ให้เมื่อทำสิ่งนั้น เพราะมันจะไม่ได้ผลเมื่อไม่มีเงินหรือของขวัญ
.
8.พอเรารู้สึกว่าจะต้องทำอะไรเป็นการแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา เช่น การได้ค่าจ้าง เราจะเทียบความคุ้มค่าที่จะลงมือทำ ซึ่งถ้าสิ่งตอบแทนน้อยเกินไป ความจูงใจในการลงมือทำก็จะลดลง
.
9.คนเราจะรู้สึกมีความสุขมากขึ้นเมื่อได้ใช้เงินเพื่อคนอื่น ถ้าเทียบกับจำนวนเงินเท่ากันที่เราใช้เพื่อตัวเอง
.
10.คนเราต้องการให้งานคือสิ่งเติมเต็มชีวิต ผ่านประสบการณ์ ความสัมพันธ์ ความสุขจากการทำงานมากกว่าการได้รับผลตอบแทนจำนวนมากอย่างเดียว
.
11.ถ้าเสนอเงินและของขวัญที่ไม่ใช่ตัวเงิน แต่มีมูลค่าเท่ากัน คนจะเลือกเงิน
แต่คนที่เลือกของขวัญที่ไม่ใช่ตัวเงิน จะรู้สึกมีความสุขและพึงพอใจในของขวัญมากกว่า เพราะมันเชื่อมโยงเข้ากับความรู้สึก
.
12.เมื่อถึงจุดหนึ่ง เงินจะไม่สามารถสร้างแรงจูงใจได้อีกต่อไป ไม่ว่ามันจะมากแค่ไหนก็ตาม
.
13.การให้รางวัลจูงใจเป็นเงิน จะเพิ่มแรงจูงใจได้เฉพาะเวลาที่ให้เงินเท่านั้น พอไม่ให้เงินแล้ว แรงจูงใจจะแย่กว่าก่อนให้เงินเสียอีก
.
14.คนที่ทำสิ่งใดก็ตามด้วยแรงจูงใจจากภายใน จะมีความใส่ใจมากกว่า คนที่ทำด้วยแรงจูงใจจากภายนอก เช่น คำสั่ง การลงโทษ ที่จะทำแค่ให้เสร็จเท่านั้น
.
15.การใช้บรรทัดฐานทางสังคมก่อน แล้วเปลี่ยนไปใช้บรรทัดฐานทางตลาด จะทำให้ผู้คนเปลี่ยนมุมมองมองและความรู้สึกจนโฟกัสไปที่เงินหรือสิ่งตอบแทนมากขึ้น
และเปรียบเทียบผลลัพธ์จากการกระทำจนมีความเห็นแก่ตัวมากขึ้น เช่น การที่โรงเรียนจะเก็บค่าที่มารับลูกช้า ทำให้ผู้ปกครองไม่มีความรู้สึกผิดและความละอาย
เพราะคิดว่ายังไงก็ต้องจ่าย และถ้าทำอย่างอื่นก่อนจะคุ้มกว่า จนมารับสายกว่าเดิม
.
16.เมื่อมีความคิดเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง จะทำให้ผู้คนเห็นแก่ตัวมากขึ้นและใส่ใจคนอื่นน้อยลง
.
17.การจะกลับมาใช้บรรทัดฐานทางสังคม จะต้องใช้เวลานาน เพราะผู้คนโฟกัสที่ผลประโยชน์ไปแล้ว
.
18. อย่ากำหนดกฎเกณฑ์จนแน่นและเยอะมากเกินไป เพราะมันจะทำให้ผู้คนโฟกัสแค่กฎที่ถูกเขียนลงไปเท่านั้น
จงมีที่ว่างให้คนได้คิดและใช้จิตวิญญาณของตัวเองในการลงมือทำ
.
19.เมื่อคนเรารู้ว่าคนส่วนใหญ่ในสังคมทำสิ่งไหน ก็จะลงมือทำสิ่งนั้นตามไปด้วย
.
20.อย่าลืมคิดถึงความสัมพันธ์และเหลือทางถอยไว้ให้อีกฝ่ายด้วย อย่าเอาแต่ได้ฝ่ายเดียวจนทำลายความสัมพันธ์
.
พิกัดหนังสือ: https://s.shopee.co.th/8zpRfL4hne
#หนังสือน่าอ่าน #เรื่องน่ารู้ #นิสัย #อ่านใจคน #จิตวิทยา #เรียนรู้วันละเรื่อง #book
โฆษณา