12 ม.ค. เวลา 14:02 • ปรัชญา
ทางโลกเราก็อาจจะมองแบบนั้น
แต่เราทุกคนมีใจหรือจิตที่เต็มกันมาอยู่แล้ว
เรามีจิตที่เป็นผู้รู้และจิตผู้รู้เค้าได้สร้างจิตตสังขาร
ที่เป็นจิตปรุงแต่งขึ้นมาเพื่อสร้างองค์ความรู้
ให้เค้าได้ใช้ชีวิตอยู่ในมิติที่เป็นสมมุติ
แท้ที่จริงจิตที่เป็นผู้รู้(คือจิตเดิมแท้)เป็นจิตที่ประภัสสร)
แต่เค้าถูกจิตปรุงแต่งที่เป็นอวิชชาห่อหุ้มเอาไว้
แท้ที่จริงจิตผู้รู้เค้าทำหน้าที่รู้เพียงอย่างเดียว
ใครจะฆ่าตัวตายเค้าก็รู้ทำได้เพียงแค่รู้
เค้าอยากจะให้เราแต่แท้ที่จริงก็ไม่มีเรา
ภาษาธรรมเรียกเราว่าสังขาร
เค้ารอให้สังขารพาเค้าเป็นอิสระด้วยการ
ตื่นรู้เพื่อมาเห็นความจริงแท้ก่อนที่จะเป็น
ความจริงโดยสมมุติเพื่อหลุดออกจากจิตตสังขาร
แต่ด้วยเราทุกคนอยู่ในมิติที่เป็นสมมุติ
เราจึงไม่รู้และทำการค้นหาอีกครึ่งหนึ่ง
เข้ามาเติมให้เต็มแต่หากใครปรารถนา
ที่จะกลับมาเกิดยังสนุกกับการปรุงแต่ง
ของโลกก็เอาแล้วแต่เลย(ขอตอบแบบคนทางธรรมนะครับ)สำหรับใครที่ปฎิบัติจนสำเร็จในขั้นที่สูงแล้ว
จิตของเค้าจะเป็นหนึ่งเดียวกับอนันตจักรวาล
และจักรวาลจะส่งขัอมูลมาที่จิตของเค้า
เค้าจะรอบรู้ทุกเรื่องในจักรวาลและอธิบาย
ด้วยภาษาที่งดงามดั่งบทกวี
โฆษณา