เมื่อวันก่อนผมได้มีโอกาสสัมภาษณ์กระทิง พูนผล เจ้าพ่อ start up ไทยและผู้นำแห่งองค์กรเทคโนโลยีที่ล้ำสุดในไทยอย่าง KBTG ที่ HOW Club กระทิงที่ผมรู้จักมานานแต่ไม่เคยได้มีโอกาสสัมภาษณ์ลึกๆ ซักที รอบนี้จึงเป็นโอกาสดีที่ได้เจาะลึกจนตอบคำถามข้อสำคัญที่เกี่ยวกับกระทิงได้
ในขณะที่ก็ดูแลกองทุน 500 startup เพิ่งตั้งกองทุนใหม่อีกกอง เสาร์อาทิตย์ก็สอนหลักสูตร CXO มาแล้วหลายรุ่น ไม่รวมถึงค่ำๆวันธรรมดาและวันหยุดก็ทำ HOW Club กับผมได้อีกแถมไฟแรงไม่มีตกอีกด้วย ทำได้ดีมากๆงานหนึ่งก็ไม่ง่ายอยู่แล้ว แต่สร้างสรรค์งานใหม่ๆออกมาได้โดยที่ของเก่าก็ยังดีต่อเนื่องนี่แทบนึกไม่ออกว่าทำได้อย่างไร
จนกระทิงเล่าถึงหลักคิดที่เขานำมาใช้ เป็นหลักคิดของคุณ Naval Ravikant Executive coach ชื่อดังจาก Silicon Valley แหล่งคิดนวัตกรรมใหม่ของโลก คุณนาวาลมีเครื่องมือที่ไว้ประเมินภาวะผู้นำในการทำงานว่าในพื้นที่การงานของเรานั้นจะมีสี่โซน โซนแรกคือ zone of incompetence เป็นงานที่เราทำได้ไม่ดีเลย ทำทีไรก็มักจะมี negative feedback เสมอ และมีคนพร้อมที่จะทำได้ดีกว่าเรา (สำหรับผมก็คืองานละเอียดๆที่ต้องใช้ข้อมูลมากๆ ห่วยมาตั้งแต่เริ่มงาน)
1
โซนที่สองเรียกว่า zone of competence คือลักษณะงานที่เราพอทำได้ ไม่ได้เด่นกว่าคนอื่นแต่ก็ไม่ได้แย่และทำไปก็งั้นๆ ไม่ได้รู้สึกว่าสนุกกับมันเท่าไหร่ โซนที่สามเรียกว่า zone of excellence คือลักษณะงานที่ทำไปก็ได้รับคำชมตลอดเวลาเพราะเราทำได้ดีกว่าคนอื่น ยิ่งทำยิ่งเก่งและโดดเด่นอย่างมาก แต่เราไม่ได้ชอบทำมันเท่าไหร่ กระทิงบอกว่าผู้นำองค์กรส่วนใหญ่จะโตขึ้นมาและติดกับดักนี้เพราะทำได้ดีมาก มีประโยชน์ต่อองค์กร บริษัทเห็นค่ามากๆแต่พลังเรากลับลดลงเรื่อยๆ
7
โซนสุดท้ายเรียกว่า Zone of genius เป็นงานที่เราทำแล้วแทบลืมเวลาและทำแล้วก็ได้ผลงานดีมากเมื่อเทียบกับเวลาที่ใช้ไป เป็นโซนที่ดีทั้งองค์กรและดีทั้งตัวเอง ยิ่งทำยิ่งมีพลังและยิ่งเก่งขึ้นซึ่งผู้นำที่เก่งจะต้องเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในลักษณะงานแบบนี้ให้ได้เป็นส่วนใหญ่ของงานทั้งหมด
โดยที่งานที่แม้ว่าเราจะทำได้ดีแต่ไม่ได้ชอบทำอย่าง zone of excellence เราก็ควรจะต้องพยายามหาคนที่ทำได้มาทำแทนให้มากที่สุด หรือถ้าตัดออกได้ก็ตัด ตัดไม่ได้จริงๆก็พยายามให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น และยิ่งถ้าหาคนที่ชอบทำได้ด้วย zone of excellence ของเราก็อาจจะเป็น zone of genius ของเขาก็ได้ซึ่งจะยิ่งทำให้ทั้งเขาและเราได้ประโยชน์ทั้งคู่ในที่สุด
พอฟังกระทิงเรื่อง zone of genius ถึงได้เข้าใจว่า ที่กระทิงมีพลังทำเรื่องใหม่ๆได้หลายอย่างนั้นเพราะนอกจากความมีวินัยขั้นสุดของกระทิงที่โดดเด่นมากๆ นั้น สิ่งที่คนไม่ได้สังเกตเห็นก็คือความสามารถในการหาคนเก่งมาทำงานแทนงานที่ตัวเองทำได้ดีแต่ไม่ได้ชอบทำ เท่าที่ผมพอรู้ ไม่ว่าจะเป็นงานกองทุนที่มีน้องมะเหมี่ยวที่แสนเก่ง หรืองาน system ก็มีพี่ต้อมที่มีฝีมือระดับเทพและชอบงานแบบนี้มาดูแล ไม่พูดถึงคนเก่งๆ ที่รายล้อมกระทิงอีกจำนวนมาก
2
ซึ่งคนเหล่านี้ก็ได้ทำใน zone of genius ของตัวเอง และกระทิงก็ได้ขยับขยายเข้า zone of genius ของตัวเองด้วยเช่นกันซึ่งก็เป็นเรื่อง startup AI และเรื่องสอนคน