13 ม.ค. เวลา 09:51 • หนังสือ

เมื่อญี่ปุ่นจุดไฟป่าในสหรัฐฯ

ช่วงนี้มีข่าวไฟป่าที่ฝั่งตะวันตก สหรัฐฯ ร้ายแรงมาก ก็ขอส่งใจไปช่วยให้วิบัติยุติลงโดยเร็ว
1
ฝั่งตะวันตกสหรัฐฯ เกิดไฟป่าอยู่เรื่อย นี่ก็เป็นจุดอ่อนที่กองทัพญี่ปุ่นมองเห็นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
ถ้าจุดไฟป่าขึ้นได้หลายๆ จุด สหรัฐฯจะยุ่งกับการแก้ปัญหานี้ จนไม่มีเวลาไปสู้กับญี่ปุ่น
แต่ญี่ปุ่นอยู่ห่างจากฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯเท่ามหาสมุทรแปซิฟิก ในสมัยสงครามโลก เครื่องบินทิ้งระเบิดยังบินไม่ได้ไกลขนาดนั้น
แล้วทำยังไง?
ง่ายนิดเดียว ก็ยัดเครื่องบินใส่เรือดำน้ำ แล่นไปที่ชายฝั่งสหรัฐฯ แล้วบินไปทิ้งระเบิดใส่ป่า เพื่อให้เกิดเพลิงป่า
เดี๋ยวก่อน! ผู้อ่านอาจร้อง ไม่เชื่อหรอก นี่มันนิยายแฟนตาซีชัดๆ อ๋อ! เดี๋ยวนี้อำกันซึ่งหน้าอย่างนี้เลยหรือ
สงสัยเพราะยังไม่ได้อ่านหนังสือเรื่อง ำ (อำ) จึงไม่รู้ว่านี่เป็นเรื่องจริง
นี่เป็นเรื่องจริงครับ ตรวจสอบได้เลย
ญี่ปุ่นมีเรือดำน้ำชนิดหนึ่งเรียก I-25 เป็นเรือดำน้ำประจัญบาน บรรทุกเครื่องบินเล็กแบบ Yokosuka E14Y ซึ่งสามารถบินขึ้นลงจากน้ำได้ เครื่องบินถูกถอดเป็นชิ้นส่วนเก็บในเรือดำน้ำ เมื่อต้องการใช้งานก็ประกอบขึ้นมาใหม่
ความเร็วของเครื่องบินชนิดนี้คือ 150 ไมล์ต่อชั่วโมง ติดปืนกลเพียงกระบอกเดียว และบรรทุกระเบิด 76 กิโลกรัมได้สองลูก
1
วันหนึ่งที่ท่าเรือโยโกสุกะ นักบิน โนบุโอะ ฟูจิตะ ได้รับคำสั่งให้ไปรายงานตัวกับผู้บัญชาการ อิอูระ
นักบินหนุ่มวัยยี่สิบเก้ารอไม่นาน เจ้าชายทากามัตสึ อนุชาสมเด็จพระมหาจักรพรรดิก็เสด็จเข้ามาในห้องนั้น โนบุโอะ ฟูจิตะ เคยพบเจ้าชายทากามัตสึมาก่อนครั้งหนึ่งในโรงเรียนฝึกรบ
ชายอีกคนหนึ่งก้าวเข้ามาในห้อง แนะนำตัวเอง "ผมคืออิอูระ"
ผู้บัญชาการมองหน้าเขา "ฟูจิตะ เรามีปฏิบัติการพิเศษสำหรับคุณ คุณจะไปบอมบ์แผ่นดินใหญ่อเมริกา"
โนบุโอะ ฟูจิตะ มองผู้บัญชาการด้วยความไม่เชื่อหู
สมองของ โนบุโอะ ฟูจิตะ สับสนอลหม่าน จะไปทิ้งระเบิดที่ไหน? ซีแอตเติล? พอร์ตแลนด์? ซาน ฟรานซิสโก? ด้วยเครื่องบินลำเล็กนิดเดียวของเขา?
1
ผู้บรี๊ฟงานเป็นอดีตนักการทูตประจำสหรัฐฯ คลี่แผนที่เต็มโต๊ะ อธิบายว่า "เรายึดเอกสารเหล่านี้ได้มาจากหมู่เกาะเวค..."
1
เขาชี้ไปที่เส้นเขตแดนโอเรกอน-แคลิฟอร์เนีย "...หน้าที่คุณคือไปบอมบ์ป่าตรงนี้"
"บอมบ์ป่า?" นักบินหนุ่มงงหนัก
"พื้นที่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐฯเป็นป่าใหญ่ หากคุณสามารถทำให้เกิดไฟป่าขนาดใหญ่ที่นั่นได้ ไอ้กันก็ต้องระดมพลไปดับไฟอีกนาน นี่เป็นการสร้างความระส่ำระสายต่อศัตรูของเรา"
เขาเข้าใจจุดประสงค์ของปฏิบัติการนี้แล้ว แต่มันอาจเป็นการฆ่าตัวตาย
วันที่ 15 สิงหาคม 1942 เรือดำน้ำ I-25 ออกจากท่าโยโกสุกะ ข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อไปถึงจุดหมาย ท้องทะเลใกล้ชายฝั่งอเมริกาปั่นป่วนมาก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถประกอบเครื่องบินรบ จำต้องรอฟ้าเปิด
โนบุโอะ ฟูจิตะ เล่าว่า เขาเตรียมพร้อมที่จะตายในปฏิบัติการครั้งนี้ เขาตัดผมของเขากระจุกหนึ่ง ใส่ในลิ้นชักพร้อมพินัยกรรม หากเขาเสียชีวิต มันจะถูกส่งไปให้ภรรยาของเขาที่บ้าน
วันที่ 9 กันยายน 1942 ทะเลสงบเรียบ เรือดำน้ำก็ลอยขึ้นเหนือผิวน้ำอย่างเงียบเชียบ
เครื่องบินเล็กพานักบิน โนบุโอะ ฟูจิตะ กับ โชจิ โอกุดะ และลูกระเบิดสองลูก ทะยานขึ้นเหนือฟ้าอเมริกา ขณะที่เรือดำน้ำจมตัวเองไปรอที่จุดนัดหมาย หากทั้งสองทำการสำเร็จ
1
นักบินทั้งสองบิลงใต้ข้ามแหลมบลังโก ที่ความสูง 2,500 เมตร เมื่อผ่านป่าใหญ่ โนบุโอะ ฟูจิตะ ก็ตะโนบอกเพื่อนว่า "เราจะทิ้งระเบิดตรงนี้"
2
แล้วลูกระเบิดก็ร่วงลงไป ส่งเสียงคำรามกัมปนาททั่วป่าข้างล่าง
เครื่องบินข้ามแหลมบลังโกอีกครั้ง ผ่านเรือสินค้าสองลำ โนบุโอะ ฟูจิตะ ภาวนาว่าเรือสินค้ามองไม่ออกว่าเครื่องบินที่ผ่านไปเป็นสัญชาติญี่ปุ่น
1
ทั้งสองไปถึงจุดนัดพบ ปฏิบัติการสำเร็จ ไฟป่าถูกจุดขึ้นแล้ว
โนบุโอะ ฟูจิตะ รายงานการพบเรือสินค้าสองลำ กัปตันไม่ต้องการเสี่ยง ก็สั่งให้รีบถอดเครื่องบินออกเป็นชิ้น แล้วดำดิ่งลงน้ำทันที
จริงดังคาด เมื่อดำลงไปได้สิบแปดเมตร ระเบิดทำลายเรือดำน้ำลูกแรกของอเมริกันก็มาเยือน เรือสั่นสะท้านไปท้งลำ ไฟดับไปครู่ใหญ่
ระเบิดตามลงมาอีกหหายลูก แต่พลาด เรือดำน้ำเสียหายบางส่วน แต่ก็ซ่อมได้ในภายหลัง
1
พวกเขายังมีระเบิดเหลืออีกสี่ลูก แม้รู้ว่าฝ่ายอเมริกากำลังตามล่าพวกเขา ฟูจิตะก็อยากทำงานนี้ให้จบ
1
แต่การทิ้งระเบิดที่แผ่นดินใหญ่อเมริกาในตอนกลางวันเสี่ยงเกินไป โดยเฉพาะหลังจากที่ฝ่ายตรงข้ามรู้แล้วว่าญี่ปุ่นมาป้วนเปี้ยนที่หน้าบ้าน
ก่อนเที่ยงคืนวันที่ 29 กันยายน ห้าสิบไมล์นอกแหลมบลังโก เรือดำน้ำญี่ปุ่นก็ลอยขึ้นเหนือน้ำ พวกเขาประกอบเครื่องบินอีกครั้ง สองนักบินเดนตายนำเครื่องบินขึ้นฟ้า คราวนี้ทิ้งระเบิดที่ป่าตะวันออกของ พอร์ต ออร์ฟอร์ด พวกเขาเห็นเปลวเพลิงลุกโชติช่วงในความมืด
ในเที่ยวกลับพวกเขาระวังตัวมากขึ้น เมื่อผ่านแหลมบลังโก ฟูจิตะดับเครื่องยนต์ จนเมื่อร่อนผ่านเขตอันตรายไปแล้ว จึงติดเครื่องยนต์ใหม่
พวกเขาไปถึงจุดนัดหมาย และไม่เชื่อสายตาตัวเอง
ไม่มีเรือดำน้ำรอพวกเขา ณ จุดนัดพบ
ฟูจิตะรู้สึกเสียววูบ รู้ว่าจุดจบจะเป็นอย่างไรหากไม่พบเรือของพวกเขา
ทั้งสองบินย้อนกลับไปที่ประภาคารอีกครั้งเพื่อจับทิศใหม่ คราวนี้เขาเห็นรอยบนน้ำเป็นทางคล้ายน้ำมันรั่ว ฟูจิตะขับตามรอยน้ำมันไป และพบว่ามันรั่วมาจากเรือของพวกเขาเอง พวกเขาร่อนลงจอดกลางทะเล และขึ้นเรือแม่ได้ในที่สุด
หลังจากรอนแรมปฏิบัติการเสี่ยงตายในห้วงสมุทรศัตรูนานเจ็ดสิบวัน เรือ I-25 ก็กลับบ้านในสภาพยับเยิน แต่ไม่มีลูกเรือเสียชีวิตสักคนเดียว
1
ปฏิบัติการเดนตายสิ้นสุดลง โนบุโอะ ฟูจิตะ ร้องไห้เมื่อเรือเทียบท่า
มีสองสามคำถามเกี่ยวกับปฏิบัติการครั้งนั้น
ทำไมฝ่ายอเมริกาซึ่งมีเทคโลโลยีการบินดีมากชาติหนึ่ง จึงไม่สามารถจับการมาของเครื่องบินญี่ปุ่นได้ ทั้งที่อยู่ในช่วงเตรียมพร้อมรับศึก?
คำตอบคือมีรายงานการพบเครื่องบินญี่ปุ่น ทั้งจากฝ่ายพลเรือนและทหาร แต่พวกเขาละเลยการพบเหล่านั้น เพราะไม่มีใครเชื่อว่าเครื่องบินญี่ปุ่นจะบินมาไกลขนาดนี้
คำถามที่สองคือ ทำไมเรื่องนี้ไม่เป็นข่าวใหญ่ในสหรัฐฯ? คำตอบง่าย ๆ คือเพราะรัฐบาลอเมริกันไม่ต้องการให้พลเมืองตื่นตระหนก
2
คำถามสุดท้ายคือ ถ้าปฏิบัติการของญี่ปุ่นเกิดขึ้นจริง ทำไมไม่มีรายงานเกี่ยวกับไฟไหม้ป่า?
คำตอบคือเป็นเรื่องของดวงโดยแท้ ฝ่ายญี่ปุ่นไม่ได้รับรายงานเกี่ยวกับสภาพดินฟ้าอากาศของชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ เพราะระหว่างสงคราม ทางการเลิกรายงานสภาพอากาศทางวิทยุ
ช่วงเวลาที่ฟูจิตะกับเพื่อนทิ้งระเบิดลงบนแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯนั้น พวกเขาไม่รู้เลยว่าป่ากำลังเปียกชื้น
ระเบิดที่นักบินญี่ปุ่นหย่อนลงไปนั้นเกิดระเบิดขึ้นจริง แต่ความชื้นของป่าทำให้ไฟดับลงอย่างรวดเร็ว และไม่ก่อความเสียหายอย่างที่ญี่ปุ่นคาดไว้
1
หากพวกเขาทิ้งระเบิดเร็วกว่านี้หลายสัปดาห์ เมื่อป่ากำลังแห้งเกรียม ผลลัพธ์อาจออกมาตรงกันข้าม
ย่อจากหนังสือ ำ (อำ) / วินทร์ เลียววาริณ
25 เรื่องเหลือเชื่อ ราคาเพียง 165 บาท = เรื่องละ 6.6 บาท (ไม่คิดค่าส่ง)
หนังสือเหลืออยู่ไม่มาก หมดเมื่อไร จะไม่ตีพิมพ์ใหม่แล้ว
(ภาพไฟป่าที่ L.A. โดย NBC News)
1
โฆษณา