Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
BeautyInvestor
•
ติดตาม
14 ม.ค. เวลา 12:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
🎯 ตลาดหุ้นแต่ละที่อยู่ในสภาวะไหน 🐻 Bear 🆚 Bull 🐂
วันนี้นิคกี้จะมาอธิบายภาวะตลาดหุ้นที่สำคัญ 3 แบบ ได้แก่ Bull Market, Bear Market และ Correction เพื่อให้นักลงทุนมือใหม่เข้าใจมากขึ้นเวลาเจอคำศัพท์พวกนี้ค่ะ ☺️
🐂 Bull Market (ตลาดกระทิง): ตลาดขาขึ้น
Bull Market คือช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนมีความเชื่อมั่นและมองโลกในแง่ดี ทำให้เกิดการซื้อขายอย่างคึกคัก และราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ
ลักษณะสำคัญของ Bull Market
📈 ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น: ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทั่วไปแล้วเราจะเรียกว่าตลาดเข้าสู่ Bull Market เมื่อมีการปรับตัวขึ้นมากกว่า 20% จากจุดต่ำสุดก่อนหน้าค่ะ
3
💰เศรษฐกิจเติบโต: สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมดี บริษัทต่างๆ มีผลกำไรเพิ่มขึ้น
💪🏻 ความเชื่อมั่นนักลงทุนสูง: นักลงทุนมีความมั่นใจในตลาดและกล้าที่จะลงทุน
📊 ปริมาณการซื้อขายสูง: มีการซื้อขายหุ้นเป็นจำนวนมาก
ตัวอย่าง: ดัชนี S&P500 และ Nasdaq
🐻 Bear Market (ตลาดหมี): ตลาดขาลง
Bear Market คือช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนเกิดความกังวลและมองโลกในแง่ร้าย ทำให้เกิดการเทขายหุ้น และราคาหุ้นปรับตัวลดลง
ลักษณะสำคัญของ Bear Market
📉 ราคาหุ้นปรับตัวลดลง: ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยทั่วไปแล้วเราจะเรียนว่าตลาดเข้าสู่ Bear Market เมื่อมีการปรับตัวลงมากกว่า 20% จากจุดสูงสุดก่อนหน้าค่ะ
⚠️ เศรษฐกิจชะลอตัวหรือถดถอย: สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมไม่ดี บริษัทต่างๆ ประสบปัญหาขาดทุน
🙁 ความเชื่อมั่นนักลงทุนต่ำ: นักลงทุนขาดความมั่นใจในตลาดและพยายามหลีกเลี่ยงการลงทุน
🔻 ปริมาณการซื้อขายลดลง: มีการซื้อขายหุ้นน้อยลง
ตัวอย่าง: ดัชนี SET และ MSCI China
‼️Correction (การปรับฐาน): การปรับตัวระยะสั้น
Correction คือการปรับตัวลดลงของราคาหุ้นอย่างรวดเร็วในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่ไม่หนักเท่า Bear Market
ลักษณะสำคัญของ Correction:
⤵️ ราคาหุ้นปรับตัวลดลง 10% แต่ไม่เกิน 20%: เป็นการปรับตัวในช่วงสั้นๆ ไม่ได้ยาวนานเท่า Bear Market
👉🏻 เกิดขึ้นได้ใน Bull Market: มักเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดเป็นขาขึ้น แต่ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นมากเกินไป และเร็วเกินไป
🛍️ เป็นโอกาสในการซื้อ: นักลงทุนบางส่วนมองว่า Correction เป็นโอกาสในการซื้อหุ้นในราคาที่ถูกลง ถ้าคาดว่าจะไม่เกิด Bear Merket
ตัวอย่าง: TWSE และ SENSEX
⚠️ Bear Market Rally 🐼
คือ การที่ราคาสินทรัพย์ เช่น หุ้น พุ่งขึ้นชั่วคราวในช่วงที่ตลาดหมี หรืออยู่ในช่วงขาลง
1
ลักษณะสำคัญของ Bear Market Rally
🐻 เกิดขึ้นในช่วงตลาดหมี: แม้ภาพรวมของตลาดจะยังเป็นขาลง แต่จะมีช่วงเวลาสั้นๆ ที่ตลาดดีดตัวขึ้น
⏫ ชั่วคราว: การขึ้นของราคามักจะไม่ยั่งยืน ไม่กลับไปทำ High ใหม่ หรือเข้าสู่ Bull Market ซึ่งอาจจะตามมาด้วยการร่วงลงอีกครั้ง
😜 หลอกให้นักลงทุนตายใจ: นักลงทุนอาจเข้าใจผิดคิดว่าตลาดหมีสิ้นสุดแล้ว และรีบเข้าซื้อ ทำให้ขาดทุนเมื่อราคาตกลงมาอีก
👉🏻 สาเหตุของ Bear Market Rally
แรงซื้อช้อนซื้อ: นักลงทุนบางส่วนอาจมองว่าราคาที่ตกลงมาเยอะมากนั้นเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ
Short Covering: นักลงทุนที่ Short Sell ไว้ อาจรีบซื้อคืนเพื่อปิดสถานะ ทำให้ราคาถูกดันขึ้น
ข่าวดีระยะสั้น: อาจมีข่าวดีบางอย่างที่ทำให้เกิดความหวังในระยะสั้น เช่น นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
Technical Rebound: ราคาที่ตกลงมาเยอะเกินไป อาจทำให้เกิด Technical Rebound ตามหลักการวิเคราะห์ทางเทคนิค
ตัวอย่าง: SET และ ตลาดหุ้นจีนโดยรวม
🎯 การเข้าใจภาวะ Bull Market, Bear Market และ Correction พร้อมทั้งขนาดการปรับตัวของตลาดหุ้น จะช่วยให้นักลงทุนมือใหม่ประเมินสถานการณ์และตัดสินใจลงทุนได้อย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้งค่ะ
หุ้น
การเงิน
การลงทุน
6 บันทึก
20
6
6
20
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย