15 ม.ค. เวลา 04:08 • ธุรกิจ

ภูมิรัฐศาสตร์ สงครามเย็นครั้งใหม่ และประเทศไทยควรอยู่จุดใด

รัฐภูมิศาสตร์ มากจากคำว่า... "ภูมิศาสตร์" กับ "รัฐศาสตร์" รวมกัน ที่จะอธิบายถึงความสัมพันธ์ระหว่าง "รัฐ" ผ่านมุมมองเชิงพื้นที่ "พื้นที่" ที่กล่าวถึง ไม่ใช่แค่ภูมิศาสตร์เขตแดน ทรัพยากร แต่หมายความรวมทั้งภูมิศาสตร์มนุษย์ เชื้อชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ที่สื่อถึงโลกทัศน์ได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
หลังจาก "สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง" โลกเข้าสู่สงครามเย็น ที่แข็งขันกันในด้านอุดมการณ์ทางการเมือง ระหว่าง "สหรัฐฯ" และ "สหภาพโซเวียต" ซึ่งท้ายที่สุดนั้น "สหภาพโซเวียต" ก็ล่มสลายไป มุมมองของคนยุคนั้น ให้ความคิดที่ว่า ประวัติศาสตร์โลกมาถึงจุดสิ้นสุดแล้วเพราะ "ระบอบเสรีประชาธิปไตย" และ "นิยมเสรี" จะกลายเป็นระบอบการปกครอง ที่ชนะทุกระบอบการปกครองได้ โดยอ้างแนวคิดของนักวิชาการที่มีชื่อ "ฟรานซิส ฟูกูยามะ" คนเขียนหนังสือเรื่อง (The Ead of History and the Last man ในปี 1992)
แต่... เวลาผ่านไปไม่นานและจนปัจจุบันนี้ มันไม่ได้เป็นไปอย่างที่คาดการณ์ไว้ในอดีต เพราะหลัง 'โซเวียต' ล่มสลายไป การต่อสู้ที่ดูเหมือนจะจบลงพร้อมกับชัยชนะอย่างถาวรของ "สหรัฐฯ" ก็เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง กับ"ผู้เล่น" หรือ "คู่แข่ง" รายใหม่ ที่ยิ่งใหญ่กว่า "โซเวียต" นั่นก็คือ "ประเทศจีน" จนทำให้นักวิชาการทั่วโลกมองว่า ตอนนี้ เรากำลังอยู่ใน"สงครามเย็นครั้งที่ 2"
ทำไมถึงให้แนวคิดที่ว่าปัจจุบัน เป็น"สงครามเย็นครั้งที่ 2" เนื่องจาก "ประเทศจีน" ทำการค้า และการตลาดแบบการค้าโลก มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงทางเศษฐกิจกับ "สหรัฐฯ" ในระดับสูง และ "ประเทศจีน" ยังปกครองแบบเผด็จการพรรคเดียว คือ พรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งแตกต่างจากชาติตะวันตก ที่่ปกครองในระบอบเสรีนิยมประชาธิปไตยหลายพรรค และทั้งสองมหาอำนาจ มีจุดเปราะบางในความเห็นต่างในหลายเรื่อง เช่นทะเลจีนใต้ เกาะไต้หวัน
ทั้งนี้มุมมองในเรื่องอุดมการณ์ มันอาจจะไม่ร้อนแรงเท่ากับครั้งก่อนในเรื่องของการแข่งขันกันด้านความมั่นคง พลังทางการทหาร เพราะความแตกต่างระหว่าง "โซเวียต" กับ "ประเทศจีน" ในปัจจุบัน คือ "โซเวียต"เป็นมหาอำนาจทางทหาร แต่ทางการค้าไม่สามารถสู้กับ"สหรัฐฯ"อย่างสมน้ำสมเนื้ออย่าง "ประเทศจีน"ได้ "ประเทศจีน"ในปัจจุบันนี้มีการเดินหมากที่ครบทุกมิติ โดย"สหรัฐฯ" เองก็ออกมายอมรับว่า "ประเทศจีน" เป็นคู่แข่งขันที่ครบทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ เทคโนโลยี และอิทธิพลทางการฑูล โดยทั้ง 2 มหาอำนาจ
พยายามเชื่อโลกทั้งใบ ในรูปแบบของตัวเอง และผลักฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากสมการ ให้ได้มากที่สุด เดิม... "สหรัฐฯ" ต้องการโลกที่ตัวเองเป็นผู้นำเดี่ยว หรีอที่เรียกว่า (Single American Dominance) ซึ่ง "สหรัฐฯ" ก็ได้เป็นมาตลอดหลังยุคสงครามเย็น ส่วนจีนเคยบอกว่า อยากได้โลกแบบ"พหุภาคี" ที่มีหลายชาติมาสรัางสรรค์ และจัดโลกใหม่ นักวิชาการทั่วโลกมองว่า... ทั้ง 2 ฝ่ายคงต้องผิดหวัง เพราะปัจจุบันนี้เป็นลักษณะ "โลกทวิภพ" หรือ (Bipolar World) คือ โลก 2 มหาอำนาจโดด หลายมหาอำนาจเด่น
หลายปีที่ผ่านมาระเบียบโลกถูกนำโดยการค้าเสรี ผ่านห่วงโซ่อุปทานโลก หรือ (Global Supply Chain)ที่มีแกนกลาง คือจีนและสหรัฐฯ เป็นแกนกลางคู่ขนานกันไป ซึ่งนักวิชาการเรียกปรากฎการณ์นี้ว่า... (Chimerica) เนื่องจากสองมหาอำนาจ มีระบบเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงผูกพันธ์กันสูงมาก เป็นยุคของโลกาภิวัฒน์ที่ประชากรโลกถูกหลอมรวมกลายเป็น"สังคมเดี่ยว" จากอิทธิพลร่วมาทงเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี วัฒนธรรม และการเมือง
คำถามสำคัญ... "ประเทศไทย" จะทำอย่างไรให้ทันต่อความผันผวนของโลก และภูมิรัฐศาสตร์ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยมาโดยตลอด ไทยอยู่ในกลุ่มเศรษฐกิจแบบเปิด ช่วงเวลาที่ผ่านมาไทยได้ประโยชน์จากทั้ง 2 ประเทศมหาอำนาจ เมื่ออดีต"สหรัฐฯ"ทำข้อตกลงกับ"ประเทศญี่ปุ่น" ให้"ประเทศญี่ปุ่น"ต้องย้ายฐานการผลิตมาที่อาเซียน ไทยก็เป็นหนึ่งในผู้ได้รับผลโยชน์นั้นจนกลายเป็นยุคทองของเศรษฐกิจไทย ต่อมาจีนพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว คลื่นลูกแรกของการแข่งขันระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ไทยก็ได้ประโยชน์เนื่องจากธุรกิจย้ายจากจีน
เข้ามาลงทุนที่ประเทศไทย เพื่อที่จะทำให้สินค้าของตัวเองไม่โดนกีดกันทางการค้าและสามารถส่งออกไปยัง"สหรัฐฯ"ได้ โดยนักวิชาการเรียกเศรษฐกิจแบบ "ส้มหล่น" เช่นเดียวกันกับกลุ่มอาเซียน ที่เศรษฐกิจ ต้องเพิ่งพา"ประเทศจีน" แต่กลับกัน ด้านความมั่นคงกับมีความใกล้ชิดกับ "สหรัฐฯ" มากกว่า โดยปัจจุบันชาติอาเซียนรวมถึงไทย ไม่อาจะแบ่งกลุ่มและตัดสินใจเด็ดขาดได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า.. จะเลือกอยู่กับใคร
นักวิชาการเสนอสิ่งที่ประเทศไทยควรมี คือ ยุทธศาสตร์ 3 M
  • 1.
    Middle Power ไทยควรจะมีบทแบบในฐานะมหาอำนาจระดับกลาง และหาโอกาสจากแข่งขันของสองมหาอำนาจให้มากกขึ้นกว่านี้
  • 2.
    Mainland South East Asia ทำอย่างไรประเทศไทยถึงจะมีบทบาทเป็นผู้นำ และเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค โดยเฉพาะในอาเซียนก่อน
  • 3.
    Risk Mitigation การกระจายความเสี่ยง โดยประเทศไทยคงไม่สามารถเอาไข่ที่มี ไปไว้กับ จีน หรือ สหรัฐฯ ได้
ตอนนี้อำนาจและการแข่งขัน ของสองมหาอำนาจมีความไม่แน่นอนสูง เต็มไปด้วยความผันผวนแปรปรวน ไม่มีใครสามารถฟันธงได้ชัดเจนว่า... ทิศทางลมจะพัดไปทางไหน ไม่มีใครสามารถตอบได้ว่า "สหรัฐฯ" และ "จีน" ใครจะเผชิญกับการล่มสลายเหมือนกับ"สหภาพโซเวียต"ในอดีตหรือไม่ ซึ่ง"ประเทศไทย"จำเป็นต้องหาวิธีรับมือกับพายุลมที่พัดไปมานี้ เพราะเรื่องของรัฐศาสตร์และการแข่งขันทางอำนาจ จะส่งผลต่อเราทุกคน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โฆษณา