Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ณัฐมาคุย
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
15 ม.ค. เวลา 05:34 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ประวัติ UPI ในอินเดีย
มาต่อกันเรื่อง UPI หรือ Universal Payment Interface ของอินเดียกัน และเทียบกับพร้อมเพย์
ไอเดียของ UPI เริ่มมาจากการจัดตั้ง National Payment Corporation of India ในปี 2008 ตามกฎหมาย Payment and Settlement Systems Act, 2007 โดยธนาคารกลางของอินเดีย และสมาคมธนาคารของอินเดีย และพบว่าในปี 2011 คนอินเดียโดยเฉลี่ยทำธุรกรรมแบบไม่ใช้เงินสดเพียง 6 ธุรกรรมต่อปี ทั้งๆ ที่มีธุรกิจกว่า 10 ล้านธุรกิจที่รับการชำระเงินผ่านบัตร และมีคนอีกกว่า 145 ล้านคนที่ไม่มีบัญชีเงินฝาก
Reserve Bank of India หรือ RBI จึงมีวิสัยทัศน์ที่จะสร้างระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ และได้มอบหมายไว้ทาง NPCI เป็นผู้ออกแบบ โดยนำเสนอรูปแบบธุรกรรม 2 แบบ คือ P2P Peer-to-Peer และ P2M Peer-to-Merchant โดยออกแบบให้มีผู้เกี่ยวข้อง 4 รายในธุรกรรมแบบ real-time อันได้แก่
1. ผู้ชำระเงิน – บุคคลที่เริ่มต้นการชำระเงิน
2. ผู้รับเงิน – บุคคลที่ได้รับการชำระเงิน
3. ธนาคารผู้รับผลประโยชน์ – เกี่ยวข้องกับบัญชีธนาคารของผู้รับ
4. ธนาคารผู้ส่งเงิน – เกี่ยวข้องกับธนาคารของผู้จ่ายและบัญชีที่แนบมา
และมีแอปที่ให้บริการโดย Payment Service Provider ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นธนาคาร เมื่อผู้ใช้ลงแอป ก็สามารถสร้างบัญชี (Virtual Payment Address) ได้
ตอนแรกเปิดตัวมาปี 2016 แทบไม่มีผู้ใช้บริการเลย จนกระทั่ง PhonePe startup รายหนึ่งสนใจเข้ามาต่อเชื่อม บริษัทนี้มี FlipKart บริษัทขายของออนไลน์เป็นผู้ถือหุ้น บริษัทนี้จึงมีแรงจูงใจอย่างมากในการทำให้การชำระเงินออนไลน์เกิด เพราะในเวลานั้น การชำระเงินส่วนใหญ่เป็นการชำระเงินปลายทาง ซึ่งมีการทุจริต และความเสียหายมาก นอกจากนั้นยังมี Google ที่เข้ามาในตลาดนี้ โดยเอา solution ของ Google Pay เข้ามาใช้งาน และผู้เล่นรายใหญ่อีกรายคือ Paytm ที่ back โดย Alibaba มาร่วมด้วย
วันก่อนพี่ไพศาลไปเที่ยวมา และสงสัยว่าทำไมมันเป็นแบบนี้ ไม่เหมือนพร้อมเพย์ที่มีแต่ธนาคารเป็นเจ้าของแอปไปเกือบหมด แต่ในอินเดีย ธนาคารมีส่วนแบ่งเพียงไม่ถึง 10%
คำตอบนี้มีหลายข้อ คือ
1. ประเทศอินเดียใหญ่มากๆ มีธนาคารกว่า 140 แห่ง และมีคนที่ไม่มีบัญชีอีกเป็นจำนวนมาก ทำให้ตลาดฝั่งผู้ใช้ fragmented มากๆ ไม่มีความชัดเจน
2. ในเวลานั้น อินเดียไม่มีระบบ single id เหมือนระบบบัตรประชาชนไทย ทำให้ธนาคารต้องใช้เอกสารยืนยันตัวเองจนวุ่นวาย
3. แต่การเปิดบัญชี e-wallet สามารถทำได้ง่าย และทันที ทำให้ PSP เหล่านี้ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และการที่แอปเหล่านี้มี back เป็นผู้ให้บริการ e-commerce ยิ่งช่วยสร้างแรงจูงใจให้จัดโปรต่างๆ ให้ลูกค้าเปิดบัญชี
4. ส่วนเมืองไทย ต้องยอมรับกันว่า สมาคมธนาคารไทยในตอนแรกพยายามจำกัดให้เฉพาะสมาชิกสมาคมธนาคารไทย และสถาบันการเงินพิเศษเข้าถึงพร้อมเพย์ได้ จึงทำให้ผู้ให้บริการ e-wallet เข้าถึงโดยตรงไม่ได้ และถึงแม้ภายหลังต่อได้ แต่ก็ถูกชาร์จค่าบริการสูงกว่าเจ้าอื่นพอควร จึงทำให้บางคนบอกว่า พร้อมเพย์เกิดมาเพื่อฆ่าฟินเทค ก็คงไม่ผิดมากนัก
ในตอนนี้ UPI เป็นหนึ่งในระบบการชำระเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีธุรกรรมมากกว่า 400 ล้านธุรกรรมต่อวัน และสามารถใข้จ่ายในต่างประเทศได้มากกว่า 10 ประเทศเลยทีเดียว
1 บันทึก
6
1
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย