ไม่เคยได้ยินคำว่า sell then build นะคะ แต่อ่านโจทย์แล้วเข้าใจว่า จขกท.น่าจะหมายถึง paid trial รึป่าว (ในกรณีที่เป็น physical goods ไม่แน่ใจว่าใช้คำ paid sample ได้ไหมนะ)
การสำรวจหา real demand โดย free trial หรือ paid trial ไม่ได้เหมาะกับสินค้าทุกประเภทค่ะ มีข้อดี-ข้อด้อย-ข้อจำกัดต่างกัน และอาจได้ผลบวกลวง/ลบลวง (false positive / false negative) หากคุณตั้ง criteria ไม่ชัด
อันที่จริง paid trial เป็นการช่วยคัดกรอง potential customers ในเบื้องต้น แต่ก็อาจทำให้เจ้าของสินค้าพลาดลูกค้าบางกลุ่มไป เพียงเพราะเหตุผลว่า เคยชินกับของฟรี
ดังนั้นส่วนใหญ่ paid trial มักทำในกรณีที่เจ้าของ product รู้ชัดอยู่แล้วว่าสินค้านั้นๆมีดีมานด์รออยู่ แล้วจึงทำสำรวจกับโฟกัสกรุ๊ปเพื่อหาข้อมูลเชิงลึก (เช่น ช่วงราคา หรือความต้องการพิเศษ หรือความคาดหวังอื่นๆของลูกค้า)
ยุคนี้ entrepreneur ผู้ประกอบการหน้าใหม่ จะขายอะไรก็ต้องนึกถึง platform shopping online (อย่าง shopee/lazada) การเปิดร้านในออนไลน์มอลล์ ง่ายก็จริงแต่คุณอาจไม่ได้ข้อมูลครบถ้วนตามจริง ตามวัตถุประสงค์ของการทำสำรวจ แถมโดนสกัดดาวรุ่งเพราะสินค้าเจ้าอื่นอาจตั้งราคาและเงื่อนไขที่จูงใจกว่า
ถ้าสินค้าของคุณเป็น niche แนะนำให้ไปฝากร้านในกลุ่มเฉพาะค่ะ หรือใน market place ของสถาบันการศึกษาที่คุณเป็นศิษย์เก่า
อย่าลืมว่าถ้าจะเทสต์ตลาด ช่องทางการเข้าถึงกลุ่มตัวอย่างสำคัญมาก (ยกตัวอย่าง ออเดอร์จาก platform นึงอาจเงียบกริ๊บ แต่อีก platform นึงขายดีถล่มทลาย)
โดยสรุปคือ พยายามเปิดไปหลายๆช่องทางให้มากที่สุด แล้วค่อยรวบรวมข้อมูลมานั่งวิเคราะห์อีกทีค่ะ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
