สหรัฐฯ ออกกฎแบนรถยนต์และเทคโนโลยีจากจีนและรัสเซีย
รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของ Joe Biden ได้ออกกฎห้ามนำเข้าและจำหน่ายรถยนต์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องจากจีนและรัสเซีย เนื่องจากเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ การตัดสินใจครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศและต่างประเทศ
▶️เหตุผลเบื้องหลังการแบน
ทำเนียบขาวระบุว่าการตัดสินใจครั้งนี้เป็นการ “ดำเนินการที่เด็ดขาดเพื่อปกป้องสหรัฐฯ จากความเสี่ยงด้านความมั่นคงที่เกิดจากการแทรกแซงในห่วงโซ่อุปทานของรถยนต์ที่มีการเชื่อมต่อได้ (Connected Vehicles) โดยจีนและรัสเซีย”
กฎใหม่นี้ที่พัฒนาโดย Department of Commerce จะห้ามการนำเข้าและจำหน่ายระบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในรถยนต์ รวมถึงรถยนต์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (connected vehicles) จากจีนและรัสเซีย โดยให้เหตุผลว่าการเชื่อมต่อ Bluetooth, Cellular, Satellite และ Wi-Fi ที่แม้จะเพิ่มความสะดวกสบาย แต่ก็อาจเป็นช่องทางให้ “ผู้ไม่ประสงค์ดี” เข้าถึงระบบและข้อมูลสำคัญได้
▶️กฎใหม่ส่งผลกระทบต่อรถยนต์และเทคโนโลยีอย่างไร
กฎดังกล่าวห้ามการนำเข้าหรือจำหน่ายระบบที่พัฒนาโดยบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับ PRC (People's Republic of China) หรือ Russia ซึ่งรวมถึง:
- ระบบเชื่อมต่อ (VCS) เช่น Bluetooth, Cellular, Satellite, และ Wi-Fi
- ระบบขับขี่อัตโนมัติ (ADS)
- ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สำหรับรถยนต์ที่เชื่อมต่อ
ข้อกำหนดนี้จะเริ่มมีผลในปี 2027 สำหรับซอฟต์แวร์ และในปี 2030 สำหรับฮาร์ดแวร์ นอกจากนี้ ยังกำหนดห้ามการขายรถยนต์ในสหรัฐฯ ที่ผลิตโดยบริษัทที่อยู่ภายใต้การควบคุมของจีนหรือรัสเซีย แม้ว่าจะผลิตในสหรัฐฯ ก็ตาม
▶️รถยนต์ที่อาจได้รับผลกระทบ
แม้จะยังไม่ชัดเจนว่านโยบายนี้จะส่งผลอย่างไร แต่รถยนต์แบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับทุนจีน เช่น Volvo, Polestar อาจต้องขออนุญาตพิเศษในการดำเนินการตลาดสหรัฐฯ
▶️ความเป็นไปได้ในอนาคต
ในขณะนี้ กฎใหม่ยังครอบคลุมเฉพาะรถยนต์นั่งส่วนบุคคล แต่รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณานำกฎที่คล้ายกันมาบังคับใช้กับรถพาณิชย์และรถที่มีน้ำหนักเกิน 10,000 ปอนด์ (4,536 กิโลกรัม)
การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความกังวลของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อภัยคุกคามด้านไซเบอร์และข้อมูลจากจีนและรัสเซีย ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศในระยะยาว
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
