16 ม.ค. เวลา 01:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ

Advanced Reading : จับตาทิศทาง Bond Yield ฉุดตลาดตราสารหนี้โลก !!!

อีกสัญญาณของการปรับฐานของตลาด เกิดขึ้นแล้วในตลาดตราสารหนี้ หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Government Bond Yield) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในหลายประเทศ ยกตัวอย่างเช่น
• Bond Yield 10 ปี สหรัฐฯ แตะ 4.80% สูงสุดในรอบ 14 เดือน
• Bond Yield 10 ปี อังกฤษ สูงสุดตั้งแต่ปี 2008 และ 30 ปี แตะสูงสุดตั้งแต่ปี 1998
• Bond Yield 10 ปี ญี่ปุ่น พุ่งขึ้นเหนือ 1% สูงสุดในรอบ 13 ปี
• Bond Yield 10 ปี อินเดีย + ออสเตรเลีย + นิวซีแลนด์ แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน
ราคา (Bond Value) และอัตราผลตอบแทน (Yield) ของตราสารหนี้เป็นส่วนกลับของกันและกัน – ภาพจาก RBCGAM.com
Bond Yield ปรับตัวขึ้น แปลว่าอะไร ?
ตามทฤษฎีทางการเงิน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล จะเป็น “ส่วนกลับของราคาตราสารหนี้” หมายความว่า หากราคาตราสารหนี้ปรับตัวลง อัตราผลตอบแทนของตราสารก็จะปรับตัวเพิ่มขึ้น และในทางกลับกัน หากราคาตราสารหนี้ปรับตัวขึ้น อัตราผลตอบแทนของตราสารก็จะปรับตัวลงนั่นเอง
ตอนนี้ ราคาตราสารหนี้ปรับตัวลงต่อเนื่อง เพราะถูกนักลงทุนเทขายออกมาเรื่อยๆครับ ซึ่งเหตุการณ์นี้อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น
1. ความกังวลว่าเงินเฟ้อจะเร่งตัว (ธนาคารกลางจะต้องขึ้นดอกเบี้ย หรือ อย่างน้อยก็ลดดอกเบี้ยยากขึ้น)
2. เศรษฐกิจไม่ดี (ธนาคารอาจจำเป็นต้องลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ) ฯลฯ
3. การคาดการณ์ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น (เป็นแค่บางประเทศ เช่น ญี่ปุ่น)
4. ตลาดหุ้นเติบโตได้ดี ทำให้นักลงทุนขายตราสารหนี้ออกมาแล้วนำเงินไปลงทุนในหุ้น (ตอนนี้ ไม่น่าใช่เหตุผลนี้นะ)
ผมเชื่อว่า ราคาตราสารหนี้ที่ร่วงลงต่อเนื่องจะ “กระทบผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้/หุ้นกู้” ของเพื่อนๆอย่างแน่นอน ใครมีการลงทุนในตราสารหนี้อาจมีคำถามว่า “ทำไงดี ?” ผมมองแบบนี้ครับ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษ อายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นสูงสุดตั้งแต่ปี 2008 - ภาพจาก https://www.nytimes.com/2025/01/14/business/bonds-gilt-yield-britain-economy.html
Mr. เต่า มองว่ายังไง ?
Mr. เต่า มองว่า Bond Yield มีโอกาสปรับตัวขึ้น “กดดันตลาด” ไปอีกระยะ ซึ่งจะกดดันผลตอบแทนจากการลงทุนทั้งตราสารหนี้และหุ้น
โดยส่วนตัว ผมคาดว่า มูลค่าหุ้นที่ค่อนข้างแพง, Bond Yield ที่ปรับตัวขึ้น และความไม่แน่นอนของนโยบายของ ปธน. Trump มีโอกาสทำให้ตลาดหุ้นโลกย่อตัวลงในเดือนนี้
สิ่งเดียวที่พอจะเป็นแรงบวกให้ตลาดได้ในช่วงนี้ ก็คือ “การประกาศผลประกอบการไตรมาส/ 2024” ของบริษัทต่างๆ ที่ล่าสุด กลุ่มธนาคารออกมาค่อนข้างดี ซึ่งอาจจะช่วยลดแรงกดดันของตลาดลงได้บ้างในช่วงปลายเดือน ม.ค. นี้ครับ
Mr. เต่า อาจจะคิดเหมือนเพื่อนๆหลายคน ผมคิดว่า หุ้นสหรัฐฯยังเป็น “ตลาดหุ้นที่น่าสนใจที่สุด” เพราะมีแนวนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ “ใจถึง พึ่งได้” และนโยบายการเงินน่าจะยังผ่อนคลาย ทำให้ตลาดหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นในปีนี้
เพื่อนๆที่ชอบหุ้นสหรัฐฯ แนะนำ “รอซื้อเมื่อย่อตัว” ตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. ที่นาย Trump มีกำหนดการสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ปธน. สหรัฐฯ จะเลือกซื้อหุ้นรายตัวขนาดใหญ่ หรือกองทุนรวมหุ้นสหรัฐฯ ก็ได้ตามที่สนใจครับ
ปีนี้จะเป็นปีที่ลงทุนค่อนข้างยาก แต่ผมเชื่อนะว่า เพื่อนๆจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนได้แน่นอนครับ
---มาลุยไปพร้อมกันเล้ย สู้ๆ ทุกคน... ---
โชคดีในการลงทุนนะครับ
Mr. เต่า
ค้นหาบทความเต่าน้อยลงทุนผ่าน Facebook ได้อีกช่องทางที่
#อัพเดตการลงทุน #เต่าน้อยลงทุน #ลงทุน #การลงทุน #กองทุนรวม #ข่าวต่างประเทศ #หุ้น #ตลาดหุ้นโลก #กองทุนรวม #ข่าวการลงทุน #ข่าวเศรษฐกิจ #เศรษฐกิจโลก
ติดตามเพจ “เต่าน้อยลงทุน” ได้ที่
โฆษณา