15 ม.ค. เวลา 16:11 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

Nvidia ตอนที่ 3

ระหว่างที่เขาเรียนอยู่ เขาก็พยายามสมัครฝึกงานที่บริษัท Tektronix บริษัทผลิตอุปกรณ์ที่ใช้ทดสอบ และวัดในโรงงานอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ในเมืองที่เขาอยู่ แต่ก็ถูกปฏิเสธอยู่หลายที พอเขาใกล้จบเขาก็เริ่มสมัครงานหลายแห่ง ที่ที่เขาอยากทำงานมากที่สุดคือ Texas Instrument แต่เขาสัมภาษณ์ได้ไม่ดี เลยไม่ได้งาน และเขาก็ได้สัมภาษณ์ที่ AMD และ LSI Logic และได้งานทั้งสองที่ แต่เขาก็เลือกเริ่มงานที่ AMD เพราะเขาชื่นชม AMD มาตั้งแต่ตอนเรียนที่ออกแบบไมโครชิปได้
ทั้ง Jensen และ Lori จึงต้องย้ายหลักปักฐานใหม่ที่ California เขาเองก็ไม่ธรรมดา กลางวันทำงานออกแบบชิป กลางคืนก็เรียนปริญญาโท Electrical Engineering ที่ Stanford University ไปด้วย และความที่เขาเรียนแบบ part time ทำให้จริงๆ เขาใช้เวลาเรียนนานถึง 8 ปีกว่าจะจบ ระหว่างนั้นเขาก็มีลูกกับ Lori ด้วยกันสองคน ชีวิตของเขาในช่วงนั้นจึงวุ่นวายพอสมควร ทั้งงาน ทั้งเรียน ทั้งลูก แต่เขาก็ผ่านมันมาได้
1
ตอนที่เขาทำงานที่ AMD การออกแบบชิปทุกอย่างทำด้วยมือ จนเขาสงสัยงานที่เขาทำว่ามันไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้เหรอ วันหนึ่งเพื่อนร่วมงานของเขาลาออกไปทำงานที่ LSI Logic และมาชวนเขาไปทำงาน โดยเล่าให้ฟังว่าที่นั่นใช้คอมพิวเตอร์ข่วยในการออกแบบชิป ทำให้ทำงานได้เร็วขึ้น ที่ LSI เป็นบริษัทที่ขึ้นชื่อเรื่องการออกแบบ ASIC (Application Specific Integrated Circuit) ที่ออกแบบชิปให้ทำงานตามที่ต้องการโดยเฉพาะ แทนที่จะเป็นชิปที่ทำงานตามชุดคำสั่งทั่วไป
ถึงแม้ว่าจะดูเสี่ยงกับการต้องออกไปงานใหม่ แต่เขาเชื่อว่าบริษัทแบบนี้ล่ะถึงจะเป็นบริษัทแห่งโลกอนาคตของวงการชิป เขาจึงลาออกและไปทำงานในตำแหน่งที่ต้องดูแลลูกค้า ซึ่งด้วยความบังเอิญ ลูกค้าที่เขาต้องดูแลคือ Sun Microsystem บริษัท startup อีกบริษัทหนึ่งในเวลานั้น และที่นี่เองทำให้เขาได้พบกับ Curtis Priem และ Chris Malachowsky ที่จะมาเป็น cofounder กับเชาในอนาคต
1
โฆษณา