16 ม.ค. เวลา 03:49 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

Blade of Fury ดาบคลั่ง แห่งจักรวาล ยอดกระบี่ไร้เทียมทาน

การผจญภัยในจักรวาลกำลังภายในที่ไม่เหมือนใคร
น่าสนใจว่าหนังกำลังภายในออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเรื่องหนึ่งของ iQIYI คือยอดกระบี่ไร้เทียมทาน (2022) เป็นจุดที่ผลักดันให้เกิดจักรวาลหนังกำลังภายในออนไลน์ขึ้นมา เมื่อในปี 2024 ด้วย ยอดกระบี่ไร้เทียมทาน ภาคสอง และปลายปี 2024 ก็แนะนำ "ดาบคลั่ง" - Blade of Fury ออกฉายเป็นเรื่องที่ 3 ในจักรวาลนี้
ลักษณะของจักรวาลกำลังภายในนี้ก็คล้ายกับมาร์เวลคือเรื่องราวเกิดในยุคเดียวกัน มีการแชร์ตัวละครข้ามเรื่องกันได้
จักรวาลกำลังภายในยอดกระบี่ไร้เทียมทานนี้เป็นโครงการที่พยายามเชื่อมโยงเรื่องราวและตัวละครในหนังหลายเรื่องเข้าด้วยกัน โดยโครงการนี้เริ่มต้นจากความสำเร็จของซีรีส์ Eye for an Eye ทั้งในแง่ของฉากแอ็กชันที่เข้มข้นและตัวละครที่มีเอกลักษณ์ ซีรีส์นี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางเนื่องจากการนำเสนอแนวจอมยุทธ์แบบ Old School แต่เพิ่มการถ่ายทำที่ทันสมัย และมาตรฐานงานสร้างที่สูงกว่าหนังสตรีมมิ่งทั่วไป
เรียกว่าหนังแนวจอมยุทธ์นี้แม้จะดูเหมือนเป็นแนวที่ล้าหลังในตลาดหนังปัจจุบัน แต่ยังคงมีฐานผู้ชมที่ภักดี โดยเฉพาะในออนไลน์ที่ใช้งบประมาณควบคุมได้
ยอดกระบี่ไร้เทียมทานโดดเด่นด้วยการเล่าเรื่องที่กระชับ เน้นเรื่องราวที่ตรงประเด็นและตัวละครที่มีมิติ นอกจากนี้ ฉากแอ็กชันยังถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน ทั้งการต่อสู้ที่สมจริง การออกแบบฉาก การถ่ายทำ และองค์ประกอบทางศิลปะที่ยกระดับให้เทียบเท่ากับภาพยนตร์โรง ทำให้หนังออนไลน์เรื่องนี้กลายเป็นหนังออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในปี 2022
ส่วนใน Blade of Fury หรือดาบคลั่งนั้นถือว่าเป็นภาคแยกของจักรวาลยอดกระบี่ไร้เทียมทาน ตัวละครหลัก คือเผยซิงถูกออกแบบมาให้มีบทบาทสำคัญในเรื่องราวหลักของจักรวาลนี้ ไม่ยิ่งหน่อยไปกว่าไอ้บอดเฉิง โดยเขาเป็นนักดาบที่มีความขัดแย้งในตัวเองและต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทายจริยธรรม
ขณะที่พื้นหลังของเรื่องเกิดขึ้นในโลกที่มีบริบทและความขัดแย้งเดียวกัน เช่น การต่อสู้ระหว่างกลุ่มอำนาจต่าง ๆ และความพยายามของตัวละครในการค้นหาความยุติธรรม ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่ฉากแอ็กชัน แต่ยังพยายามเล่าเรื่องราวที่ซับซ้อนและมีมิติของตัวละคร เช่น การดิ้นรนเพื่อความถูกต้องในสังคมที่เต็มไปด้วยความอยุติธรรม
และจุดเด่นอีกประการคือจักรวาลนี้ให้ความสำคัญกับฉากต่อสู้ที่มีความสวยงามและสมจริง โดยใช้อาวุธที่หลากหลายและเทคนิคการต่อสู้ที่ผสมผสานศิลปะการต่อสู้แบบโบราณกับสไตล์สมัยใหม่
ส่วนหนังเรื่องที่สามในจักรวาลยอดกระบี่ฯ Blade of Fury" หรือ "ดาบคลั่ง" เป็น กำกับโดย ฉิน เปงเฟย(เป็นผู้กำกับหนังทางสตรีมมิ่งที่ประสบความสำเร็จมากคนหนึ่งของจีน และเป็นผู้กำกับคิวบู๊ด้วย ซึ่งหนังยอดกระบี่ไร้เทียมทามสองภาคนั้น เขาก็เป็นคนออกแบบคิวบู๊) และนำแสดงโดยซือเสี่ยวหลง(หรือที่รู้จักในชื่อ Ashton Chen) ฉายาในวงการหนังจีนแดงคือกังฟูคิด เขารับทบาทของเผยซิงนักล่าค่าหัวที่มีฉายาว่า "หมาจิ้งจอก" ซึ่งมีอีกชื่อหนึ่งว่า "ฆ่าไม่ตาย"
เนื้อเรื่องนั้นติดตามเผยซิงที่เริ่มต้นจากการเป็นอดีตทหารพ่ายสงครามแล้วผันตัวมาเป็น "ผู่กุมดาบ" ซึ่งเป็นคำใช้เรียกนักล่าค่าหัวเพื่อเงิน แต่หลังจากได้เห็นความยุติธรรมโดยผู้มีอำนาจ ความดีงามในตัวเขาก็ค่อย ๆ ตื่นขึ้น และเขาตัดสินใจที่จะช่วยผู้ถูกกระทำทารุณจากอำนาจมิชอบ แม้จะต้องต่อกรกับอดีตผู้บังคับบัญชาเก่าผู้มีวิชาดาบเพลิงและดาบวิเศษที่เขาเองยังไม่มีปัญญาเอาชนะ ตลอดจนต้องเผชิญหน้ากับพ้องเพื่อนร่วมกองทัพ และกองทัพนักล่าค่าหัวจำนวนมาก
ในด้านของการต่อสู้ Blade of Fury นำเสนอฉากแอ็กชันที่จริงจังและเต็มไปด้วยการต่อสู้ที่อัดแน่นไปด้วยความดิบเถื่อน แม้ว่าฉากต่อสู้ในช่วงต้นจะดูเหมือนจะเร่งรีบและไม่สมบูรณ์แบบ แต่ไม่นานนัก ฉากแอ็กชันก็กลายเป็นจุดเด่นของหนัง โดยการใช้เทคนิคการถ่ายทำและเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว บวกกับการต่อสู้ที่มีความดุดันและน่าตื่นเต้น โดยเฉพาะการต่อสู้กับดาบไฟในช่วงท้าย
Blade of Fury ยังถือเป็นงานที่มีความสนุกสนานและเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ โดยการต่อสู้แต่ละฉากได้รับการออกแบบอย่างดีเยี่ยมด้วยทักษะการทำงานที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนและการเคลื่อนไหวที่มีความสวยงาม ซึ่งถือเป็นการนำเสนอที่ยอดเยี่ยมในโลกของหนังกำลังภายในที่ข้อจำกัดของการเป็นหนังออนไลน์ไม่ใช่อุปสรรคของงานสร้างสรรค์
แม้ว่าเรื่องราวในหนังจะไม่ได้มีความใหม่เอี่ยม แต่การผสมผสานระหว่างเรื่องราวแบบจอมยุทธดั้งเดิมในหนังหรือนิยายกำลังภายในยุคเก่า เน้นการเล่าเรื่องที่จับต้องได้ มีตัวละครที่เป็นเอกลักษณ์ และการต่อสู้ที่อาศัยความสามารถของนักแสดงมากกว่า CG ผมว่ามันเป็นสิ่งที่ทำให้หนังจับต้องได้ง่าย
และเมื่อเทียบกับนักล่าค่าหัวก่อนหน้าในจักรวาลเดียวกันอย่างไอ้บอดเฉิงแล้ว ผมรู้สึกเสียดายนิดๆ ที่หนังกลับมาใช้นักล่าค่าหัวเป็นตัวเอกอีก มันทำให้รู้สึกว่าตัวละครไม่คืบไปในด้านกว้างนัก อีกทั้งมิติของตัวละครระหว่างไอ้บอดเฉิงกับเผยซิงนั้น ทั้งคู่ดันมีพื้นหลังจากกองทหารที่คล้ายกันอีก แล้วตัวไอ้บอดยังดูซับซ้อนมากกว่า
ตัวละครเผยซิงของซือเสี่ยวหลง แม้จะมีความแข็งแกร่งและความเป็นจอมยุทธ์ แต่กลับไม่มีเอกลักษณ์ที่น่าจดจำ ต่างจากเซี่ยเหมียวในบทไอ้บอดเฉิงที่มีบุคลิกชัดเจนและเต็มไปด้วยเสน่ห์
....................
โครงการนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และการตอบรับจากผู้ชมของ Blade of Fury จะเป็นตัวกำหนดทิศทางในอนาคตว่าจะมีการสร้างภาคต่อหรือเรื่องราวที่ขยายออกไปมากน้อยเพียงใด แต่น่าเสียดายว่าอนาคตชักจะไม่ใส
เพราะแม้ว่า Blade of Fury จะรักษาคุณภาพของซีรีส์ไว้สูง ได้รับเสียงชื่นชมที่ดี โดยเฉพาะฉากแอ็กชันที่ดีกว่าหนังชุดได้บอดมาก แต่กลับทำรายได้แบบเปย์เปอร์วิวในช่วง 18 วันหลังจากออกฉายทำรายได้เพียง 2.609 ล้านหยวน ตามหลังหนังไอ้บอด 2 ที่ออกฉายเก็บเงินในออนไลน์ก่อนหน้าไม่กี่เดือนไปมากกว่าสิบเท่าตัว เพราะไอ้บอด 2 เก็บเงินได้ถึง 29 ล้านหยวนเลยทีเดียว
แต่ถึงแม้จะทำรายได้ไม่ดี แต่เมื่อออกสตรีมตามปกติกลับได้รับความนิยม และคุณภาพของหนังนั้นเรียกว่าฉายในโรงหนังได้อย่างสบายๆ
สำหรับหนังในจักรวาลนี้ที่มีการประกาศการวางแผนสร้างแล้วนั้น ก็น่าสนใจไม่น้อยเลย คือ
捉刀人2 (Blade of Fury 2)
ภาคต่อที่คาดว่าจะขยายเรื่องราวของเผยซิง และแนะนำตัวละครใหม่ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มนักฆ่าในตำนาน คาดว่าในภาคนี้จะมีไอ้บอดเฉิงมาร่วมแจมด้วย
目中无人前传 (Eye for an Eye: The Prequel)
เล่าเรื่องราวก่อนเหตุการณ์ใน Eye for an Eye ภาคแรกเพื่ออธิบายภูมิหลังของจักรวาลนี้
เป็นว่าหลังจากดูหนังชุดนี้มาสามเรื่อง ผมชอบหนังชุดนี้ และอยากให้ขยายจักรวาลยอดกระบี่ไร้เทียมทานออกไปเรื่อยๆ
สำหรับหนังดาบคลั่ง นั้นแม้ตัวละครจะยังขาดเส่นห์เมื่อเทียบกับไอ้บอด แต่ทดแทนด้วยคิวบู๊ที่ดีมากกว่าเดิม
7/10
โฆษณา