16 ม.ค. เวลา 04:59 • ข่าว

ทรัมพ์ หรือ ไบเดน? ใครควรได้เครดิตจากความสำเร็จของการเจรจาหยุดยิงในกาซา

ข่าวน่ายินดีเช้านี้ (16 มกราคม 2025) เมื่อ อิสราเอล และ ฮามาส สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในพื้นที่ฉนวนกาซาแล้ว หลังจากที่รบกันอย่างหนักตลอด 15 เดือนที่ผ่านมา และทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตในกาซามากกว่า 5 หมื่นคน
2
เวทีการเจรจาจัดขึ้นที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ หลังจบการประชุม ชีค โมฮัมหมัด บิน อับดุลราห์มาน อัล-ธานี นายกรัฐมนตรีกาตาร์ ก็ได้แถลงข่าวในห้องประชุมสื่อที่หลั่งไหลมาจากทั่วโลกด้วยความยินดีว่าคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายบรรลุข้อเจรจาหยุดยิงได้ในที่สุด ด้วยเงื่อนไขว่าจะมีการปล่อยตัวประกัน และ แลกนักโทษระหว่างกัน
ทางกาตาร์หวังว่า ข้อตกลงในวันนี้จะไม่เป็นแค่เพียงการหยุดยิงชั่วคราว แต่นำไปสู่การยุติสงครามอย่างถาวรได้ในอนาคต แต่ก็ย้ำว่าทั้ง 2 ฝ่ายควรทำตามข้อตกลงที่ให้ไว้บนโต๊ะเจรจาอย่างเคร่งครัดด้วยเช่นกัน
แต่ทว่า คำพูดต่อมาของชีค โมฮัมหมัด เหมือนปล่อยระเบิดลูกใหญ่ให้กับชาวทำเนียบขาว เมื่อผู้นำกาตาร์ได้กล่าวขอบคุณ โดนัลด์ ทรัมพ์ และ ทีมเจรจาของเขาที่เร่งกดดันให้อิสราเอลยอมรับข้อตกลงหยุดยิง ที่นำไปสู่ข่าวอันน่ายินดีในวันนี้
ที่ผู้นำกาตาร์พูดเช่นนี้ ไม่ใช่เป็นแค่การพูดอวยทรัมพ์ ที่กำลังจะเป็นผู้นำสหรัฐคนใหม่ แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงชาวตะวันออกกลางหลายคนที่ร่วมนั่งอยู่ในโต๊ะเจรจา ต่างก็รู้สึกเช่นนั้นจริงๆ
ซึ่งเรื่องนี้ ทรัมพ์ต้องยกความดี ความชอบนี้ให้กับ สตีฟ วิตคอฟฟ์ จริงๆ คนสนิทที่ทรัมพ์ฝากฝังให้มาเจรจากับ เบนจามิน เนทันยาฮู เพราะเชื่อว่า วิตคอฟฟ์ น่าจะเป็นคนที่
คุยกับเนทันยาฮู รู้เรื่องที่สุดแล้ว
สตีฟ วิตคอฟฟ์ ไม่ใช่นักการเมือง แล้วก็ไม่ใช่นักการทูตด้วย แต่เขาเป็นอภิมหาเศรษฐี เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ชาวอเมริกันเชื้อสายยิว และเป็นเพื่อนสนิทของทรัมพ์ จึงถูกดึงตัวมาเป็นอุปทูตพิเศษประจำภาคพื้นตะวันออกกลาง เพื่อมาเจรจาเรื่องข้อพิพาทในกาซา
เมื่อทรัมพ์ไม่ใช้นักการทูต แต่ใช้นักธุรกิจ มาเจรจาเรื่องสันติภาพ สไตล์การเจรจาจึงค่อนข้างผ่าซาก และไม่อ้อมค้อม ว่าผู้นำสหรัฐคนใหม่ต้องการให้สงครามจบ จะทำอย่างไรก็แล้วแต่ แต่มันต้องจบได้แล้ว จะได้เริ่มทำธุรกิจกันซักที อย่าให้สหรัฐต้องลงมาพะบู๊เอง และรับรองว่าจบกันไม่สวยแน่
สื่อตะวันออกกลางรายงานว่า สตีฟ วิตคอฟฟ์ บินมาเจอ เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ก่อนการเจรจาหยุดยิงครั้งล่าสุดที่โดฮาแค่อาทิตย์เดียว แต่เป็นการพูดคุยกันที่เข้มข้นมาก และกล่อมเนทันยาฮูได้อยู่หมัด แม้แต่สื่ออิสราเอลยังยอมรับว่า ตัวแทนของทรัมพ์คนนี้ คุยกับเนทันยาฮู รู้เรื่องกว่าสิ่งที่รัฐบาลไบเดนพยายามทำมานานกว่า 1 ปีเสียอีก
เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงเกิดคำถามขึ้นว่า แล้วความสำเร็จของการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ควรเป็นผลงานของใคร ระหว่าง ทรัมพ์ หรือ ไบเดน?
เมื่อชาวอเมริกันสงสัย เขาจะไม่เก็บเงียบๆไว้ในใจ แต่จะเดินไปถามต่อหน้าเลย ไม่เว้นแม้แต่กับคนระดับผู้นำสหรัฐ ดังนั้น โจ ไบเดน จึงถูกนักข่าวสาวยิงคำถามตรงแสกหน้าในห้องแถลงข่าวว่า "ตกลงแล้วใครควรได้เครดิตในเรื่องนี้คะ ไบเดน หรือ ทรัมพ์?" ทำให้ โจ ไบเดน ถึงกลับสะอึก ต้องหันมาถามนักข่าวกลับว่า "คุณล้อเล่นรึเปล่าเนี่ย??"
ประเด็นนี้ ยังทำให้ชาวโซเชียลอเมริกันเสียงแตก และเถียงกันอย่างดุเดือดระหว่างแฟนคลับ ด้อมเดโมแครต และ ด้อมรีพับลิกัน
โดยชาวด้อมเดโมแครตมองว่า ทีมรัฐบาลไบเดน ที่นำโดย แอนโธนี บลิงเคน พยายามหว่านล้อมให้มีการเจรจาหยุดยิงมาเป็นปี และมีส่วนผลักดันให้เปิดโต๊ะเจรจาที่กรุงโดฮา จนเจรจาสำเร็จได้ในวันนี้ ที่ยังไม่พ้นสมัยของไบเดน มันก็ต้องเป็นเครดิตของรัฐบาลไบเดนอยู่แล้ว พวกมาตีกินผลงานคนอื่นตอนจบงานควรละอายบ้าง และ โจ ไบเดน ควรได้รางวัลโนเบล สาขาสันติภาพจากงานนี้ด้วยซ้ำ
ด้าน ด้อมรีพับลิกัน ก็บลัฟกลับว่า ทีมไบเดน เจรจา รากงอกอยู่เป็นปีๆ คุยแล้วล่ม คุยแล้วล่ม ไม่รู้กี่รอบ ต่อให้ไบเดนเป็นผู้นำสหรัฐอีก 4 รอบ ยังไม่รู้ว่าจะหยุดยิงกันได้กี่โมง แต่ทรัมพ์ส่งมือขวาไปคุยแค่คนเดียว สามารถเปิดดีล ปิดโต๊ะเจรจาได้แค่ครั้งเดียว ใครจะเปิดก่อนไม่รู้ แต่ทรัมพ์มาปิดเกมให้แบบเฟียตๆ Finish Strong ได้เพราะใครก็เห็นๆอยู่ ไม่อยากพูดเยอะ เจ็บคอ
ด้านสื่อสหรัฐ ก็ชักวางตัวไม่ถูก ก็เลยสรุปให้แบบกลาง ๆ ว่า ทั้งไบเดน และ ทรัมพ์ สมควรได้เครดิตทั้งคู่ และสื่อให้ชาวโลกได้เห็นว่ารัฐบาลสหรัฐ มีเอกลักษณ์ในการทำงานเป็นทีม แม้ว่าจะมาจากพรรคใดก็ตาม ถึงจะอยู่ในช่วงที่กำลังเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ก็ยังสานต่องานนโยบายกันได้อย่างต่อเนื่อง จึงควรมองว่าเครดิตควรตกเป็นของ "ทีมอเมริกา" ที่ช่วยกันผลักดันในเกิดข้อตกลงสันติภาพโลก
เป็นการสรุปจบแบบพระเอก ที่เดินเท่มาปิดเรื่องหล่อๆ แบบกัปตันอเมริกา แต่นั่นเป็นความเห็นในเชิงโลกนิยายซุปเปอร์ฮีโร่ แต่ในแง่มุมทางการเมืองแล้ว ผลงาน เครดิต เป็นสิ่งที่แบ่งกันไม่ได้ เพราะเครดิตของอีกฝ่ายหนึ่ง หมายถึงความล้มเหลวของอีกฝ่ายหนึ่ง ดังนั้ยแล้ว จึงเป็นสิ่งที่ยกให้ใครไม่ได้ ถ้าอยากได้ ก็ต้องฟาด (ผ่านสื่อ) กันหน่อย😎
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
โฆษณา