16 ม.ค. เวลา 08:07 • สุขภาพ

เปิดศักราช 68 ปัญหาฝุ่นPM2.5 กระทบสุขภาพค่ารักษาแตะ3 พันล้านบาท 38 ล้านคนอยู่ในเขตควันพิษ

ครึ่งเดือนมกราคม พ.ศ. 2568 ประเทศไทยเผชิญกับปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ส่งผลให้เกิดค่าเสียโอกาสด้านสุขภาพราว 3,000 ล้านบาท กระทบกลุ่มเปราะบางประมาณ 15 ล้านคน กว่า 38 ล้านคนอยู่ในพื้นที่เสี่ยงควันพิษ
วันที่ 16 มกราคม 2568 เวลา 07:00 น. กรุงเทพมหานครรายงานค่าเฉลี่ยของฝุ่นละออง PM2.5 อยู่ที่ 45.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินค่ามาตรฐาน (ไม่เกิน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) และอยู่ในระดับสีส้มที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
พื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่:
1. เขตหนองแขม: 57.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
2. เขตบางกอกน้อย: 56.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
3. เขตธนบุรี: 56.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
4. เขตหลักสี่: 55.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
5. เขตบางรัก: 53.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ในช่วงวันที่ 16-23 มกราคม 2568 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ 'ไม่ดี-อ่อน-ดี' และมีการเกิดอินเวอร์ชันใกล้ผิวพื้น ทำให้มลพิษทางอากาศแพร่กระจายได้จำกัด ส่งผลให้ความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสลับลดลง โดยคาดว่าจะลดลงในช่วง 1-2 วัน แล้วจึงเพิ่มขึ้นตามลำดับ
ปัญหาฝุ่นกระจายทั่วประเทศ
ปัญหาฝุ่น PM2.5 ไม่ได้จำกัดเฉพาะในกรุงเทพฯ เท่านั้น แต่ยังพบในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ข้อมูลจากแอปพลิเคชัน "เช็คฝุ่น" เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2568 ระบุว่ามี 52 จังหวัดที่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน อยู่ในระดับสีส้มที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
PM2.5 ส่งผลเสียโอกาสด้านสุขภาพราว 3,000 ล้านบาท
กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่ามีประชาชนประมาณ 38 ล้านคนอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน โดยในจำนวนนี้เป็นกลุ่มเปราะบางประมาณ 15 ล้านคน ซึ่งส่งผลให้เกิดค่าเสียโอกาสด้านสุขภาพราว 3,000 ล้านบาท และทำให้อายุขัยเฉลี่ยของคนไทยลดลงประมาณ 1.78 ปี
ติดตามอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์
โฆษณา