17 ม.ค. เวลา 03:00 • การตลาด

วิเคราะห์เทรนด์ “มัทฉะ” ด้วย Google Trends โดย MarketThink

Google Trends คือ เครื่องมือที่ใช้สำรวจความนิยมของคีย์เวิร์ดที่คนใช้ค้นหาบนเว็บไซต์ Google ในช่วงเวลาที่กำหนดได้
ที่น่าสนใจคือ “ใช้ฟรี” เพียงเซิร์ชว่า Google Trends ในเว็บไซต์ Google ก็ใช้งานได้เลย
ความสามารถเด่น ๆ ของ Google Trends ยกตัวอย่างเช่น
- ดูความนิยมของคำค้นหานั้น ๆ ในแต่ละช่วงเวลา โดยสามารถใช้ Google Trends เปรียบเทียบความนิยมแต่ละคีย์เวิร์ดได้สูงสุด 5 คีย์เวิร์ด
- ดูเทรนด์มาแรง (Trending Now) จะบอกคีย์เวิร์ดที่มีการค้นหามากที่สุด ทั้งแบบรายวันและแบบเรียลไทม์
- สามารถบอก “คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง” ช่วยให้รู้ว่าลูกค้าสนใจอะไรอีกบ้าง ที่มีความเกี่ยวข้องกับคำค้นหาที่เราใส่ไป
- และ “หัวข้อที่เกี่ยวข้อง” ช่วยให้รู้ว่าลูกค้าใช้คีย์เวิร์ดอะไรในการค้นหาบ้าง โดยเราอาจจะเลือกคีย์เวิร์ดเหล่านี้ ไปต่อยอดการทำคอนเทนต์ให้คนค้นหาเจอ หรือใช้ในเชิงการตลาดต่อได้
ทีนี้เรามาดูตัวอย่างการใช้งานจริง ๆ
โดยวันนี้ MarketThink จะเอาคีย์เวิร์ดคำว่า “มัทฉะ” มาวิเคราะห์ด้วย Google Trends ให้ดูเป็นข้อ ๆ
Trend #1 : มัทฉะ ฮิตสุด ในรอบ 20 ปี
กราฟที่เห็นในภาพ Trend #1 ไม่ได้บอกจำนวนการค้นหา แต่บอกเป็น “ระดับความสนใจ” ภายในกรอบเวลาที่ตั้งค่าไว้
โดยความหมายของตัวเลขสเกล 0-100 ก็คือ
- 100 หมายถึง ณ เวลานั้นมีการค้นหาคีย์เวิร์ดสูงสุด ในช่วงเวลาที่กำหนดไว้
- 50 หมายถึง ณ เวลานั้นมีการค้นหาเป็นครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับจุดสูงสุดของความสนใจ ในช่วงเวลาที่กำหนดไว้
- 0 หมายถึง ณ เวลานั้นไม่มีการค้นหาเลย หรือมีข้อมูลไม่เพียงพอ
ถ้าดูจากกราฟ จะเห็นว่า คำค้นหาคำว่า “มัทฉะ” เริ่มได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นแบ่งเป็น 2 ระลอก คือช่วงต้นปี 2017 ก่อนที่จะได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอีกครั้งในช่วงต้นปี 2023
และคำว่ามัทฉะ ก็ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง จนเข้าสู่จุดพีกในปัจจุบัน
ส่วนสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้มัทฉะได้รับความนิยมมากขนาดนี้ เกิดจากกระแสไวรัลบนโซเชียลมีเดียที่ผลักดันให้ผู้คนหันมาสนใจมัทฉะในวงกว้าง
โดยช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา หลายคนคงสังเกตเห็นว่า มัทฉะ กลายเป็นไอเทมยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติต้องซื้อติดมือกลับจากประเทศญี่ปุ่น
ประกอบกับกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์สายสุขภาพ ที่มักจะนำเสนอเมนูมัทฉะในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้กลุ่ม Millennials และ Gen Z ที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ และให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ หันมาลองดื่มมัทฉะกันมากขึ้น
ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ในช่วงนี้เกิดการขาดแคลนใบชาที่ใช้ผลิตมัทฉะ
เป็นเหตุผลให้แบรนด์ผงมัทฉะชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น และแบรนด์ดังในประเทศไทยอย่าง Peace 和 oriental teahouse และ MTCH ออกมาประกาศจำกัดการซื้อสินค้าบางรายการ
Trend #2 : Matcha ทั่วโลก ก็ฮิตไม่แพ้กัน
จากกราฟ จะเห็นได้ว่าคำค้นหาคำว่า Matcha ก็มีปริมาณการค้นหาที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่ช่วงปี 2015 เป็นต้นมา
ก่อนที่ความสนใจในคำว่า Matcha จะเข้าสู่จุดพีก เหมือนกับคำว่ามัทฉะในประเทศไทย ในปัจจุบัน แสดงให้เห็นถึงเทรนด์ความนิยมในเครื่องดื่มมัทฉะ ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก
Trend #3 : มัทฉะ กำลังมาแรง จะแซงหน้า ชาไทย
จากกราฟเป็นการเปรียบเทียบกระแสความนิยมเครื่องดื่มสุดฮิตของไทย ตั้งแต่ช่วงปี 2004 จนถึงปัจจุบัน ทั้งหมด 4 อย่าง ได้แก่ มัทฉะ ชานม ชาไข่มุก และชาไทย
โดยจะเห็นว่า ชาไทยเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในการค้นหามาตั้งแต่ช่วงปี 2004 แล้ว และยังได้รับความนิยมเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
และชาไทยยังเป็นเครื่องดื่มที่มีการค้นหาถึงจุดพีกสุดในช่วงเดือนกรกฎาคม ปี 2023
ขณะที่คำว่า ชานม และ ชาไข่มุก เพิ่งได้รับความนิยมเมื่อปี 2012 และได้รับความนิยมอีกครั้งในช่วงปี 2018-2019 และหลังจากนั้น ความนิยมในการค้นหาคำว่า ชานม และ ชาไข่มุก ก็ลดลงตามลำดับ
แต่ความแตกต่างก็คือคำว่า ชานม ยังคงได้รับความนิยมในการค้นหาอยู่ในระดับสูงอยู่ เมื่อเปรียบเทียบกับคำว่า ชาไข่มุก ที่ความนิยมลดลงเรื่อย ๆ
ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า ชานม เป็นคำศัพท์ทั่วไปที่หลาย ๆ คนใช้ในการค้นหาเครื่องดื่มชนิดนี้ไปแล้ว
ส่วนคำว่า ชาไข่มุก ก็ถูกแทนที่ด้วยคำว่า ชานม ที่มีความทั่วไปมากกว่า หรือบางคนก็อาจจะเรียกชื่อแบรนด์ของชาแทนไปเลยก็มีเช่นกัน
ที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ ความนิยมของคำว่า มัทฉะ แซงหน้าความนิยมของคำว่า ชาไทย ในปัจจุบันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่หากนับความนิยมตั้งแต่ในอดีต จะพบว่ามัทฉะยังได้รับความนิยม ไม่เท่ากับช่วงเวลาที่ความนิยมของชาไทยอยู่ในจุดพีก
แต่หากความนิยมของคำว่ามัทฉะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ก็ไม่แน่ว่า ในอนาคตคำว่า มัทฉะ อาจจะแซงความนิยมในการค้นหาคำว่า “ชาไทย” ที่เคยไปแตะจุดสูงสุด เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2023 ก็ได้
Trend #4 : 2 เทรนด์มัทฉะมาแรง ชงดื่มเอง และดื่มเพื่อสุขภาพ
จากเทรนด์จะเห็นได้ว่า นอกจากความนิยมในการค้นหามัทฉะจะเพิ่มขึ้นแล้ว
ผู้คนยังเริ่มสนใจในการหาซื้อผงมัทฉะ เพื่อชงดื่มเอง
สะท้อนได้จากคำว่า ผงมัทฉะ ชงมัทฉะ และชงชาเขียวมัทฉะ เป็นคำค้นหายอดนิยมที่เกี่ยวข้องกับคำว่า มัทฉะ
นอกจากเรื่องการชงดื่มเองแล้ว คำที่นิยมในการค้นหาไม่แพ้กันคือ “ประโยชน์มัทฉะ” ตามคำค้นหายอดนิยมที่เกี่ยวข้องกับคำว่ามัทฉะ ในอันดับที่ 17
ซึ่งเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า หลาย ๆ คนนิยมดื่มมัทฉะเนื่องจากมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น
- อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
- มีปริมาณกาเฟอีนในระดับที่เหมาะสม ซึ่งช่วยเพิ่มสมาธิ ลดความเครียด และทำให้รู้สึกผ่อนคลาย
- การดื่มมัทฉะเป็นประจำ อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ และโรคความดันโลหิตสูง
- ช่วยลดน้ำหนัก เนื่องจากสารคาเทชินในมัทฉะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานและไขมัน
Trend #5 : Peace 和 oriental teahouse แบรนด์มัทฉะ มาแรง ในไทย
ส่วนมัทฉะ Café Amazon และ Starbucks คือเมนูยอดนิยม
ถ้าเราลองดูคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับคำว่า “มัทฉะ”
แบรนด์ยอดนิยมที่คนไทยค้นหาคือ Café Amazon
ส่วนแบรนด์ยอดนิยมที่ทั่วโลกค้นหาคือ Starbucks
ที่น่าสนใจคือ ถ้าลองวิเคราะห์รูปแบบของคำที่คนนิยมใช้ค้นหาคำว่า มัทฉะ จะเป็นการนำคำว่า “มัทฉะ” มาใส่นำหน้าชื่อแบรนด์ เช่น มัทฉะ อเมซอน และ Matcha Starbucks
เรื่องนี้ก็อาจจะตีความได้ว่า แบรนด์เหล่านี้เป็นแบรนด์แรก ๆ ที่คนคิดถึงเวลาอยากดื่มมัทฉะนั่นเอง
ส่วนถ้าดูคำค้นหาที่เกี่ยวข้องแบบมาแรงในไทย จะพบว่า Peace 和 oriental teahouse ติดอยู่ในอันดับที่ 2
ซึ่ง Peace 和 oriental teahouse เป็นร้าน Specialty ระดับพรีเมียม เน้นทางด้านชาเขียวโดยเฉพาะ มีเมนูเครื่องดื่มชาเขียวให้เลือกหลายประเภท เช่น มัทฉะ และโฮจิฉะ
นอกจากนี้ ยังมีการขายผงมัทฉะสำเร็จรูป รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการชงชาเขียว สำหรับคนที่ต้องการชงชาเขียวด้วยตัวเองที่บ้าน
1
การที่แบรนด์ Specialty แถมยังพรีเมียมแบบนี้ ติดอันดับการค้นหามาแรง ร่วมกับแบรนด์ร้านกาแฟระดับ Mass แสดงให้เห็นว่า ความนิยมในมัทฉะของคนไทยนั้นเพิ่มขึ้นมาในแทบจะทุก Segment จริง ๆ
ทั้งหมดนี้ คือการวิเคราะห์เทรนด์ “มัทฉะ” ในมุม Data ด้วย Google Trends
ซึ่งต้องหมายเหตุชัด ๆ อีกทีว่า
ข้อมูลเทรนด์ความนิยมทั้งหมดนี้ เป็นแค่เพียงข้อมูลจาก “คำค้นหาใน Google”
หมายความว่า เทรนด์ที่เราวิเคราะห์กันนี้ อาจไม่สามารถสะท้อนความเป็นจริงได้แม่นยำ 100%
แต่อย่างน้อย ก็พอให้เราเห็นภาพรวมความนิยมของคำว่า มัทฉะ
ซึ่งก็น่าจะช่วยเป็นไอเดียให้เราไปต่อยอดได้ ไม่ว่าจะเรื่องธุรกิจ หรือการตลาด..
โฆษณา