อนาคตของแรซซี่
ใกล้ได้ข้อสรุป เข้ามาทุกทีแล้ว สำหรับ ดีลของ มาร์คัส แรซฟอร์ด ที่มีแววว่า ไปแน่ ๆ
ว่าแล้วก็น่าเสียดาย
แรซซี่ เป็น แมนคู่เนี่ยนขนานแท้ ตัวเขาเกิดและเติบโตในย่าน วิทเทนชอว์ ซึ่งเป็นพื้นที่ชานเมืองในเขตทางใต้ของ แมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ
เข้ามาเป็นเด็กปั้นในอคาเดมี่ของสโมสร ตั้งแต่ 7 ขวบ
เส้นทางลูกหนังของแรซซี่ เรียกได้ว่า เป็นเด็กที่ “มีแวว” เก่งกาจกว่าเพื่อนในรุ่นเดียวกัน จนพาสชั้น ไปเล่นกับเด็กโตกว่ามาตลอด
ย้อนความทรงจำกลับไป หลายๆ คน คงตื่นตาตื่นใจ กับการเปิดตัวของแรซซี่ ชนิดฝันค้างแบบเคลิ้มเคลิ้ม ว่าดาวรุ่งคนนี้แหละ จะเป็นนักเตะระดับ บัลลงดอร์ต่อจาก คริสติอาโน่
โรนัลโด้
ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาล 2015/2016 ยูไนเต็ดภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล ที่ขึ้นลือชาเรื่องของการปั้นดาวรุ่ง
ฟานกัล ได้เห็นแววของแรซซี่ จึงได้บรรจุชื่อมานั่งที่ม้านั่งสำรองหลายต่อหลายนัด แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ใข้งาน
จนกะทั่งวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2016 ในศึก ยูฟ่า ยูโรปาลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 ที่พบกับ มิดทิลแลนด์
ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ก่อนการแข่งขัน อองโตนี่ มาร์ชิอัล ได้รับบาดเจ็บตอนวอร์ม ทำให้ หลุยส์ ฟาน กัล จับ แรซฟอร์ด ประเดิมสนามเป็นตัวจริงทันที
แรซซี่ไม่ทำให้ หลุยส์ ฟาน กัล ผิดหวังจัดการกด 2 ประตู ช่วยให้ทีมชนะ 5-1 และผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ซึ่งในวันนั้นเขาอายุเพียง 18 ปี 120 วัน เท่านั้น
เท่านั้นยังไม่หนำใจ
3 วันต่อมา แรซฟอร์ด ก็ลงสนามให้ยูไนเต็ดต่อเนื่อง โดยเปิดบ้าน รับการมาเยือนของ ปืนใหญ่ อาร์เซนอล โดยแรซซี่ ก็ตะบัน 2 ประตู บวกกับ 1 แอสซิสต์ ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สามารถ ชนะ 3-2 พร้อมกับหล่นบทสัมภาษณ์ สุดเท่ ณ ตอนนั้นว่า ”ผมยังไม่ได้คิดถึงเรื่องฉลองหลังเกมส์อะไร พรุ่งนี้ผมมีสอบวิชาเคมีที่โรงเรียน”
หลังจากเปิดตัวราวเทพนิยาย แรซซี่ก็ได้ลงเล่นเป็นตัวหลัก ใก้กับสโมสรมาโดยตลอด โดยขยับสถานะขึ้นมาเรื่อยๆ จาก ดาวรุ่ง ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลัก จนกระทั่งสโมสร มอบหมายเลข 10 ซึ่งเป็นหมายเลขของยอดดาวยิงในอดีต
ให้แรซซี่ ครอบครอง โดยหวังลึกๆ ว่า แรซซี่จะก้าวข้าม
คำว่าดาวรุ่งที่มีแวว ไปเป็นยอดนักเตะเต็มตัวได้เสียที
อย่างไรก็ตาม ตลอด 10 ฤดูกาลที่ค้าแข้งให้ ยูไนเต็ด
ฟอร์มการเล่น ของแรซซี่ ก็ไปในแนว สามวันดี สี่วันร้าย
เปรียบเสมือน การขึ้นเล่นรถไฟเหาะ ที่ อาจจะพุ่งทะยายไปสูงสุดๆ เมื่อไหร่ก็ได้ หรืออาจจะพาเราลังกาหลัง ดำดิ้งสุดๆ
ไร้ซึ่งความแน่นอน
จนมาถึงวันนี้ แรซซี่ ไม่ได้ลงเล่น ให้ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีม ของ รูเบน อโมริม 7 นัดติดต่อกัน ชนิดที่ไม่มีชื้อแม้แต่ตัวสำรอง
เจ้าตัวก็ดันไปให้สัมภาษณ์ ว่าพร้อมเปิดรับความท้าทายใหม่
เป็นการตอกย้ำข่าวลือที่ว่า เวลาของแรซฟอร์ด ใกล้หมดลงท
ความไม่แน่นอนของฟอร์มการเล่น
ค่าเหนื่อยที่มหาศาล
คำถาม เรื่องทัศนคติ และความทุ่มเท ในสนาม
อาจจะทำให้เขาต้องขยับขยาย
บทสรุป คงอีกไม่ช้า
ตลอดเกือบสิบปีที่ผ่านมา แรซซี่ สร้างความสุขให้แฟนผี หลายต่อหลายครั้ง
ถัาจะให้เลือกโมเมนต์สุดประทับใจสักโมเมนต์หนึ่ง
แอดขอเลือก โมเมนต์ คืนบาป ณ นครปารีส แล้วกันนะครับ
แล้วเพื่อนๆ คิดถึงโมเมนต์ไหนของเจ้าตัว ลองพิมพ์ มาบอกกันด้วยนะครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
