Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Timeless History (ประวัติศาสตร์ไร้กาลเวลา)
•
ติดตาม
19 ม.ค. เวลา 06:13 • ประวัติศาสตร์
อนาคตและทิศทางของราชวงศ์อังกฤษ
“ราชวงศ์อังกฤษ” เป็นหนึ่งในสถาบันที่ชาวอังกฤษมักจะวิพากษ์วิจารณ์และจับตามอง เป็นที่พูดถึงเป็นวงกว้าง
ที่ผ่านมา ราชวงศ์อังกฤษต้องพบกับการเปลี่ยนผ่านในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านสังคม การเมือง และวัฒนธรรม โดยประวัติศาสตร์ของราชวงศ์อังกฤษสามารถย้อนไปได้ตั้งแต่ 895 ปีก่อนคริสตกาล ผ่านร้อนผ่านหนาวมานับไม่ถ้วน
“สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร (Elizabeth II)” อดีตพระประมุขซึ่งทรงครองราชย์ตั้งแต่ค.ศ.1952 (พ.ศ.2495) จนกระทั่งสวรรคตเมื่อปีค.ศ.2022 (พ.ศ.2565) เป็นเวลากว่า 70 ปีที่ทรงครองราชย์ ซึ่งนับเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร (Elizabeth II)
แต่ในช่วงปีท้ายๆ ของพระชนม์ชีพ ก็ได้เกิดคำถามมากมายจากสาธารณชน ถาโถมเข้าใส่พระองค์ ต่างตั้งคำถามถึงความจำเป็นในการมีอยู่ของราชวงศ์
กระแสเหล่านี้มาจากข่าวอื้อฉาวของหนึ่งในพระราชโอรสอย่าง “เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก (Prince Andrew, Duke of York)“ และยังมีกรณีที่ “เจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์ (Prince Harry, Duke of Sussex)” จะทรงย้ายไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่สหรัฐอเมริกา
นอกจากนั้น ยังมีข่าว “มาโกะ โคมูโระ (Mako Komuro)” หรืออดีต “เจ้าหญิงมาโกะแห่งอากิชิโนะ (Princess Mako of Akishino)” ทรงลาออกจากราชวงศ์เพื่อสมรสในปีค.ศ.2021 (พ.ศ.2564) ก็เป็นข่าวใหญ่และอดไม่ได้ที่สาธารณชนจะนำมาเปรียบเทียบ
มาโกะ โคมูโระ (Mako Komuro)
หากสำรวจความนิยมของประชาชนชาวอังกฤษที่มีต่อราชวงศ์ ก็นับว่าผันผวน ขึ้นๆ ลงๆ แต่จากการสำรวจล่าสุด ก็พบว่าประชาชนจำนวนมากยังคงสนับสนุนราชวงศ์
โพลล์ในปีค.ศ.2021 (พ.ศ.2564) แสดงให้เห็นว่าชาวอังกฤษจำนวน 62% ยังคงสนับสนุนราชวงศ์ โดยในจำนวนนี้ เป็นคนหนุ่มสาวอายุระหว่าง 14-24 ปีจำนวน 52%
อาจจะดูเหมือนเยอะ แต่หากย้อนกลับไปในปีค.ศ.2012 (พ.ศ.2555) ชาวอังกฤษกว่า 77% ยังคงสนับสนุนและกล่าวว่าราชวงศ์อังกฤษนั้นสำคัญมากต่อชีวิตและวัฒนธรรมอังกฤษ
หากดูจากตัวเลข ก็จะเห็นว่าลดลงมากเลยทีเดียว
อีกทั้งการมาถึงของโซเชียลมีเดียยังทำให้วัฒนธรรมต่างๆ เปลี่ยนแปลงไป อะไรที่เมื่อก่อนเคยเป็นความลับ ปัจจุบันก็ไม่ใช่เรื่องลับอีกแล้ว
สำหรับเสียงสนับสนุนให้ยกเลิกราชวงศ์อังกฤษนั้น ก็ได้โจมตีในข้อที่ว่า ราชวงศ์นั้นล้าสมัย ไม่จำเป็น และเหล่าสมาชิกราชวงศ์ที่แค่โชคดีเกิดมาในราชวงศ์ ก็ไม่สมควรได้รับการยกย่องบูชา
ราชวงศ์อังกฤษยังเป็นสัญลักษณ์ของคริสตจักรอังกฤษ การที่หลายคนอยากยกเลิกราชวงศ์ก็ด้วยเหตุผลอีกข้อที่ว่า อยากจะให้อังกฤษไม่ต้องยึดติดกับศาสนา ปรับตัวเข้าสู่โลกสมัยใหม่
นอกจากนั้น ราชวงศ์อังกฤษยังมีอำนาจในการยับยั้งกฎหมายที่สภาให้ผ่าน ถึงแม้ว่าการยับยั้งกฎหมายนี้จะมีครั้งสุดท้ายตั้งแต่เมื่อค.ศ.1708 (พ.ศ.2251) แล้วก็ตาม
อีกข้อหนึ่งที่ราชวงศ์อังกฤษถูกโจมตีอย่างหนัก ก็คือเรื่องของการใช้จ่ายเงิน โดยเงินภาษีที่ถูกนำมาเลี้ยงดูราชวงศ์อังกฤษนั้นจะตกอยู่ที่ปีละประมาณ 86 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,600 ล้านบาท) ซึ่งเงินจำนวนนี้ยังไม่นับรวมค่าดูแลรักษาความปลอดภัยแก่สมาชิกราชวงศ์ ซึ่งรัฐบาลเป็นผู้จ่ายให้ต่างหาก
บางแหล่งก็บอกว่าราชวงศ์อังกฤษนั้นมีรายได้ถึง 500 ล้านปอนด์ (ประมาณ 21,000 ล้านบาท) ต่อปี ยังไม่นับรวมทรัพย์สินต่างๆ ที่เป็นของราชวงศ์ ทั้งอสังหาริมทรัพย์อย่างปราสาทและคฤหาสน์ต่างๆ ของสะสมล้ำค่า เครื่องเพชร และวัตถุโบราณต่างๆ มากมาย ซึ่งหากมีการยกเลิกราชวงศ์จริง ทรัพย์สินเหล่านี้คงต้องถูกทางการยึดและนำออกประมูล
ชาวอังกฤษยังออกมาบ่นดังๆ อีกว่าพวกตนต้องจ่ายเงินเป็นค่าจ้างเหล่าคนรับใช้และพนักงานในวัง ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 1,000 คน คอยดูแลและคอยรับใช้สมาชิกราชวงศ์
1
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ทำให้คนอังกฤษจำนวนไม่น้อยไม่ต้องการราชวงศ์ และเรียกร้องให้ประเทศเข้าสู่ระบอบสาธารณรัฐ
ชาวอังกฤษที่ไม่ต้องการราชวงศ์ให้เหตุผลว่าระบอบสาธารณรัฐคือระบอบที่ยุติธรรม ตำแหน่งประมุขมาจากความสามารถ ไม่ใช่ชาติกำเนิด และยกตัวอย่างประเทศต่างๆ เช่น เยอรมนี อิตาลี หรือไอร์แลนด์ ซึ่งต่างก็ใช้ระบอบสาธารณรัฐและมีการเลือกประมุขผ่านระบอบประชาธิปไตยอย่างเป็นระบบ
เหตุผลเหล่านี้ทำให้ราชวงศ์อังกฤษถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักและเริ่มจะนั่งไม่ติด
แต่ในอีกด้านหนึ่ง ฝ่ายสนับสนุนราชวงศ์ก็ยังมีอยู่ และถึงแม้ว่าจำนวนจะลดลง แต่ก็ยังมีอยู่ไม่น้อย
ฝ่ายสนับสนุนราชวงศ์ก็ตอบโต้โดยให้เหตุผลว่าราชวงศ์อังกฤษมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวอังกฤษ และราชวงศ์อังกฤษก็สร้างเงินให้ประเทศมากกว่าเงินภาษีที่รัฐบาลถวายในแต่ละปี โดยเม็ดเงินนั้นก็มาจากการท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาอังกฤษก็เพราะชื่นชอบเรื่องราวของราชวงศ์อังกฤษ และอยากไปสัมผัสปราสาท พระราชวัง สถานที่ที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์
แต่ฝ่ายไม่เอาราชวงศ์ก็โต้กลับว่าไม่เกี่ยว ตัวเลขรายได้จากการท่องเที่ยวนั้น หากจะบอกว่าเป็นเพราะราชวงศ์อังกฤษ ก็คงเป็นการยากที่จะพิสูจน์ จะพิสูจน์ยังไงว่านักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาอังกฤษเพราะสนใจราชวงศ์จริงๆ? อีกอย่าง หากมีการเลือกตั้งประมุข ก็จะเป็นข่าวใหญ่และกระตุ้นการท่องเที่ยวได้เหมือนกัน
แต่อีกเหตุผลหนึ่งที่ฝ่ายสนับสนุนราชวงศ์ให้เหตุผลก็คือ ราชวงศ์อังกฤษมีความสำคัญต่อความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษกับชาติอื่น ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก้าวหน้า นอกจากนั้น ราชวงศ์ยังมีงานการกุศลมากมาย
ดังนั้น สำหรับอนาคตของราชวงศ์อังกฤษ คงมีเพียงอนาคตที่จะตอบได้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
ที่ผ่านมา ราชวงศ์ก็มีความพยายามที่จะปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย ซึ่งก็ต้องดูทิศทางว่าประชาชนจะพอใจหรือไม่
ในระยะยาว การปฏิรูปและพัฒนาด้านต่างๆ คงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการหาทางดึงคนรุ่นใหม่ เจนเนอเรชั่นใหม่มาสนับสนุนราชวงศ์ เนื่องจากเหล่าผู้สนับสนุนราชวงศ์ซึ่งส่วนมากเป็นผู้สูงอายุ ก็มีแต่จะน้อยลงเรื่อยๆ ล้มตายไปตามกาลเวลา
ดังนั้นการดึงเหล่าคนรุ่นต่อๆ ไปให้ยังคงมาสนับสนุนราชวงศ์อังกฤษ คงเป็นโจทย์ที่ท้ามายมากเลยทีเดียว
References:
https://medium.com/@Alittlebitabouteverything/will-the-u-k-ever-abolish-the-monarchy-f6c9307160fb
https://equalitytrust.org.uk/news/blog/would-abolishing-monarchy-make-uk-more-equal/
https://natcen.ac.uk/news/british-social-attitudes-support-monarchy-falls-new-low
https://www.theguardian.com/commentisfree/2024/feb/08/british-nation-monarchy-king-illness-britons-royal-family-abolition
ประวัติศาสตร์
2 บันทึก
23
2
4
2
23
2
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย