20 ม.ค. เวลา 00:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ

Arch Lumpini Weekly Report 20/01/68

> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้รับแรงหนุนจากหลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งทำให้ นักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังคงปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ข้ามฝั่งตลาดหุ้นยุโรปกำลังเผชิญแรงกดดันความเสี่ยงจากปัจจัยภายในที่เติบโตต่ำ โดยเศรษฐกิจของเยอรมนีซึ่งเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปหดตัวเป็นปีที่สองติดต่อกันในปี 2024 กลายเป็นประเทศที่อ่อนแอที่สุดในบรรดาประเทศในยูโรโซน
> ตลาดหุ้นญี่ปุ่นอาจเกิดความผันผวนได้จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ BoJ และการปรับขึ้นค่าจ้างส่งผลต่อต้นทุนบริษัทเพิ่มสูงขึ้น กดดันผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน จึงมีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่น ขณะที่เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มฟื้นตัวได้จากราคาบ้านลดลงในอัตราที่ชะลอตัวลง และประกาศตัวเลข GDP 4Q24 ออกมาขยายตัว 5.4%YoY สูงกว่าเป้าหมาย สะท้อนนโยบายภาครัฐเริ่มผลิดอกออกผล ประกอบกับ PBoC ทำนโยบาย อัดฉีดสภาพคล่องระยะสั้นเข้าไปในระบบ จึงแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นจีน
> สำหรับเศรษฐกิจอินเดียยังเผชิญกับความเสี่ยงจากการรัดเข็มขัดของรัฐบาลอินเดีย และการปล่อยสินเชื่อลดลง ขณะที่เงินเฟ้อชะลอตัวลงมา แต่ยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างสูง ส่งผลให้ RBI อาจจะคงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับสูงต่อไป สะท้อนอุปสงค์ภายในประเทศที่ชะลอตัว ดังนั้นทางเราจึงมีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดหุ้นอินเดีย
> ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวหลังปรับฐานลงมาแรง อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยมีพื้นฐานที่อ่อนแอจากอัตราเติบโตของ GDP ที่ต่ำ ทั้งนี้ในไตรมาสแรกคาดว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวในระยะสั้นจากยอดนักท่องเที่ยวที่เข้าประเทศในช่วงหยุดยาวของตรุษจีน ส่วนตลาดหุ้นเวียดนามยังคงมีปัจจัยกดดันจากเม็ดเงินต่างชาติยังคงไหลออกต่อเนื่องท่ามกลางมูลค่าซื้อขายเบาบาง และความเสี่ยงจากนโยบายการค้า ภายใต้รัฐบาลทรัมป์ 2.0
โฆษณา