Blockdit Logo (Mobile)
Histofun Deluxe
ยืนยันแล้ว
•
เมื่อวาน เวลา 13:00 • ประวัติศาสตร์

• ชื่อเจ็ดวันในสัปดาห์ของภาษาอังกฤษ มีที่มาจากไหนกันบ้าง?

เรารับรู้ว่าหนึ่งสัปดาห์มีอยู่ทั้งหมด 7 วัน แต่เคยสงสัยไหมครับว่า จุดเริ่มต้นของการแบ่งวันในสัปดาห์ออกเป็น 7 วัน มีที่มาจากไหน
กลุ่มคนแรก ๆ ของโลกที่กำหนดให้หนึ่งสัปดาห์มี 7 วัน ก็คือชาวบาบิโลนในดินแดนเมโสโปเตเมีย โดยพวกเขาได้รับแนวคิดจากปฏิทินของชาวสุเมเรียนอีกทอดนึง ซึ่งสามารถย้อนกลับไปได้ตั้งแต่ศตวรรษที่ 21 ก่อนคริสตกาล
ชาวบาบิโลนอ้างอิงปรากฏการณ์ข้างขึ้นข้างแรมของดวงจันทร์ ในการแบ่งวันในสัปดาห์รวมถึงความยาวของหนึ่งเดือน ด้วยความที่หนึ่งรอบของดวงจันทร์มีความยาวประมาณ 29.53 วัน ชาวบาบิโลนจึงเพิ่มวันอีก 1 หรือ 2 วัน ลงในสัปดาห์สุดท้ายของเดือน
ในเวลาต่อมา ชาวยิวก็ได้รับเอารูปแบบปฏิทินจากชาวบาบิโลนที่กำหนดให้หนึ่งสัปดาห์มี 7 วัน อ้างอิงจากหนังสือปฐมกาล (The book of Genesis) ที่ถูกเขียนขึ้นในช่วง 500 ปีก่อนคริสตกาล ที่เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ชาวยิวถูกเนรเทศไปที่บาบิโลน
ส่วนทางด้านชาวโรมันก็รับเอาปฏิทินของบาบิโลนเช่นกัน ก่อนที่ภายหลังจะเปลี่ยนมาใช้ปฏิทินจูเลียนในช่วงศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสตกาล ส่วนการกำหนดให้หนึ่งสัปดาห์มี 7 วัน ก็ถูกประกาศอย่างเป็นทางการในสมัยจักรพรรดิคอนสแตนตินในปี ค.ศ. 321
โดยชื่อทั้ง 7 วันของชาวโรมัน อ้างอิงมาจากดาวเคราะห์ 7 ดวงที่ชาวโรมันรู้จักในตอนนั้น (ที่สืบย้อนกลับไปได้ถึงชาวกรีกและชาวบาบิโลน) รวมเข้ากับตำนานเทพปกรณัมของพวกเขา
7 วันในสัปดาห์ของชาวโรมัน ประกอบด้วย diēs Sōlis วันอาทิตย์, diēs Lūnae วันจันทร์ (ชาวโรมันถือว่าดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เป็นดาวเคราะห์) diēs Mārtis วันอังคาร, diēs Mercuriī วันพุธ, diēs Iovis วันพฤหัสบดี, diēs Veneris วันศุกร์ และ diēs Sāturnī วันเสาร์
แล้วชื่อ 7 วันของภาษาอังกฤษมาจากไหน? คำตอบก็คือ ภาษาอังกฤษอยู่ในตระกูลภาษาเจอร์แมนิก (Germanic) ที่มีรากเหง้าเชื่อมโยงกับภาษาของชาวสแกนดิเนเวียหรือชาวนอร์ส (หรือไวกิ้งที่หลายคนคุ้นเคย) ดังนั้นชื่อ 7 วันในสัปดาห์ของภาษาอังกฤษก็เลยอิงจากตำนานปกรณัมของชาวนอร์ส (และ 7 วันในสัปดาห์ของชาวนอร์สก็รับจากชาวโรมัน)
• เริ่มต้นที่ Sunday หรือวันอาทิตย์ มาจากภาษาอังกฤษยุคเก่า (Old English) คำว่า Sunnandæg แปลว่าวันพระอาทิตย์ ที่มาจากเทพี Sól หรือ Sunna เทพีแห่งดวงอาทิตย์ของนอร์ส
• Monday หรือวันจันทร์ มาจาก Old English คำว่า Mōnandæg ที่มาจากชื่อ Máni เทพแห่งดวงจันทร์ของนอร์ส ที่เป็นพี่น้องกับเทพี Sól
ส่วนคำว่า Moon มาจาก Old English คำว่า Mōna ที่มีต้นตอจาก metri แปลว่าการวัด และ mensis แปลว่าเดือนในภาษาละตินอีกทอดนึง
• Tuesday หรือวันอังคาร มาจาก Old English คำว่า Tīwesdæg ที่มาจาก Tyr หรือ Tiw เทพแห่งสงครามและการต่อสู้ของนอร์ส ที่ถือว่าทัดเทียบกับ Mars เทพแห่งสงครามของโรมัน
1
• Wednesday หรือวันพุธ มาจาก Old English คำว่า Wōdnesdæg หรือวันของ Wōden โดย Wōden ในที่นี้ก็คือ Odin จอมเทพของชาวนอร์ส ส่วนเหตุผลที่เทพ Odin ถูกเชื่อมโยงกับเทพ Mercury ของโรมัน ก็เพราะทั้งคู่เป็นผู้นำทางดวงวิญญาณของคนตาย
• Thursday หรือวันพฤหัสบดี มาจาก Old English คำว่า Þūnresdæg หรือวันของ Thor เทพเจ้าแห่งสายฟ้า พละกำลัง และการปกป้อง เทียบเคียงกับเทพ Jupiter ของโรมัน ที่นอกจากจะเป็นจอมเทพของโรมันแล้ว ยังเป็นเทพแห่งท้องฟ้าและสายฟ้าอีกด้วย
• Friday หรือวันศุกร์ มาจาก Old English คำว่า Frīgedæg มีสองข้อสัณฐานด้วยกัน ทฤษฎีแรกบอกว่ามาจากชื่อเทพี Frigg ผู้เป็นมเหสีของ Odin ส่วนอีกทฤษฎีบอกว่า มาจากชื่อ Freya เทพีแห่งความรักและความอุดมสมบูรณ์
• ปิดท้ายที่ Saturday หรือวันเสาร์ ที่มาจาก Old English คำว่า Sæturnesdæg ที่แปลว่าวันของ Saturn โดย Saturn ก็คือเทพไททันของโรมัน (หรือ Cronus ตามคติกรีก) ผู้เป็นพ่อของ Jupiter (หรือ Zeus ตามคติกรีก) ดังนั้น Saturday ในภาษาอังกฤษจึงแตกต่างจากวันอื่น ๆ ที่มาจากตำนานปกรณัมของนอร์ส
ติดตามช่องทางอื่น ๆ ของ Histofun Deluxe
X http://bit.ly/3AfKmf2
Blockdit https://bit.ly/4e25dQX
LINE TODAY https://bit.ly/48uQvRp
Website https://bit.ly/4fnCVBB
YouTube https://bit.ly/3YEkhzB
อ้างอิง
• Live Science. Origins of the days of the week. https://www.livescience.com/45432-days-of-the-week.html
#HistofunDeluxe
โฆษณา