18 ม.ค. เวลา 12:40 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

Nvidia ตอนที่ 6: วีรกรรมที่ Sun

เอาล่ะ ตอนนี้ได้เล่าถึงทั้ง 3 คนแล้ว มาต่อกันที่การทำงานด้วยกันของทั้งสามคนครับ
อย่างที่เล่าในตอนที่ 4 ว่าคนที่จ้าง Curtis มาคือ Wayne Rosing เขามีความฝันว่าอยากทำให้ Sun เจ๋งทางด้าน graphics ให้มีความละเอียดสูงๆ สีเยอะๆ ทำภาพออกมาได้ลื่นปรื้ด ถึงได้พยายามชวน Curtis มา แต่สิ่งที่ Curtis ไม่รู้เลย คือ ผู้บริหารคนอื่นใน Sun กลับไม่ได้คิดยังงั้น
ผู้บริหารกำลังวางแผนที่จะทำ Sun SPARCstation เป็นเครื่อง Unix เอาไว้ออกแบบตึก สะพาน และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งเรียกว่า computer-aided design (CAD) และ computer-aided manufacturing (CAM) เสียมากกว่า
แต่ในเวลานั้น Sun ยังมีวิญญาณ startup เต็มเปี่ยม ใครอยากทำอะไรก็ทำ Curtis จึงตั้งใจทำสิ่งที่ Wayne อยากให้ทำ แม้ว่าหัวหน้าของ Wayne จะไม่ต้องการก็ตาม แต่ Curtis ก็รู้ดีว่าสิ่งที่เขาต้องการจะทำนั้นใหญ่กว่าที่เขาจะทำมันคนเดียว เขาจึงหันไปหา Chris ที่เพิ่งเข้ามาที่ Sun จาก HP ที่มีประสบการณ์ในการออกแบบการผลิต และน่าจะทำให้ฝันเป็นจริงได้
ในตอนนั้นเอง LSI เพิ่งแนะนำสถาปัตยกรรมชิปใหม่ที่เรียกว่า "sea-of-gates" ที่สามารถบรรจุเกตเป็นหมื่นๆเกตลงบนชิปเดียว ซึ่งเป็นความสำเร็จที่ผู้ผลิตรายอื่นยังทำไม่ได้ และเพื่อให้แน่ใจว่าทั้งสองจะได้ชิปตามที่พวกเขาออกแบบ LSI ได้มอบหมายให้ดาวรุ่งคนหนึ่งดูแลบัญชีของ Sun โดยเฉพาะ นั่นก็คือพนักงานใหม่ที่ชื่อ Jensen Huang ทั้งสามคนร่วมกันพัฒนากระบวนการผลิตที่จะทำให้การออกแบบของ Curtis พร้อมสำหรับการผลิต​​​​​​​​​​​​​​​​
และแล้วในปี 1989 ทั้งสามก็ออกแบบ Frame Buffer Controller (FBC) ที่มีเกตมากกว่า 43,000 เกต และทรานซิสเตอร์มากกว่า 170,000 ตัว ส่วน Transformation Engine and Cursor มีเกตมากกว่า 25,000 เกต และทรานซิสเตอร์มากกว่า 220,000 ตัวเลยทีเดียว และตั้งชื่อชิปว่า GX
ชิปดังกล่าวเป็นออปชั่นเสริมที่มีราคามากกว่า 2 พันเหรียญสหรัฐ ที่จะทำให้อะไรที่แสดงบนหน้าจอเร็วขึ้นผิดหูผิดตา ไม่ว่าจะเป็นภาพสองมิติ วัตถุสามมิติ หรือแม้กระทั่งแสดงตัวหนังสือที่สามารถเลื่อนไปมา จนตามองไม่ทัน
ตอนแรกชิปนี้ขายไม่ได้ดีมากนัก เพราะเป็นออปชั่นเสริม แต่ในที่สุดชื่อเสียงชิปนี้ก็ดังจนกลายเป็นออปชั่นที่ใครๆ ก็ต้องยอมจ่ายเงินเพิ่ม และทำให้ Curtis และ Chris ได้รับการยอมรับ และได้เลื่อนตำแหน่งขึ้น และมีกลุ่มของตัวเองที่ชื่อ Low End Graphics Option ส่วน Jensen ได้ถุกโปรโมตเป็น Director ที่ LSI Logic หลังจากที่ GX มีส่วนช่วยทำให้ยอดขายของ LSI เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
แต่ Sun กำลังเป็นเหมือนพระอาทิตย์ตกดิน Sun ภูมิใจกับความสำเร็จของตัวเอง แทนที่จะเสี่ยง และกล้าที่จะพัฒนาอะไรใหม่ ผู้บริหารกลับพยายามปกป้องพื้นที่ของตัวเอง มัวไปนั่งทำ Powerpoint นำเสนอที่ดูสวยหรูให้หัวหน้าดูมากกว่าที่จะออกไปทำอะไรเจ๋งๆ ในองค์กรเองในเวลานั้นเต็มไปด้วยการเมือง จนมันดูเหมือนการเข็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่มือลูกค้ามันยากกว่าการไปพยายามขัดแข้งขัดขากันเองเสียอีก
ยิ่งไปกว่านั้น ในตอนนั้น มีผู้บริหารอีกคนที่ชื่อ Tim Van Hook ที่ไม่เชื่อเรื่อง Graphics accelerator เขาคิดว่า CPU ควรจะสามารถที่จะรองรับการคำนวณทาง graphics ได้สบายๆ แต่อีตาคนนี้มีเส้นสายดี ผู้บริหารระดับสูงก็ฟังคนนี้ ทั้งสองเลยแพ้ในเกมนี้ และดูเหมือนโดนแขวนไปกลายๆ และไม่สามารถเข็นอะไรใหม่ๆ ออกมาได้
สองคนจึงคุยกัน และเริ่มแน่ใจว่า อยู่ต่อคงจะไม่รุ่งแล้ว และเริ่มหาทางไปใหม่ และเริ่มคิดว่าจะลองทำ demo chip ไปขายความฝันตัวเองให้กับทาง Samsung ดูแทน เลยไปชวน Jensen มาช่วยร่างสัญญาในโครงการนี้ แต่ Jensen กลับทักขึ้นมาว่า ทำไมเราต้องไปทำชิปให้เกาหลีด้วยล่ะ ทำไมเราไม่ทำเองล่ะ?
โฆษณา