10 เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับตรุษจีน ที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้
ตรุษจีน หรือ 春节 (Chūnjié) เป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดของชาวจีนทั่วโลก เป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจันทรคติ ซึ่งเต็มไปด้วยประเพณี ความเชื่อ และกิจกรรมต่างๆ ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับภาพของการไหว้เจ้า การรับอั่งเปา และการเฉลิมฉลอง แต่ยังมีเรื่องราวและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่าสนใจเกี่ยวกับตรุษจีนที่หลายคนอาจยังไม่รู้
1. ประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 4,000 ปี: ตรุษจีนมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 4,000 ปี เดิมทีไม่ได้เรียกว่าตรุษจีน แต่มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามยุคสมัย ก่อนคริสต์ศักราชจะเรียกว่า วัน “ซุ่ย” หมายถึงการโคจรครบหนึ่งรอบของดาวพฤหัสบดี ต่อมาจึงเรียกว่า “เหนียน” หมายถึงการเก็บเกี่ยวพืชผลที่อุดมสมบูรณ์
2. ความหมายที่ลึกซึ้งกว่าแค่การขึ้นปีใหม่: ตรุษจีนไม่ได้เป็นเพียงแค่วันขึ้นปีใหม่ แต่ยังเป็นเทศกาลแห่งการเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งความหวังและการเริ่มต้นใหม่ เป็นการสิ้นสุดฤดูหนาวและต้อนรับการกลับมาของชีวิตและความอุดมสมบูรณ์
3. ที่มาของ “อั่งเปา” และ “แต๊ะเอีย”: หลายคนอาจเข้าใจว่าอั่งเปาและแต๊ะเอียคือสิ่งเดียวกัน แต่จริงๆ แล้วมีความแตกต่างกัน “แต๊ะเอีย” มาจากสมัยโบราณ หมายถึงของที่ผูกไว้ที่เอว มักเป็นเหรียญเงินร้อยด้วยเชือกแดง ส่วน “อั่งเปา” หมายถึงซองสีแดงที่ใส่เงิน ซึ่งเริ่มใช้ในสมัยที่เริ่มมีธนบัตร
4. ความสำคัญของอาหารในวันตรุษจีน: อาหารแต่ละชนิดที่ใช้ในวันตรุษจีนมีความหมายที่เป็นสิริมงคล เช่น เกี๊ยว สื่อถึงความร่ำรวย ปลา สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ และส้ม สื่อถึงความโชคดี การเลือกอาหารจึงมีความสำคัญและมีความหมายซ่อนอยู่
5. ไม่ใช่แค่สีแดง แต่ยังมีสีทอง: นอกจากสีแดงที่เป็นสีมงคลแล้ว สีทองก็มีความสำคัญในวันตรุษจีนเช่นกัน สีทองสื่อถึงความมั่งคั่ง ร่ำรวย และความเจริญรุ่งเรือง มักใช้ในการตกแต่งและเครื่องประดับต่างๆ
6. ข้อห้ามและธรรมเนียมปฏิบัติ: มีข้อห้ามและธรรมเนียมปฏิบัติมากมายในวันตรุษจีน เช่น ห้ามกวาดบ้านในวันปีใหม่ เพราะเชื่อว่าจะเป็นการกวาดโชคลาภออกไป ห้ามพูดคำหยาบหรือทะเลาะเบาะแว้ง และควรสวมเสื้อผ้าสีสดใส
7. การเฉลิมฉลองที่แตกต่างกันในแต่ละท้องถิ่น: แม้ว่าจะเป็นเทศกาลเดียวกัน แต่การเฉลิมฉลองตรุษจีนจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่นและแต่ละประเทศ เช่น ในบางพื้นที่จะมีการเชิดสิงโตและมังกรอย่างยิ่งใหญ่ ในขณะที่บางพื้นที่จะเน้นการรวมญาติและการรับประทานอาหารร่วมกัน
8. ตำนานเกี่ยวกับสัตว์ร้าย “เหนียน”: มีตำนานเล่าว่ามีสัตว์ร้ายชื่อ “เหนียน” จะออกมาทำร้ายผู้คนในวันสิ้นปี ชาวบ้านจึงใช้วิธีจุดประทัดและแขวนของสีแดงเพื่อขับไล่สัตว์ร้าย ทำให้เกิดเป็นประเพณีการจุดประทัดและตกแต่งด้วยสีแดงในวันตรุษจีน
9. เทศกาลโคมไฟ (หยวนเซียวเจี๋ย): การเฉลิมฉลองตรุษจีนไม่ได้จบลงในวันแรกของปีใหม่ แต่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 15 ของเดือนแรก ซึ่งเป็นวันเทศกาลโคมไฟ เป็นวันที่ผู้คนออกมาชมโคมไฟสวยงามและรับประทานขนมบัวลอย
10. อิทธิพลของตรุษจีนต่อวัฒนธรรมอื่นๆ: ตรุษจีนไม่ได้เป็นเพียงแค่เทศกาลของชาวจีน แต่ยังมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมอื่นๆ ในเอเชีย เช่น เวียดนาม เกาหลี และญี่ปุ่น ซึ่งมีการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ตามปฏิทินจันทรคติเช่นกัน
ตรุษจีนเป็นเทศกาลที่มีความหมายและความสำคัญมากกว่าที่เราเห็น การเรียนรู้เรื่องราวและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเหล่านี้จะช่วยให้เราเข้าใจถึงวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน และทำให้การเฉลิมฉลองตรุษจีนมีความหมายมากยิ่งขึ้น
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
