วิสียทัศน์ผู้บริหารครับ
คุณสินนท์เป็นลูกคุณชนินท์ ว่องกุศลกิจ ผู้ร่วมก่อตั้ง Banpu มาตั้งแต่แรก คุณชนินท์วางมือก็เป็นคุณสมฤดีบริหารต่อจนเกษียณก็ส่งต่อมาที่คุณสินนท์
ครอบครัวว่องกุศลกิจคือกลุ่มมิตรผลที่ถือหุ้นเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในบ้านปูที่น่าจะราว 18%
ถ่านหินเป็น cash cow ที่เก็บผลอย่างเดียว ไม่ลงทุนเพิ่มแล้ว ค่อยๆลดสัดส่วนลง
หลักต่อไปเป็นแก๊ส ทำครบวงจรตั้งแต่ผลิตแก๊ส เอาไปผลิตไฟ Carbon ที่เกิดจากการผลิตเอาไปฝังกลับลงดินคืน
ขอแตะทำ datacenter ด้วย อันนี้ก็น่าสนใจ
datacenter ใช้ไฟฟ้าเยอะมาก และถูกต่อต้านการใช้ไฟฟ้ารูปแบบเก่าที่ปล่อย Carbon เยอะๆ เขาก็ต้องมองหาไฟฟ้ารูปแบบอื่น แต่พลังงานทดแทนพวกแดดลม มันก็เชื่อถือไม่ได้ วันไหนไม่มีลม ไม่มีแดด ก็ไม่มีไฟ แต่ datacenter มันหยุดไม่ได้ ยังไงซะโรงไฟฟ้าเผาไหม้แบบเก่าก็เชื่อถือได้มากกว่า เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
ในโรงไฟฟ้าเผาไหม้ น้ำมัน ถ่าน แก๊ส แบบที่ใช้แก๊สก็ดูจะดีที่สุด และ Banpu สามารถทำ CCUS ที่เหมือนว่า offset carbon ที่ปล่อยกับที่จับไปกักเก็บได้ ก็เหมือนเทียบได้กับไม่ได้ปล่อย carbon ก็ยิ่งเป็นตัวเลือกที่ดีกับ datacenter
อีกประเด็น datacenter มันเป็นสิ่งที่สามารถให้บริการได้ทั้งโลก ที่ตรงไหนต้นทุนถูกก็น่าสนใจกว่าที่ต้นทุนแพง สมมติถ้าทำที่สหรัฐได้ถูกกว่าฮ่องกง ค่าบริการก็ถูกกว่า คนก็ใช้ของสหรัฐมากกว่า
นอกจากระบบที่ต้องให้ความสำคัญกับ latency หรือความเร็วมากๆ ถึงจะมองหา server ที่ใกล้กว่า ยิ่งต่อไปความเร็ว internet มากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งแทบไม่มีความจำเป็นที่ต้องไปตั้ง datacenter ในที่ๆต้นทุนแพงเลย
ก่อนนี้ latency อาจจะสำคัญ แต่เดี่ยวนี้อาจจะไม่ได้มากนัก ดาวน์โหลดไฟล์ จาก US ก็ใช้เวลาพอๆกับโหลดจากฮ่องกง
อันนี้มองจากตัวเอง ส่วนตัวก็ใช้บริการ vps server cloud อยู่บ้าง ระบบที่ไม่ได้ time sensitive มากก็มองหาที่ๆถูกเป็นหลักเหมือนกัน
ก็แค่จะสรุปว่า banpu อยู่ในจุดที่น่าสนใจถ้าจะลงทุนใน datacenter แต่อยากให้เป็นรูปแบบที่ร่วมทำกับมืออาชีพมากกว่าลงทุนทำเอง เพราะไม่ได้มีความรู้จะทำเองแหละนะ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
