19 ม.ค. เวลา 14:00 • ไอที & แก็ดเจ็ต

ถ้ายัดเยียด เราก็มีมีสิทธิ์เลือกนะ....

คิดว่าหลายคนน่าจะพอเห็นข่าวที่มีสมาร์ทโฟน 2 แบรนด์แอบติดตั้งแอปเงินกู้ในเครื่อง ซึ่งเป็นแอปที่ลบออกไม่ได้ เพราะแอปได้ถูกติดตั้งมาจากโรงงาน กลายเป็นข่าวใหญ่โต รวมถึงแถลงการณ์ ยังมีการพาดพิงถึงบริษัทอีกแห่ง ทำให้ต้องรีบออกมาชี้แจงด่วน ๆ
Techhub อยากพาทุกคนทุกคนไปรู้จักกับ Bloatware (อีกครั้ง) มันคือสิ่งที่คนไทยควรให้ความสำคัญมานานแล้ว โดยทั่วไปแล้ว Bloatware นั้น จะติดตั้งมาในอุปกรณ์แบบที่เราไม่ได้ขอ เปรียบเสมือนปรสิตที่คอยสูบทรัพยากรเครื่องไม่ว่าจะเป็นพื้นที่จัดเก็บข้อมูล หน่วยความจำ(RAM) และพลังงานแบตเตอรี่
ส่งผลให้สมาร์ทโฟนทำงานช้าลง อืดอาด ค้างบ่อย และแบตเตอรี่หมดเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ร้ายกว่านั้นคือ แอปพลิเคชันบางตัวยังอาจทำงานอยู่เบื้องหลังโดยที่เราไม่รู้ตัว แอบเก็บข้อมูลการใช้งาน และส่งกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้ผลิตหรือบุคคลที่สาม
สิ่งที่คนไทยบางกลุุ่มมองข้าม Bloatware ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากขาดความตระหนักรู้ถึงผลกระทบที่แท้จริง หลายคนอาจไม่เคยสังเกตว่าสมาร์ทโฟนของตนทำงานช้าลงเพราะอะไร หรืออาจคิดว่าเป็นเรื่องปกติของสมาร์ทโฟนที่ใช้ไปนานๆ
นอกจากนี้ การที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนบางแบรนด์ ที่มักจะติดตั้ง Bloatware จำนวนมากลงในเครื่อง โดยไม่มีตัวเลือกให้ผู้ใช้ถอนการติดตั้งได้ง่ายๆ ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้ผู้บริโภคคิดว่านี่เป็นเรื่องธรรมดาที่ยอมรับได้ ต่างจากในบางประเทศที่ผู้ใช้มีสิทธิ์เลือกติดตั้งเฉพาะแอปพลิเคชันที่ต้องการ หรือสามารถถอนการติดตั้ง Bloatware ได้อย่างอิสระ
ในกรณีของแอป Fineasy ที่กำลังเป็นข่าว ผมถือว่าเป็น Bloatware แอปหนึ่งนะนะ เพราะมัดมือชกผู้ใช้ ทางแบรนด์ (อาจจะ) หวังดีให้มีแอปเงินกู้ในเครื่อง แต่ดันไม่ทำให้ถูกกฏหมาย มันเลยยิ่งกลายเป็นเรื่องใหญ่ หรือทีมงาน อาจจะลืมตรวจสอบแอปก่อน (นี่มองในแง่ดีสุด ๆ แล้วนะ) แต่มันก็เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ เพราะหากเราซื้อ Smartphone มาสักเครื่องหนึ่ง เราย่อมมีสิทธิ์เบ็ดเสร็จในเครื่องของเรา ที่จะติดตั้ง หรือไม่ติดตั้งแอปใด ๆ ลงในเครื่อง (จริง ๆ ไม่ควรติดตั้งมาให้ด้วยซ้ำ แต่นี่ยังลบไม่ได้อีก)
1
และที่เป็นเกิดเป็นดราม่าต่อเนื่อง เพราะแถลงการณ์ ได้มีการพาดพิงไปยังบริษัท True Money ซึ่งเป็นแอปให้บริการทางการเงินอีกแอป ซึ่งบริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด เจ้าของแอป ก็ได้ออกแถลงการณ์ทันทีว่า True Money นั้นเป็นแอปที่ถูกกฏหมาย ให้ความสำคัญกับเรื่องการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ต้องติดตั้งแอปจาก Play Store หรือ App Store เท่านั้น
นอกจากนี้ True Money ได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ 3X Protection ที่ใช้ตรวจ–จับ-หยุด มาใช้เพื่อสร้างความรัดกุมในการเข้าใช้บัญชีด้วยการยืนยันตัวตนหลายชั้น จึงแตกต่างจากแอป Fineasy ชัดเจน
จริง ๆ Bloatware ไม่ได้มีใน Smartphone อย่างเดียว ใน Windows เองก็เจอมาไม่น้อย ซึ่งก่อนหน้านี้ มีผู้ใช้จำนวนมากที่ออกมาวิจารณ์ Microsoft ว่ามี Bloatware ติดตั้งมาใน Windows 10 จำนวนมาก จนปัจจุบันก็เริ่มน้อยลง และที่สำคัญคือ มันลบออกไม่ยาก
1
สุดท้ายนี้ การกำจัด Bloatware ให้หมดไปจากสมาร์ทโฟนอาจไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องเริ่มต้นด้วยการตระหนักรู้ถึงปัญหา และพยายามจัดการกับมันอย่างเหมาะสม กรณีของ Fineasy ก็ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ และทำให้เกิดเป็นกรณีตัวอย่างที่ชัดเจน
เราในฐานะผู้ใช้ มีสิทธิ์ที่จะควบคุมอุปกรณ์ของเราเอง และมีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องให้ผู้ผลิตและผู้ให้บริการเคารพในสิทธิและความเป็นส่วนตัวของเรา อย่าปล่อยให้ Bloatware กลายเป็นภัยเงียบที่คุกคามทั้งประสิทธิภาพของสมาร์ทโฟนและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของเราอีกต่อไป
1
#TechhubUpdate #Bloatware #Fineasy #OPPO #Realme
⭐️ ติดตามอัปเดตข่าวไอที How To , Tips เทคนิคใหม่ ๆ ได้ทุกวัน
ค้นหาข่าวที่อยู่ในความสนใจได้ที่ >> www.techhub.in.th
มีข้อสงสัยทัก LINE Techhub : https://lin.ee/Sietmnt
โฆษณา