Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เขียนทุกวัน
•
ติดตาม
19 ม.ค. เวลา 15:14 • ข่าว
หนุ่มรูปงาม ชีวิตพัง เพราะชู้
“ไงคะ ที่รัก...”
1.
จอห์น เอ็ดเวิร์ด (John Edwards) เป็นนักการเมืองดาวรุ่ง พรรคเดโมแครต สหรัฐอเมริกา ในปี 2008 ระหว่างการหาเสียงเพื่อหาตัวแทนของพรรคไปชิงตำแหน่งประธานาธิบดี โดย 3 ตัวเต็งของเดโมแครต ในตอนนั้น ประกอบด้วย ฮิลลารี่ คลินตัน (Hillary Clinton) วุฒิสมาชิกจากรัฐนิวยอร์ก อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 และวุฒิสมาชิกจากรัฐอิลลินอยส์ ซึ่งไม่ค่อยมีคนรู้จัก นามว่า บารัก โอบามา (Barack Obama)
ส่วนอีกราย ก็คือเอ็ดเวิร์ดนั่นเอง
ช่วงเวลานั้น หลายฝ่ายมองว่าคลินตัน มีภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยดี สนิทกับพวกนายทุน และยังยกมือหนุนให้อเมริกาบุกอิรัก ส่วนโอบามา ก็ดูโนเนม เหมือนจะอ่อนพรรษาทางการเมือง นั่นทำให้แสงไฟจับจ้องมาที่จอห์น เอ็ดเวิร์ด หนุ่มผิวขาว อดีตทนายความ การศึกษาดี และมีครอบครัวอบอุ่นกับภรรยาที่ครองรักกันมากว่า 30 ปี
เรื่องราวของเอ็ดเวิร์ด น่าสนใจมาก ภรรยาของเขา เพิ่งหายป่วยจากการรักษามะเร็งเต้านม นี่ยิ่งทำให้คนอเมริกันเห็นว่า ครอบครัวนี้ มีความพิเศษ ทั้งอยู่กันมายาวนาน มีลูก 4 คน และเป็นกำลังใจให้กันในยามทุกข์
ฟังแล้ว ดูเหมือนจอห์น เอ็ดเวิร์ด มีลุ้นที่จะได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
แต่ระหว่างการหาเสียง มีอยู่วัน โทรศัพท์ของเอ็ดเวิร์ดดังขึ้น ภรรยาของเขาไปเห็น โดยไม่รู้ว่าเครื่องดังกล่าว เป็นโทรศัพท์ลับที่เอ็ดเวิร์ดเก็บไว้ ไม่บอกใครให้รู้ แล้วเผลอวางทิ้งไว้ โดยไม่รู้ตัว
พลันที่ภรรยานักการเมืองคนนี้เห็น เบอร์โทร.มา จึงกดโทร.กลับ เมื่อปลายสายกดรับ ก็มีเสียงแจ้วมา มันเป็นหญิงสาว พูดลั่นมาว่า
“ไงคะ ที่รัก”
เพียงเท่านั้น ความชิบหายก็บังเกิด
2.
เอ็ดเวิร์ดพบกับหญิงสาวที่ชื่อว่า รีเอล ฮันเตอร์ (Rielle Hunter) โปรดิวเซอร์และนักแสดงโนเนม วัย 40 ต้นๆ เมื่อปี 2006 ที่บาร์แห่งหนึ่ง ในเมืองนิวยอร์ก โดยหญิงสาวแนะนำตัวเองว่าเป็นคนสร้างหนัง และเจ้าตัวบอกกับนักข่าวภายหลังว่า ผู้ชายที่พบนี้ “หล่อเป็นบ้าเลย”
ขณะนั้นภรรยาของเอ็ดเวิร์ด กำลังรักษาตัวจากมะเร็งอยู่ หลังตรวจพบในปี 2004
การพูดคุยในวันนั้นเกิดการสานต่อ นักการเมืองหนุ่มเชิญฮันเตอร์ให้มาทำแคมเปญหาเสียงในเว็บไซต์ ถึง 4 ตอนด้วยกัน การร่วมงานกันครั้งนั้น เป็นไปด้วยดี เอ็ดเวิร์ดใช้สิ่งที่หญิงสาวสร้าง เป็นบันไดปูทางประกาศพร้อมจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2008 แถมระหว่างนั้นภรรยาของเขาก็หายจากโรคร้ายมาพอดีด้วย
การเดินทางหาเสียงทั่วประเทศ ทำให้เอ็ดเวิร์ด ต้องไปคนเดียวพร้อมทีมงาน เนื่องจากภรรยาต้องดูแลลูกๆ ที่บ้าน นั่นจึงเป็นโอกาสดี ที่นำพาเขาสู่ความหายนะ
โดยเมื่อเข้าพักโรงแรม เขาจะหนีบฮันเตอร์เข้าไปห้องนอนด้วย ตอนนั้นหญิงสาวถูกจ้างให้เป็นหนึ่งในทีมงาน มีหน้าที่ถ่ายเบื้องหลังการรณรงค์หาเสียง
แต่เป็นที่รู้กันระหว่างเขาและเธอว่า หน้าที่หลักคือ ระเริงรัก ซึ่งทั้งสองร่วมเตียงเดียวกันบ่อยครั้งมาก
“เขาจะบอกให้ฉันมานั่งที่เตียง ทีแรกก็คิดว่าการคบกันแบบนี้ น่าจะกินเวลาไม่นาน”
แต่ทั้งสองคาดผิด
1
เอ็ดเวิร์ดยอมเสี่ยง ทั้งจะถูกเมียจับได้ ทั้งอาจโดนคู่แข่งแฉ แต่เขาเทหมดหน้าตัก ยอมพาชู้รักร่วมเดินทางไปไหนด้วยเสมอ ตลอดการหาเสียง
จนกระทั่งภรรยาของเอ็ดเวิร์ด หยิบมือถือลับ โทร.กลับไปหาฮันเตอร์
นั่นแหละความจึงแตกในฉับพลัน
3.
กระนั้น เอ็ดเวิร์ดยังปลาไหลขั้นเทพ เขาบอกว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นแค่คู่นอนค้างคืน ไม่ได้จริงจังอะไร แม้ภรรยาของเขาจะเจ็บปวด แต่เส้นทางหาเสียงที่อาจนำพาทั้งคู่ไปสู่ตำแหน่งประธานาธิบดี เพื่อจะไปให้ถึงทำเนียบขาว หญิงสาวจึงละวางเรื่องนี้ พร้อมออกงานคู่ เพื่อย้ำถึงความรักที่งดงาม อันอาจส่งผลให้ประชาชนเลือกเอ็ดเวิร์ดได้
แต่ทุกอย่างเริ่มเลวร้ายลง
เพราะเอ็ดเวิร์ด ไม่หยุดการคบหากับฮันเตอร์ ยังคงระเริงรักกับชู้เสมอมา จนในที่สุดความหายนะก็ระเบิดอย่างรุนแรง
“ฉันท้องค่ะ”
นักการเมืองหนุ่มช็อกตกใจ เขาด่าทอชู้ ที่หลอกว่า ร่างกายมีปัญหาจนไม่อาจตั้งท้องได้ และยังไม่เชื่อว่าพ่อของลูกจะเป็นเขา หลังจากนั้นชายหนุ่มพยายามเขี่ยกิ๊กสาวทิ้งไป เพื่อตัดต้นตอของปัญหา และป้องกันไม่ให้แผลร้ายนี้ทำลายการหาเสียง
ช่วงเวลานั้น ภรรยาของเขา พบมะเร็งในตัวอีกครั้ง จนต้องเข้ารับการรักษา เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะทิ้งเธอ ไปอยู่กับชู้ มันจะสร้างความหายนะระดับมหาศาล ต่ออนาคตทางการเมือง ที่จะต้องป่นปี้ลงอย่างแน่นอน
ลูกน้องของเอ็ดเวิร์ดบอกว่า เจ้านายเคยมาบอกให้เขารับเป็นพ่อเด็ก ซึ่งบ้ามาก เพราะตัวเขาก็มีเมียอยู่แล้ว พอเล่าเรื่องนี้ให้ครอบครัวตัวเองฟัง เมียถึงกับส่ายหน้า
“เขาพูดอะไรแบบนี้ได้ไงวะ”
สุดท้ายเอ็ดเวิร์ด ใช้วิธีการแก้ปัญหา โยกเงินหาเสียงที่คนบริจาค ไปจ่ายเป็นค่าฝากครรภ์ให้กับฮันเตอร์ และขอให้เธอปิดเรื่องเงียบไว้อย่าบอกใคร
การกระทำนี้ เป็นเรื่องใหญ่ ก่อนหน้านั้น เอ็ดเวิร์ดคบชู้ แม้จะเสียหาย แต่มันไม่ผิดกฎหมาย แต่การที่เขาโยกเงินหาเสียงไปจ่ายเรื่องส่วนตัว
มันกลายเป็นคดีอาญาในฉับพลัน
4.
ที่สำนักงานของหนังสือพิมพ์เนชั่นแนล เอนไควเรอร์ ซึ่งรู้กันดีว่าเป็นสื่อเอียงขวา หนุนพรรครีพับลิกัน คู่แข่งพรรคเดโมแครต แบร์รี่ เลอวิน (Barry Levine) บก.หนังสือพิมพ์นี้ ได้รับเรื่องเด็ดจากนักข่าวว่า เพื่อนของฮันเตอร์แจ้งข้อมูลว่า หญิงสาวพบกับผู้ชายที่แต่งงานแล้วหลงรัก จนมีอะไรกันเลยเถิด
และจบลงที่การตั้งท้อง
ข้อมูลลับนี้บอกว่า ผู้ชายที่เป็นพ่อเด็กคือใคร นั่นทำให้แบร์รี่ ที่เอียงขวาอยู่แล้ว ไม่ลังเลจะส่งคนสืบเรื่องราวนี้ต่อ โดยมีพาดหัวว่า นักการเมืองหล่อรูปงามคบชู้ จนท้อง ขณะที่เมียกำลังรักษาตัวจากมะเร็งอยู่
แน่นอนว่าเอ็ดเวิร์ดได้กลิ่นนักข่าวกำลังจะแฉ จึงพยายามทุกทางเพื่อไม่ให้มีการตีพิมพ์ ทั้งเจรจา จ่ายเงิน แต่สื่อไม่เล่นด้วย ไม่สนใจ พวกเขามีข้อมูลพร้อมแล้ว
ในวันที่ 10 ตุลาคม ปี 2007 หรือราว 7 เดือนที่ภรรยาเอ็ดเวิร์ดพบมะเร็ง ข่าวฉาวของเอ็ดเวิร์ดก็ปรากฎในหน้าหนังสือพิมพ์ มันลามไปอย่างรวดเร็ว เข้าสู่โทรทัศน์ ปรากฎในออนไลน์
ความชิบหายถล่มชีวิตของเอ็ดเวิร์ด แต่เขายังสู้ 1 วันต่อมา เจ้าตัวปฏิเสธข้อมูลทั้งหมด ย้ำว่าเรื่องคบชู้นั้นไม่จริง และน่าขำชะมัด
“ผมอยู่กับผู้หญิงคนเดิมมานานกว่า 30 ปี ใครๆ ก็รู้กัน เธอผู้เป็นคนพิเศษ และดีงามที่สุดเท่าที่ผมเคยพบมา”
วันที่ 19 ธันวาคม ปี 2007 ขณะที่พรรคเดโมแครกำลังใกล้จะตัดสินว่าใครจะเป็นตัวแทนพรรคชิงตำแหน่งประธานาธิบดี หนังสือพิมพ์เนชั่นแนล เอนไควเรอร์ ก็ตีพิมพ์ภาพฮันเตอร์ขณะท้องโต และลงข่าวยืนยันว่าการคบชู้นี้เป็นเรื่องจริง
30 มกราคม 2008 เอ็ดเวิร์ดถอนตัวจากการชิงตำแหน่งประธานาธิบดี แต่ยังยืนยันว่า เขาไม่ได้เป็นพ่อลูกของฮันเตอร์ ซึ่งต่อมาจะคลอดเป็นเพศหญิง โดยในใบทะเบียนเกิด ที่ต้องใส่ว่าใครเป็นพ่อเด็กนั้น ถูกเว้นว่างไว้
เพราะความไม่ซื่อสัตย์นำไปสู่หายนะ ภรรยาของเอ็ดเวิร์ดตายจากโลกเพราะมะเร็งในวันที่ 7 ธันวาคม ปี 2010 โดยมีโอกาสได้เห็นสามีที่อยู่กินมากว่า 30 ปี รับสารภาพต่อหน้าสื่อมวลชน ยอมรับว่าเขาเป็นพ่อของเด็กที่ฮันเตอร์ตั้งครรภ์
วิบากกรรมยังไม่จบเพียงเท่านี้ การที่เขาเอาเงินหาเสียงไปจ่ายปิดปากฮันเตอร์ เมื่อหลายปีก่อน กลายเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อสื่อค้นพบ ทางการก็ดำเนินคดี
แม้สุดท้ายลูกขุนหามติไม่ได้ จึงทำให้เอ็ดเวิร์ดพ้นผิด แต่นั่นก็ไม่ช่วยให้ชีวิตของชายคนนี้ดีขึ้น เพราะต่อมาอดีตชู้ ก็ออกหนังสือแฉทุกอย่าง เรียกได้ว่าที่ยืนของชายหนุ่มที่เคยรุ่งโรจน์ เกือบจะได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ต้องจบสิ้น ร่วงลงหมดท่า
ความอื้อฉาวที่เอ็ดเวิร์ดก่อขึ้นมา ทำให้เขากลายเป็นปลาเน่า ไม่มีเวทีการเมืองไหนรองรับ ไม่มีตำแหน่งที่ปรึกษาในบริษัทดังๆ ว่าจ้าง เจ้าตัวต้องไปอ่านหนังสือสอบ เพื่อกลับไปเริ่มต้นเส้นทางทนายความอีกครั้ง
ก่อนจะหายไปจากสังคมอเมริกันเรียบร้อยแล้ว
ด้านฮันเตอร์ อดีตชู้รัก ซึ่งไปออกโทรทัศน์ ในเวลาต่อมา ได้ย้อนความหลังและสารภาพผิด กับการยอมคบซ้อน สร้างความหายนะให้กับอีกฝ่าย โดยยอมรับว่า สิ่งที่เอ็ดเวิร์ดกระทำกับเธอนั้น แย่มาก แต่การได้เห็นเขาล่มจม หมดท่าถึงเพียงนี้
“มันก็สร้างความเจ็บปวดให้ฉันเหมือนกันนะ แต่ก็ยอมรับว่าฉันก็รังเกียจตัวเองที่คบกับเขาช่วงนั้น และสุดท้ายสิ่งที่เขาทำก็คือ
“การโกหก”
เธอปิดท้ายเรื่องราวทั้งหมด ราวกับต้องการไถ่ถอนความผิดว่า
“และนั่นเป็นสิ่งที่ฉันจะไม่มีวันเลี้ยงลูกสาว ให้เป็นคนแบบนั้นอย่างแน่นอน”
ข้อมูลอ้างอิง
1.
https://abcnews.go.com/Politics/john-edwards-mistress-breakdown-americas-sensational-scandals/story?id=20854336
2.
https://abcnews.go.com/Politics/rielle-hunter-edwards-affair-believed/story?id=16622733
3.
https://abcnews.go.com/GMA/John_Edwards_Scandal/andrew-young-put-john-edwards-marriage/story?id=9724184
4.
https://abcnews.go.com/Politics/edwards-scandal-timeline-john-edwards-rielle-hunter-affair/story?id=9621755
5.
https://theweek.com/articles/513236/john-edwards-affair-unanswered-questions
6.
https://edition.cnn.com/2012/05/31/living/edwards-and-cheating/index.html
7.
https://www.reuters.com/article/world/us/mistress-tells-her-side-of-john-edwards-affair-in-book-idUSBRE85H1CH/
ข่าวรอบโลก
การเมือง
สหรัฐอเมริกา
บันทึก
8
3
8
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย