20 ม.ค. เวลา 02:34 • ข่าวรอบโลก

ผลกระทบของการแบน TikTok ในสหรัฐฯ ต่อเศรษฐกิจและการลงทุน โดย Knowledge Is Power (พิเศษ)

ใครที่ได้ติดตามข่าวก็จะทราบกันดีว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจแบน TikTok ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ผลกระทบที่ตามมาไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องของผู้ใช้งานทั่วไป แต่ยังส่งผลกระทบเชิงลึกต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในหลายมิติด้วย นี่คือบทวิเคราะห์ในประเด็นที่น่าสนใจ
+
1. ผลกระทบต่อหุ้นและตลาดเทคโนโลยี
การแบน TikTok มีผลโดยตรงต่อ ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากจีน การสูญเสียตลาดในสหรัฐฯ ที่มีผู้ใช้งานกว่า 170 ล้านคน จะทำให้รายได้จากโฆษณาในตลาดนี้ลดลงอย่างมาก ส่งผลต่อความน่าสนใจในการลงทุนใน ByteDance และสร้างแรงกดดันต่อการประเมินมูลค่าของบริษัทในตลาดโลก
นอกจากนี้ การแบนยังเปิดโอกาสให้คู่แข่งอย่าง Meta (บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram), Snap Inc. (เจ้าของ Snapchat) และ YouTube เข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดจากผู้ใช้และผู้ลงโฆษณาที่เคยใช้งาน TikTok โดยตรง หุ้นของบริษัทเหล่านี้อาจได้รับผลบวกในระยะสั้นจากการแบน TikTok
+
2. ความเสี่ยงทางการเมืองและความเชื่อมั่นนักลงทุน
การแบน TikTok สะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งสร้างความกังวลในหมู่นักลงทุนเกี่ยวกับการดำเนินการในลักษณะเดียวกันในอุตสาหกรรมอื่นๆ การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้การแทรกแซงเพื่อควบคุมบริษัทต่างชาติ อาจทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีและบริษัทจีนที่ดำเนินกิจการในสหรัฐฯ ลดลง
ในทางกลับกัน นักลงทุนอาจพิจารณาย้ายการลงทุนไปยังภูมิภาคอื่นที่ไม่มีข้อจำกัดทางการเมือง เช่น ตลาดในยุโรปหรือเอเชีย ซึ่งยังคงมีการเติบโตของ TikTok และแพลตฟอร์มเทคโนโลยีอื่นๆ
+
3. ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโฆษณา
TikTok เป็นช่องทางสำคัญสำหรับนักการตลาดที่ต้องการเจาะกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ การแบนแอปพลิเคชันนี้ทำให้นักการตลาดและแบรนด์ใหญ่ต้องปรับกลยุทธ์ โดยอาจย้ายงบโฆษณาไปยังแพลตฟอร์มอื่น เช่น Meta หรือ YouTube อย่างไรก็ตาม การปรับตัวในระยะสั้นนี้อาจเพิ่มต้นทุนในการสร้างแบรนด์หรือแคมเปญใหม่ เนื่องจากแต่ละแพลตฟอร์มมีรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกัน
+
4. โอกาสและความท้าทายในอนาคต
การแบน TikTok อาจสร้างโอกาสใหม่สำหรับผู้เล่นในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีรายอื่นที่ต้องการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อรองรับผู้ใช้งานที่ย้ายออกจาก TikTok ในระยะยาว อุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศต่างๆ อาจได้รับแรงจูงใจให้ลงทุนในโซเชียลมีเดียที่มุ่งเน้นความปลอดภัยของข้อมูลและการตอบสนองต่อความกังวลของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในเชิงนโยบายและความเสี่ยงจากความตึงเครียดทางการเมืองที่อาจขยายตัวไปสู่ภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่งอาจทำให้การลงทุนในสหรัฐฯ และจีนมีความซับซ้อนมากขึ้นในอนาคต
การแบน TikTok ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานและผู้สร้างเนื้อหาในสหรัฐฯ แต่ยังมีผลต่อเศรษฐกิจและการลงทุนในระดับโลก ทั้งในด้านหุ้น ความเชื่อมั่นนักลงทุน และอุตสาหกรรมโฆษณา นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพิจารณากลยุทธ์การลงทุนที่ตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงนี้อย่างเหมาะสม
+
บทความดีๆจาก "Knowledge Is Power"
Tiktok
+ Tiktok +
ติ๊กต็อก คือแอปพลิเคชันที่เป็นบริการเครือข่ายสังคมสัญชาติจีน ติ๊กต็อกเป็นบริการประเภทไมโครบล็อกกิง (micro-blogging) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างเนื้อหาวิดีโอสั้น ๆ ความยาวไม่เกิน 15 วินาที เช่น การแสดงทักษะหรือท่าเต้น การแสดงมุกตลก การร้องตามด้วยริมฝีปาก (ลิปซิงก์) เป็นต้น โดยให้บริการทางไอโอเอสและแอนดรอยด์ ติ้กต็อกเริ่มต้นให้บริการในประเทศจีนเมื่อ พ.ศ. 2559 โดยใช้ชื่อว่า โต่วอิน
ต่อมาจึงเปิดให้บริการระหว่างประเทศใน พ.ศ. 2561 จนกลายเป็นแอปพลิเคชันที่นิยมใช้กันทั่วโลก ติ๊กต็อกได้รับความนิยมมากในกลุ่มวัยรุ่นทั่วโลก โดยมีจำนวนผู้ใช้แค่ในเฉพาะสหรัฐถึง 80 ล้านคนในปัจจุบัน
ไบต์แดนซ์ (ByteDance) เปิดตัวติ๊กต็อกในประเทศจีนเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2559 ติ๊กต็อกได้รับการพัฒนาใน 200 วัน และภายในหนึ่งปีมีผู้ใช้ 100 ล้านคน มีการดูวิดีโอมากกว่า 1 พันล้านวิดีโอทุกวัน ติ๊กต็อกได้รับการเปิดตัวในตลาดต่างประเทศเมื่อกันยายน พ.ศ. 2560
ในวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2561 ติ๊กต็อกเป็นแอปพลิเคชันอันดับ 1 จากการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันฟรีในแอปสโตร์ต่าง ๆ ในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ติ๊กต็อกมีการดาวน์โหลดประมาณ 80 ล้านครั้งในสหรัฐ และ 800 ล้านครั้งทั่วโลก
ไร่หรือมู้ รู้หรือไม่? >
บัญชีที่มีผู้ติดตามบนTiktokมากที่สุดคือ Khaby lame มียอดผู้ติดตามถึง 162.4ล้านผู้ติดตาม
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
Knowledge is power ผมเชื่อว่าความรู้จะทำให้เราเติบโตเเละยิ่งใหญ่ ผมจึงอยากเเบ่งปัน สิ่งดีๆให้เเก่ท่านผู้อ่านทุกท่านขอบคุณครับ ฝากส่งต่อบทความดีๆนี้ให้คนที่เรารักด้วยนะครับ ขอบพระคุณครับ:)
<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
เเหล่งที่มา
Reuters: What happens to TikTok now?
The Wall Street Journal: TikTok Ban Could Shake Investor Confidence
โฆษณา