20 ม.ค. เวลา 11:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

Se7en | 10/10

ปีนี้ครบ 30 ปีภาพยนตร์เรื่อง Seven ผู้สร้างนำกลับมาฉายแบบ Re-release ท่านที่พลาดเรื่องนี้มาสามสิบปี ก็ดูได้ในโรงหนังตอนนี้นะครับ ส่วนท่านที่จะดูซ้ำเป็นรอบที่ 7 ก็เชิญตามอัธยาศัย งานของ เดวิด ฟินเชอร์ เรื่องนี้ กลายเป็นคลาสสิกไปแล้ว
นี่คือรีวิวเก่า นำมาลงซ้ำ
1
ฆาตกรฆ่าต่อเนื่องจำเป็นต้องเป็นคนบ้าหรือไม่? ศาลเตี้ยเกี่ยวกับการเทศน์ธรรมได้หรือไม่? อะไรคือเส้นแบ่งระหว่างความดีกับความเลว? ในเมืองโสโครกที่เต็มไปด้วยคนบาป เราจำเป็นต้องอดทนกับคนบาปหรือไม่? โลกมีคนบริสุทธิ์จริงหรือ? ทำไมเราเรียกเหยื่อที่ถูกฆ่าว่า 'ผู้บริสุทธิ์' แม้ว่าเขาไม่ใช่คนดี?
1
Seven (บางทีสะกด Se7en) เป็นหนังอาชญากรรม แต่เข้าไปในพื้นที่ของปรัชญา และกระตุกต่อมคิด
ชื่อเรื่อง Seven หมายถึง seven deadly sins บาปทั้งเจ็ดในทางคริสต์ (แต่ไม่ได้จารึกในไบเบิล) ประกอบด้วย pride (ยโส), greed (โลภ), wrath (โกรธ), envy (ริษยา), lust (ใคร่), gluttony (ตะกละ) และ sloth (เกียจคร้าน)
คอนเส็ปต์หลักของเรื่องคือใช้ seven deadly sins เป็นแกนเดินเรื่อง บวกกับ 'คำพิพากษา' ที่ตัดสินโดยตัวละคร จอห์น โด
ลงโทษคนบาปด้วยการทำบาป
1
ตามปกติ ชื่อ John Doe เป็นนามที่ตั้งให้กับคนที่เราไม่รู้ว่าเป็นใคร ถ้าเป็นผู้หญิงเรียก Jane Doe ดังนั้นชื่อตัวละครนี้จึงเป็นสัญลักษณ์กลางๆ มันอาจเป็นใครก็ได้ที่เบื่อหน่ายโลกของคนบาป อาจเป็นคุณก็ได้
ตัวละคร จอห์น โด บอกว่า เรามองเห็นบาปทั้งเจ็ดในทุกมุมถนน แต่เราต้องอดทนกับมัน วันแล้ววันเล่า เราสามารถสร้าง 'Judgment Day' ด้วยมือเราเอง
เช่นเดียวกับชื่อกลางๆ John Doe ฉากของเรื่องก็เป็นกลางเช่นกัน เราไม่รู้ว่ามันเป็นเมืองอะไร อยู่ที่ไหนในโลก แต่เรารู้ว่ามันเป็นเมืองหมองหม่นอย่างเป็นรูปธรรม นั่นคือฉากเมืองทั้งเรื่องฝนตก หม่นมัว มันเป็นเมืองสกปรก อัปลักษณ์ เต็มไปด้วยอาชญากรรม
มอร์แกน ฟรีแมน รับบทนักสืบอาวุโส วิลเลียม ซอมเมอร์เซ็ท แบรด พิตต์ รับบทนักสืบ เดวิด มิลล์ส และ เควิน สเปซีย์ รับบท John Doe ทั้งสามเป็นแกนหลักในการเล่าเรื่อง และทุกคนก็แสดงได้ดี
บทกระชับมาก สั้น ห้วน แต่เข้าใจ และชกเข้าเป้าอย่างรวดเร็ว เขียนบทโดย Andrew Kevin Walker (คนร่วมเขียนบท The Game และ Fight Club แต่ไม่ได้เครดิต) ได้รับเสนอชิง BAFTA Best Original Screenplay
บทพูดฉลาด และบางทีก็ขำในตอนที่ไม่ควรขำ เช่น ตอนที่มิลล์สด่า จอห์น โด
"You're no messiah. You're a movie of the week. You're a fucking t-shirt, at best."
ด้วยบทที่ดี ฉลาด ฉากดี โครงเรื่องดี ลำดับจังหวะเรื่องดี โทนเรื่องดี กระชับ ลงตัวแบบ milimalism เรื่องจึงลงตัวทุกอย่าง แม้ว่าจะมีฉากรุนแรง แต่ก็แสดงเท่าที่จำเป็น
นี่เป็นงานชิ้นที่สองของ เดวิด ฟินเชอร์ ถัดจาก Alien 3 พิสูจน์ว่าเขาคุมงานอยู่หมัด
และมันเป็นงานในแนวทางของเขา เห็นได้ว่าเขาทำหนังแนวนี้อีกหลายเรื่อง เช่น Fight Club, Zodiac, The Girl with the Dragon Tattoo, Gone Girl, Mindhunter
ตัวละครซอมเมอร์เซ็ทยกคำพูดของเฮมิงเวย์มาพูดในตอนท้ายว่า "'The world is a fine place and worth fighting for.' I agree with the second part."
โลกของ Seven ก็คือโลกของเรา เราจมอยู่ในเมืองที่เราเกลียด เราไม่ชอบเมืองที่เราอยู่ เราไม่ชอบระบบ แต่เรากลับอดทนอยู่กับมัน
1
เพราะบางทีโลกไม่เคยมีเมืองที่มีแสงสว่าง มีแต่เมืองที่หมองหม่น มืดเทา และฝนตกตลอดเวลา
10/10
ฉายในโรงภาพยนตร์
โฆษณา