Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Treasurist
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 04:43 • หุ้น & เศรษฐกิจ
" Treasurist Fund Traffic Control" ประจำสัปดาห์ที่ 20 - 24 ม.ค. 68 "
🔵 กลุ่มสีฟ้า (ตัวช่วยชี้วัด) >>
▪ CME FedWatch ชี้ว่าตลาดมองโอกาสสูงถึง 97.9% ที่ FOMC จะไม่ขยับ Fed Funds Rate ในการประชุมปลายเดือนนี้ สอดคล้องกับมุมมองล่าสุดของกรรมการ FOMC ที่ประเมิน interest path ของปีนี้
▪ USD Index ยังคงยืนในระดับ 109.4-109.5 ด้าน 10-Y US Bond Yield ย่อลงปลายสัปดาห์
▪ THB/USD แข็งค่าบ้างในช่วงปลายสัปดาห์ แต่ในระยะกลางยังอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่า ตามที่เทรเชอริสต์แนะนำไว้ตั้งแต่ 28 ต.ค. 67 ล่าสุดมาอยู่ที่ระดับ 34.4
▪ ลงทุนต่างประเทศแบบ ไม่ปิด ความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (Un-hedged) ยังคงได้เปรียบ
🟢 กลุ่มแนวโน้มระยะกลางสีเขียว (ซื้อได้ ถือต่อได้) >>
▪ หุ้นธุรกิจพลังงานพลิกขึ้นมาได้สำเร็จ จากสัปดาห์ก่อนที่มีสัญญาณ Temp Up นำมาแล้ว เป็นอานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบที่เดินหน้าต่อเนื่อง รวมถึงหุ้นยุโรปที่ฟื้นตัวดีตั้งแต่ย่างเข้าปี 2568 ก็พลิกเป็นขาขึ้นด้วยเช่นกัน ลูกค้าที่เปิดบัญชีลงทุนกับเทรเชอริสต์สามารถตรวจสอบรายชื่อกองทุนที่แนะนำได้ทางอีเมล ทั้งนี้ ให้ถือเป็นตัวแทนของการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทน้ำมันดิบ ซึ่งสามารถศึกษาแนวทางการจัดสรรเงินลงทุนได้ที่
www.treasurist.com/news/184
▪ หุ้นเทคโนโลยี หุ้นธุรกิจบล็อกเชน และหุ้นจีน ฟื้นตัวดีตลอดสัปดาห์ สถานการณ์ Temp Down สิ้นสุดไป แต่ก็มีเพื่อนบางรายการที่ตกชั้นจริง
▪ ภาพรวมกลุ่มนี้ ยังสามารถถือลงทุนต่อไปได้ อย่างระมัดระวัง
🔴 กลุ่มแนวโน้มระยะกลางสีแดง (รอดู) >>
▪ หุ้นญี่ปุ่นตกชั้นลงมากลุ่มนี้เรียบร้อย หลังเกิดสัญญาณ Temp Down นำมาแล้วจากสัปดาห์ก่อน
▪ สมาชิกอื่นของกลุ่มนี้ยังทรง ๆ ทรุด ๆ ตามแนวโน้มขาลงที่เทรเชอริสต์ให้คำแนะนำไว้แต่แรก
▪ ภาพรวมกลุ่มนี้ ควรรอดูไปก่อน ยังไม่เข้าลงทุน
🧐 วิธีดูข้อมูลนี้ให้เข้าใจและใช้ประโยชน์ได้เต็มที่
1. ดู "สรุป" และ "รายการ" เพื่อให้ได้ข้อมูลทันทีว่ารายการไหนมีแนวโน้มระยะกลางอยู่ในขาขึ้น ซึ่งอยู่ในช่วงที่ลงทุนได้ และดู “ลำดับวัฏจักรของแนวโน้ม” ในคอมเมนท์ของโพสนี้ เพื่อเข้าใจการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มจากระยะสั้นที่จะส่งผ่านมาถึงระยะกลาง และทำความเข้าใจรายละเอียดคำแนะนำในสถานะแนวโน้มต่าง ๆ .. โดยสีของกล่องแต่ละรายการจะอิงตามประเภทสินทรัพย์ หุ้น = สีฟ้า สินค้าโภคภัณฑ์ = สีทอง และกองรีท (สินทรัพย์ทางเลือก) = สีเขียว
2. ดู “ตัวอย่างกองทุนน่าสนใจ” ได้ที่ LINE: @Treasurist
https://page.line.me/treasurist
เพื่อนำไปศึกษาหนังสือชี้ชวน/Fund Fact Sheet ให้เพียงพอก่อนตัดสินใจลงทุนจริงต่อไป โดยทั้งหมดเป็นกองทุนที่ซื้อได้จริงกับ บลน. เทรเชอริสต์
https://treasurist.com
หรือจะเลือกลงทุนกองทุนอื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกันก็ได้ตามชอบ
3. ดู “วันที่เริ่มแนะนำแนวโน้มระยะกลาง" เพื่อให้เห็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้ม โดยควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษเมื่อแนวโน้มระยะกลางเพิ่งเปลี่ยนทิศทาง (Reversal) จากเขียวเป็นแดง-จากแดงเป็นเขียว เพราะแปลว่า ผู้ลงทุนควรรีบพิจารณา ซื้อ/ขาย ตั้งแต่ต้นแนวโน้ม #ลงทุนให้ได้กำไร
4. แต่รายการควรลงทุนมากน้อยเท่าไรเมื่อเทียบกับเงินที่มี
4.1) ภาพรวมให้อิงตามการแบ่งสัดส่วนลงทุนตามประเภทสินทรัพย์ (Asset Allocation) ในคอมเมนท์ของโพสนี้ .. และหากตารางนี้ยังไม่แนะนำกองทุนประเภทใด สามารถลงทุนในประเภทกองทุนที่ระดับความเสี่ยงต่ำกว่าไปพลางก่อน เช่น หากยังไม่แนะนำกองทุนหุ้นใด ๆ เลย สามารถใช้โควต้าสัดส่วนกองทุนหุ้น ไปลงทุนในกองทุนตราสารหนี้เพิ่มขึ้นได้ นับเป็นการลดความเสี่ยงของพอร์ตลงทุนในภาวะที่หุ้นยังไม่สดใส
4.2) กรณีสินทรัพย์ประเภทเดียวกันแนะนำให้ลงทุนได้หลายรายการพร้อมกัน สามารถแบ่งสัดส่วนคร่าว ๆ ได้ตามขนาดตลาด (Market Capitalization) ของรายการนั้น ๆ เช่น เนื่องจากตลาดหุ้นญี่ปุ่นมีขนาดใหญ่กว่าตลาดหุ้นเวียดนาม หลายเท่าตัว ก็อาจจะแบ่งสัดส่วนกองทุนหุ้นญี่ปุ่นให้สูงกว่ากองทุนหุ้นเวียดนาม
4.3) หากแนวโน้มระยะกลางเป็นกรอบสีส้ม ซึ่งหมายความว่าแนวโน้มมีโอกาสสูงที่จะเปลี่ยนแปลง แต่ยังต้องรอการยืนยัน
>> กรณีมีสัญญาณ Temp Up (มีโอกาสสูงที่จะเปลี่ยนจากแดงเป็นเขียว) หากเน้นความเร็ว สามารถเริ่มเข้าซื้อได้ในสัดส่วน 50% ของตัวมันเอง
4.2) แต่หากเน้นความแน่นอน ก็ยังรอดูไปก่อน จนกว่าจะกลายเป็นสีเขียวจึงเริ่มเข้าซื้อ
>> กรณีมีสัญญาณ Temp Down (มีโอกาสสูงที่จะเปลี่ยนจากเขียวเป็นแดง) หากเน้นความเร็ว สามารถขายลดปริมาณลงมาเหลือ 50% ของตัวมันเอง (อ่านประกอบกับข้อ 4.2) แต่หากเน้นความแน่นอน ก็ยังถือเต็ม 100% ไว้ตามเดิมก่อน จนกว่าจะกลายเป็นสีแดงจึงขายทั้งหมด
5. ชวนสังเกตความสัมพันธ์แบบแปรตามและแปรผกผันกันระหว่างสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ เช่น ช่วงที่ US Bond Yield ขยับขึ้น หุ้นมักปรับตัวลง และชวนสังเกตประเภทสินทรัพย์ (ดูตามสีกรอบ) ที่เป็นขาขึ้นลงในช่วงเวลาเดียวกัน #ลงทุนให้ได้ความรู้
ข้อมูลโดย: ศกุนพัฒน์ จิรวุฒิตานันท์, CISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ (IA) ผู้วางแผนการลงทุน (IP) และผู้แนะนำการลงทุนตราสารซับซ้อนประเภท 1 (IC)
https://linkedin.com/in/sakunphatj
.
ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง: กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์เทรเชอริสต์
https://treasurist.com
และ Thailand Investment Forum
📑หลักการพื้นฐานที่ใช้ทำข้อมูล
• รูปแบบตัวเลขเชิงสังคมเศรษฐกิจ (Socioeconomics) ที่เป็น time series เช่น จำนวนประชากรของประเทศหนึ่ง ๆ ย้อนหลังหลายปี ยอดขายของอุตสาหกรรมหนึ่ง ๆ ย้อนหลังหลายไตรมาส มักไม่เปลี่ยนแปลงแบบสุ่ม แต่เป็นแนวโน้ม (ขึ้นแล้วมักขึ้นต่อ ลงแล้วมักลงต่อ) .. รูปแบบ time series ของราคาหลักทรัพย์ต่าง ๆ ย้อนหลังหลายวัน-สัปดาห์-เดือน ที่เป็นผลมาจากเหตุปัจจัยเชิง Socioeconomics
จึงมีแนวโน้มเช่นกัน .. จึงสามารถใช้การคำนวณทางคณิตศาสตร์มาช่วยประเมินความต่อเนื่องของแนวโน้มได้ กล่าวคือ ที่ขึ้นมา ตอนนี้ยังขึ้นอยู่ไหม ที่ลงมา ตอนนี้ยังลงอยู่ไหม และที่สำคัญคือ ตอนไหนที่กำลังเกิด reversal คือการเปลี่ยนจากลงเป็นขึ้น-ขึ้นเป็นลง
แนวโน้มระยะกลาง >> ดูภาพระยะหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน เป็นกรอบเวลาที่ให้สัญญาณช้ากว่าแนวโน้มระยะสั้น แต่ก็มักจะแม่นยำกว่า (ขึ้นแล้วขึ้นต่อ ลงแล้วลงต่อ) โดยเป็นการใช้เครื่องมือ MACD ใน 2-Week/Weekly Timeframe มาช่วยวิเคราะห์ .. ซึ่งแนวโน้มระยะกลาง ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนไปมาถี่เสมอไป อาจกินเวลาหลายเดือนหรือเป็นปีได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับบริบทแต่ละช่วงเวลา
แนวโน้มระยะสั้น >> ภาพระยะหลายวันถึงหลายสัปดาห์ เป็นกรอบเวลาที่ให้สัญญาณเร็วกว่าแนวโน้มระยะกลาง แต่อาจเปลี่ยนไปมาได้บ่อย โดยเป็นการใช้เครื่องมือ MACD ใน 2-Day/Daily Timeframe มาช่วยวิเคราะห์
• สำหรับ TFTC กองภาษี เลือกใช้แนวโน้มระยะยาว >> ใช้เครื่องมือ MACD ใน Monthly Timeframe มาช่วยวิเคราะห์
• ข้อมูลนี้ช่วยแสดงแนวโน้มปัจจุบันไปจนถึงอนาคตสั้น ๆ ได้ตาม "แรงเฉื่อย" ของแนวโน้ม แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าอีก 2 เดือน 6 เดือนข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เมื่อสถานการณ์ตรงหน้าเปลี่ยนไป ก็ต้องรีบปรับตัว
• การตัดสินใจลงทุน/ชะลอลงทุนตามแนวโน้มของ Treasurist Fund Traffic Control หากวิเคราะห์แบบย้อนหลัง (hindsight analysis) จะไม่สามารถชนะแบบซื้อแล้วถือยาว (buy-and-hold) ได้ .. แต่ในโลกความเป็นจริง การลงทุนคือ "การมองไปข้างหน้า" และ "ปรับตัวตามสถานการณ์" .. ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ หากในอนาคตเกิดสงครามโลกหรือโรคระบาดครั้งใหญ่
แนวโน้มการลงทุนโดยรวมย่อมเป็นขาลงอย่างรุนแรง โดยยังไม่เห็นอนาคต (เช่น ณ ต้นปี 2563 โลกยังไม่มีวัคซีนโควิด-19 และยังไม่มีใครรู้ว่าวิกฤติครั้งนั้นจะบรรเบาลงเมื่อใด แต่พอมองย้อนหลัง ทุกอย่างก็ชัดเจนหมด เพราะเกิดแล้วจบแล้ว) ซึ่งการใช้คำแนะนำจาก Treasurist Fund Traffic Control ควรจะช่วยให้ผู้ลงทุนเลี่ยงผลขาดทุนที่รุนแรงได้อย่างทันท่วงที และช่วยให้ทราบจังหวะกลับเข้าลงทุนในระยะถัดไปด้วยเช่นกัน
• กองทุนน่าสนใจ จะอิงตามดัชนีหุ้นหลักของรายการนั้น ๆ เช่น รายการหุ้นญี่ปุ่น ก็จะพิจารณาดัชนี NIKKEI 225 ว่ามีสถานะแนวโน้มอย่างไร แล้วจึงเลือกกองทุนหุ้นญี่ปุ่นที่น่าสนใจมานำเสนอ หุ้นเทคก็จะพิจารณาดัชนี NASDAQ ว่ามีสถานะแนวโน้มอย่างไร แล้วจึงเลือกกองทุนหุ้นเทคที่น่าสนใจมานำเสนอ อย่างไรก็ดี หากแนวโน้มระยะกลางยังไม่เอื้อต่อการลงทุน ก็ยังไม่แนะนำกองทุนน่าสนใจ
(เนื้อหานี้ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537)
👍สนใจซื้อขาย รับคำปรึกษาเรื่องการลงทุนกองทุนรวม ทำได้ง่าย ๆ ที่
http://www.treasurist.com
หรือติดต่อเราได้ที่ LINE: @Treasurist
https://page.line.me/treasurist
หรือ Inbox
m.me/treasurist
👍คัดเลือกกองทุนเด่นด้วย AI จับจังหวะที่ใช่ จากมืออาชีพ
👍ลงทุนอย่างเบาใจและปลอดภัยไปกับ Treasurist ผู้ให้บริการที่ปรึกษา ซื้อขายสับเปลี่ยนและแนะนำกองทุนรวมจากหลาก บลจ. ชั้นนำ ภายใต้การกำกับของสำนักงาน ก.ล.ต.
👍ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเราได้ที่
https://www.treasurist.com/whyus
🏆เทรเชอริสต์ ขอขอบคุณสำนักงาน ก.ล.ต. กับรางวัล "ความคิดสร้างสรรค์ยอดเยี่ยม" พร้อมตราสัญลักษณ์พิเศษ "Investment Knowledge Provider" ภายใต้โครงการ “ตลาดทุนไทย ร่วมใจส่งพลังความรู้ สู่ประชาชน เฟส 2” และภูมิใจที่ได้สร้างคุณค่าในการให้ความรู้การเงินการลงทุนแก่สังคม
เศรษฐกิจ
การลงทุน
กองทุน
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย