20 ม.ค. เวลา 09:36 • หุ้น & เศรษฐกิจ

สรุปภาวะตลาดประจำสัปดาห์ที่ 13 – 17 ม.ค. 2568

ภาพรวม
  • หุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดปรับขึ้น รับตัวเลขเงินเฟ้อชะลอ ผลประกอบการกลุ่มธนาคารดีกว่าคาด และสงครามอิสราเอล-ฮามาสบรรลุข้อตกลงหยุดยิง
  • หุ้นกลุ่มแบงก์ใหญ่สหรัฐฯ ประกาศงบ Q4/2567 รายได้โต กำไรเพิ่ม
  • ตัวเลข GDP จีนปี 2567 ขยายตัว 5% YoY จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการส่งออก แต่ตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ สะท้อนเศรษฐกิจจีนยังฟื้นตัวไม่สม่ำเสมอ
  • สงครามอิสราเอล-ฮามาส ยุติแล้ว หลังทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และปล่อยตัวประกัน
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI และ Brent เพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน จากการที่สหรัฐฯ ออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ กดดันความกังวลต่ออุปทานน้ำมันโลก
สถานการณ์ตลาด
  • สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีความผันผวน โดยในช่วงกลางสัปดาห์ตลาดหุ้นฟื้นตัวจากตัวเลขเงินเฟ้อที่ออกมาต่ำกว่าคาด ทำให้ความคาดหวังการลดดอกเบี้ยเร็วขึ้นกลับมา ช่วยให้ Bond Yield ปรับตัวลงมากว่า 15 Basis Points (bps) มาอยู่ที่ระดับ 4.62% นอกจากนี้ผลประกอบการของกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ออกมาดีกว่าคาด รวมถึงการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาส ช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
  • ผลการดำเนินงานในสัปดาห์ที่แล้ว ดัชนี Dow Jones +3.7% S&P 500 +2.9% และ NASDAQ +2.5%
  • สถานการณ์สหรัฐฯ
๐ แรงกดดันด้านเงินเฟ้อเริ่มลดลง หลัง Core CPI และ PPI ในเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด
- เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) เพิ่มขึ้น 3.2% YoY ต่ำกว่าคาดที่ 3.3% YoY หรือเพิ่มขึ้น 0.2% MoM ต่ำกว่าคาดที่ 0.3% MoM ส่วนเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) เพิ่มขึ้น 2.9% YoY และ 0.4% MoM ซึ่งเท่ากับที่นักวิเคราะห์คาด
- ปัจจัยที่ทำให้เงินเฟ้อลดลงมาจากการลดลงของค่าที่พักโรงแรม ค่าบริการทางการแพทย์เพิ่มขึ้นในอัตราที่น้อยลง ราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 0.3%
- ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.2% MoM ชะลอตัวลงจากเดือน พ.ย. ที่เพิ่มขึ้น 0.4% และต่ำกว่าคาดที่ 0.4%
๐ ตัวเลขยอดค้าปลีก (Retail Sales) ในเดือน ธ.ค. ขยายตัว 0.4% MoM โดยในกลุ่ม Control Group ที่ Fed ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.7% สูงสุดในรอบ 3 เดือน สะท้อนความต้องการของผู้บริโภคที่แข็งแกร่งในช่วงเทศกาลวันหยุด
๐ ผลประกอบการกลุ่มธนาคารสหรัฐฯ ใน Q4/2567 ได้แก่
- Goldman Sachs รายได้รวมเพิ่มขึ้น 23% YoY อยู่ที่ 13,870 ล้านดอลลาร์ กำไรเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากปีก่อน มาอยู่ที่ 4,110 ล้านดอลลาร์ มีแรงหนุนจากรายได้ค่าธรรมเนียมการซื้อขายหุ้น ตราสารหนี้ และ Investment Banking
- Morgan Stanley รายได้รวมเพิ่มขึ้น 26% YoY อยู่ที่ 16,220 ล้านดอลลาร์ กำไรเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากปีก่อน อยู่ที่ 3,710 ล้านดอลลาร์ ธุรกิจซื้อขายหุ้นโดดเด่นที่สุดใน Q4 ทำรายได้เพิ่มขึ้น 51% อยู่ที่ 3,300 ล้านดอลลาร์
- JP Morgan Chase รายได้รวมเพิ่มขึ้น 10% อยู่ที่ 43,740 ล้านดอลลาร์ หนุนมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 23,470 ล้านดอลลาร์ กำไรเพิ่มขึ้น 50% อยู่ที่ 14,000 ล้านดอลลาร์ และผู้บริหารประกาศเพิ่มการซื้อหุ้นคืน
- Citigroup รายได้รวมเพิ่มขึ้น 12% อยู่ที่ 19,580 ล้านดอลลาร์ กำไรสุทธิ 2,860 ล้านดอลลาร์ ดีขึ้นจากที่ขาดทุนสุทธิ 1,840 ล้านดอลลาร์ในปีก่อน รายได้โตได้ทุกธุรกิจ โดยเฉพาะ Investment Banking รายได้โต 35% YoY ทั้งนี้บริษัทมีประกาศซื้อหุ้นคืนมูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์อีกด้วย
๐ มุมมองเศรษฐกิจของคุณ Scott Bessent (ว่าที่ รมต. กระทรวงการคลังสหรัฐฯ คนใหม่) ระบุว่านโยบายของทรัมป์จะไม่ทำให้เกิดเงินเฟ้อ จะสนับสนุนการต่ออายุกฎหมายลดหย่อนภาษีและการจ้างงานปี 2017 รวมถึงคุณ Bessent เปิดกว้างต่อการยกเลิกเพดานหนี้ของสหรัฐฯ แต่เน้นย้ำความสำคัญของการควบคุมการใช้จ่ายของรัฐบาล รวมถึงยืนยันว่าดอลลาร์ต้องเป็นเงินสำรองของโลกต่อไป และสหรัฐฯ ไม่จำเป็นต้องมีสกุลเงินดิจิทัล
  • สถานการณ์จีน
๐ การส่งออกและนำเข้าในเดือน ธ.ค. สูงกว่าที่ตลาดคาด โดยการส่งออกเพิ่มขึ้น 10.7% YoY เพิ่มขึ้นกว่าเดือนก่อนที่ 6.7% และสูงกว่าคาดที่ 7.3% ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 1% YoY ฟื้นตัวจากการหดตัว 2 เดือนก่อน โดยการส่งออกของจีนไปสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีเนื่องจากบริษัทต่างๆ เร่งการส่งออกสินค้าก่อนการกลับมาของประธานาธิบดีทรัมป์
๐ ตัวเลข GDP จีนปี 2567 ขยายตัว 5% YoY สูงกว่าตลาดคาด ทั้งนี้ GDP จีนทั้งปีขยายตัวจากแรงหนุนใน Q4 ที่ขยายตัวถึง 5.4% YoY จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการส่งออก
๐ ตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ยังสะท้อนว่าเศรษฐกิจจีนยังฟื้นตัวได้ไม่สม่ำเสมอ โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 6.2% YoY ขณะที่ยอดค้าปลีก เพิ่มขึ้น 3.7% YoY สูงกว่าคาด ที่ 3.6% อย่างไรก็ตามอัตราการว่างงานในเขตเมือง เพิ่มขึ้นเป็น 5.1% เพิ่มขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ส.ค. นอกจากนี้ยอดขายอสังหาฯ ยังคงหดตัวต่อเนื่องจากปีก่อน
๐ สถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาส ได้สิ้นสุดลงแล้ว เป็นการยุติสงครามที่มีมานาน 15 เดือน โดยทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกัน
๐ ราคาน้ำมันดิบ WTI +1.1% WoW และราคาน้ำมันดิบ Brent +1.3% WoW ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน เนื่องจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ เป็นแรงกดดันเพิ่มเติมเรื่องความกังวลต่ออุปทานน้ำมันโลก
นโยบายการลงทุนและคำเตือน
  • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และ ความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • ผู้ลงทุนสามารถขอข้อมูลหนังสือชี้ชวนได้ที่สำนักงานของบริษัทจัดการ หรือจาก www.krungsriasset.com หรือตัวแทนสนับสนุนการขาย หรือเจ้าหน้าที่ขายหน่วยลงทุน
ติดตามกองทุนกรุงศรี อัปเดตข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ ได้ที่
#KrungsriAsset #กองทุนกรุงศรี #Weeklymarketview #สรุปภาวะตลาดรายสัปดาห์
โฆษณา