Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
aomMONEY
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
20 ม.ค. เวลา 14:00 • ไลฟ์สไตล์
“เงินทุกบาทต้องมีหน้าที่” จัดสรร 'รายได้' ให้เหลือ 'ศูนย์'
เปิดแนวคิด Zero-Based Budgeting เพื่อจัดการเงินให้ดีขึ้นในปี 2568
เมื่อย่างเข้าสู่ปี 2568 หลายคนมักตั้งเป้าหมายใหม่ในชีวิต และการเงินมักเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญที่ต้องการปรับปรุง แต่มีคำถามว่าทำไมหลายคนถึงทำไม่สำเร็จ คำตอบอยู่ที่การขาดระบบการวางแผนการเงินที่มีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ที่ต้องการไปให้ถึงเป้าหมาย ลองวิธีจัดการทางการเงินที่เรียกว่า การทำงบประมาณแบบเริ่มจากศูนย์ (Zero-Based Budgeting) ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
Zero-Based Budgeting คือการวางแผนการเงินที่เริ่มต้นจากศูนย์ในทุก ๆ เดือน โดยจัดสรรรายได้ทั้งหมดให้กับหมวดหมู่ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จนเหลือศูนย์ ตามแนวคิดที่ว่า “ทุกบาทต้องมีหน้าที่” จากการศึกษาของ Personal Finance Research Center แห่งมหาวิทยาลัย Bristol พบว่า ผู้ที่ใช้วิธีดังกล่าวมีโอกาสบรรลุเป้าหมายทางการเงินสูงกว่าผู้ที่ไม่ใช้ถึง 73%
[[ ขั้นตอนการทำ Zero-Based Budgeting แบบลงมือทำได้ทันที ]]
✅ รวบรวมรายได้ทั้งหมด
รวบรวมรายได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนประจำ รายได้จากการทำงานพิเศษ โบนัสที่ได้รับ หรือผลตอบแทนจากการลงทุนต่าง ๆ การรู้ตัวเลขรายได้ที่แท้จริงจะช่วยให้วางแผนการใช้จ่ายได้อย่างแม่นยำ
✅ จัดลำดับความสำคัญของค่าใช้จ่าย
จัดสรรเงินตามหลัก 50/30/20 โดย 50% สำหรับความจำเป็นพื้นฐาน (เช่น ค่าที่อยู่อาศัย ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าสาธารณูปโภคพื้นฐาน และค่าประกันต่าง ๆ ที่จำเป็น) 30% สำหรับความต้องการ (เช่น ท่องเที่ยวพักผ่อน กิจกรรมบันเทิง การชอปปิง) 20% สำหรับการออมและการลงทุน (เช่น การเก็บออมฉุกเฉิน การชำระหนี้ การลงทุนเพื่อวัยเกษียณ)
การจัดสรรงบประมาณแบบ Zero-Based เป็นหัวใจสำคัญของการวางแผนการเงินที่มีประสิทธิภาพ จากการศึกษาของ Financial Planning Association (FPA) พบว่าการเริ่มจัดสรรงบประมาณทันทีที่ได้รับเงินเดือนจะช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการบริหารการเงินได้มากถึง 80%
[[ วิธีการจัดสรรงบประมาณอย่างเป็นระบบ ]]
✅ ตั้งเป้าหมายทางการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ
ก่อนจะเริ่มจัดสรรเงิน สิ่งสำคัญ คือ การมีเป้าหมายที่ชัดเจน โดยอาจแบ่งเป้าหมายออกเป็น 3 ระยะ เริ่มจากเป้าหมายระยะสั้น 1 – 12 เดือน (เช่น การเก็บออมฉุกเฉิน การซื้อสินทรัพย์จำเป็น หรือการวางแผนท่องเที่ยว) ต่อด้วยเป้าหมายระยะกลาง 1- 5 ปี (เช่น การดาวน์บ้าน การเริ่มธุรกิจ การลงทุนเพื่อสร้างรายได้เสริม) และสุดท้าย คือ เป้าหมายระยะยาว 5 ปีขึ้นไป (เช่น การวางแผนเกษียณ การสร้างความมั่งคั่ง หรือการส่งลูกเรียนต่อต่างประเทศ)
✅ จัดสรรเงินตามหลักจ่ายให้ตัวเองก่อน
หลักการจ่ายให้ตัวเองก่อน (Pay Yourself First) เป็นกุญแจสำคัญสู่ความมั่งคั่ง โดยทันทีที่ได้รับเงินเดือน ให้ตั้งคำสั่งโอนเงินอัตโนมัติไปยังบัญชีออมทรัพย์และการลงทุน รวมถึงการชำระหนี้ตามกำหนด วิธีนี้จะช่วยให้มีวินัยในการออมและการลงทุน โดยไม่ต้องกังวลว่าจะลืมหรือใช้เงินเกินตัว
✅ จัดการค่าใช้จ่ายคงที่อย่างมีประสิทธิภาพ
ค่าใช้จ่ายคงที่เป็นสิ่งที่สามารถคาดการณ์และวางแผนล่วงหน้าได้ ควรตั้งคำสั่งจ่ายอัตโนมัติสำหรับค่าเช่า ค่าผ่อนบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ หรือค่าโทรศัพท์ จะช่วยให้ไม่พลาดการชำระเงินและประหยัดเวลาในการจัดการ นอกจากนี้ ควรจัดเตรียมเงินสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายประจำที่ไม่สามารถตั้งคำสั่งจ่ายอัตโนมัติได้ เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง หรือค่าซ่อมบำรุงต่าง ๆ
✅ บริหารค่าใช้จ่ายผันแปรอย่างยืดหยุ่น
เป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องการการบริหารจัดการที่ยืดหยุ่นแต่มีระเบียบ ด้วยการแบ่งเงินเป็นก้อน ๆ ตามหมวดหมู่ค่าใช้จ่าย เช่น หากมีงบสำหรับค่าใช้จ่ายผันแปร 15,000 บาท แบ่งเป็น 6,000 บาทสำหรับค่าอาหาร 3,000 บาทสำหรับความบันเทิง 4,000 บาทสำหรับชอปปิง และ 2,000 บาทสำหรับค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด การติดตามค่าใช้จ่ายรายวันจะช่วยให้ไม่ใช้เงินเกินงบที่ตั้งไว้ และสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความจำเป็น
[[ เทคนิคการทำให้ Zero-Based Budgeting ประสบความสำเร็จ ]]
✅ ใช้เทคโนโลยีเป็นผู้ช่วย
ในยุคดิจิทัล การพึ่งพาเทคโนโลยีไม่ใช่เรื่องฟุ่มเฟือย แต่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า จากการศึกษาของ FinTech Innovation Lab พบว่าผู้ที่ใช้แอปพลิเคชันจัดการการเงินมีโอกาสประสบความสำเร็จในการทำงบประมาณสูงถึง 82% เนื่องจากจะช่วยติดตามค่าใช้จ่าย แจ้งเตือนเมื่อใช้จ่ายเกินงบ และสรุปภาพรวมทางการเงินได้อย่างแม่นยำ
✅ สร้างระบบติดตามและประเมินผลที่มีชีวิต
การทำ Zero-Based ไม่ใช่การวางแผนครั้งเดียวแล้วจบ แต่ต้องมีการติดตามและปรับแผนอย่างสม่ำเสมอ โดยจัดสรรเวลาทุกสัปดาห์เพื่อทบทวนค่าใช้จ่าย สังเกตว่ามีรายจ่ายใดที่เกินงบหรือต่ำกว่าที่วางแผนไว้ เพื่อที่จะได้ปรับแผนในเดือนถัดไปให้สอดคล้องกับความเป็นจริงมากขึ้น และทุกสิ้นเดือนควรวิเคราะห์ภาพรวมว่าแผนที่วางไว้เป็นไปได้จริงหรือไม่ มีค่าใช้จ่ายใดที่ประเมินต่ำหรือสูงเกินไป และทุกไตรมาสควรดูแนวโน้มการใช้จ่ายเพื่อปรับกลยุทธ์การเงินให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป
✅ เตรียมแผนฉุกเฉินรอบด้าน
การมีแผนรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ควรเตรียมเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 3 – 6 เดือนของค่าใช้จ่ายจำเป็น จะช่วยให้รับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝันได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นการตกงาน เจ็บป่วย หรือค่าใช้จ่ายฉุกเฉินอื่น ๆ นอกจากนี้ การทำประกันที่จำเป็น เช่น ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ หรือประกันชีวิต ก็เป็นอีกหนึ่งเกราะป้องกันที่จะช่วยไม่ให้เหตุการณ์ไม่คาดฝันกระทบกับแผนการเงินมากเกินไป
[[ การปรับใช้การจัดสรรงบประมาณแบบ Zero-Based ให้เข้ากับคนไทย ]]
✅ ความท้าทายด้านรายได้ที่ไม่แน่นอน
ควรเริ่มจากการประเมินรายได้ขั้นต่ำที่มั่นใจว่าจะได้รับในแต่ละเดือน และใช้ตัวเลขนี้เป็นฐานในการวางแผน หากเดือนไหนมีรายได้มากกว่าที่คาดการณ์ ควรจัดสรรส่วนเกินนี้ไปเก็บออมหรือลงทุนทันที
✅ การวางแผนรับมือค่าใช้จ่ายตามเทศกาล
ประเทศไทยมีเทศกาลสำคัญหลายช่วงในรอบปี ซึ่งมักมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายพิเศษ ดังนั้น การวางแผนการเงินแบบ Zero-Based จึงควรมีการกันเงินไว้สำหรับเทศกาลเหล่านี้ตั้งแต่ต้นปี เริ่มต้นด้วยการประมาณการค่าใช้จ่ายทั้งปีสำหรับเทศกาลต่าง ๆ แล้วหารเฉลี่ยรายเดือน เช่น คาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายช่วงปีใหม่ 20,000 บาท สงกรานต์ 15,000 บาท และเทศกาลอื่น ๆ อีก 15,000 บาท (รวม 50,000 บาทต่อปี) ให้กันเงินเดือนละประมาณ 4,200 บาทไว้ในบัญชีแยกต่างหาก เพื่อไม่ให้กระทบกับค่าใช้จ่ายปกติ
✅ การวางแผนดูแลครอบครัว
วัฒนธรรมไทยให้ความสำคัญกับการดูแลพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ การวางแผนการเงินแบบ Zero-Based จึงต้องคำนึงถึงภาระนี้ด้วย โดยจัดสรรงบประมาณสำหรับการดูแลครอบครัวเป็นหมวดหมู่ ไม่ควรรวมไว้ในหมวดค่าใช้จ่ายทั่วไป
ตัวอย่าง
มีรายได้ 50,000 บาท อาจแบ่งเป็น
40% (20,000 บาท) สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็นของตัวเอง
20% (10,000 บาท) สำหรับการดูแลพ่อแม่และครอบครัว
20% (10,000 บาท) สำหรับความสุขและความบันเทิง
20% (10,000 บาท) สำหรับการออมและลงทุน
การจัดสรรเงินแบบเริ่มต้นใหม่ไม่ใช่เพียงการทำบัญชีรายรับรายจ่าย แต่เป็นการปรับเปลี่ยนมุมมองและพฤติกรรมทางการเงินทั้งหมด ถึงแม้หลายคนอาจมองว่าการเริ่มต้นอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมเริ่มจากก้าวแรก เริ่มจากการทำความเข้าใจรายรับรายจ่ายของตัวเอง วางแผนอย่างเป็นระบบ ที่สำคัญ คือ การลงมือทำอย่างจริงจัง ความสำเร็จทางการเงินไม่ได้วัดจากจำนวนเงินในบัญชี แต่วัดจากความสามารถในการบริหารจัดการเงินที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เริ่มต้นปี 2568 ด้วยการวางรากฐานทางการเงินที่มั่นคง ด้วยการจัดสรรเงินแบบเริ่มต้นใหม่ เพราะทุกบาทที่บริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพวันนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของอิสรภาพทางการเงินในวันข้างหน้า
อ้างอิง:
https://www.setinvestnow.com/th/home
https://www.setinvestnow.com/.../626-tsi-wealth-planning
...
#aomMONEY #ZeroBasedBudgeting #จัดการเงิน #จัดสรรรายได้ #MoneyManagement
1 บันทึก
3
1
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย