7 ชั่วโมงที่แล้ว • สิ่งแวดล้อม

‘กรีนแลนด์’ น้ำแข็งละลาย เผยให้เห็น ‘แร่ธาตุ’ จำนวนมากใต้หิมะ สาเหตุหลัก ‘ทรัมป์’ หวังผนวกดินแดน

น้ำแข็งใน “กรีนแลนด์” กำลังละลายอย่างรวดเร็วจาก “วิกฤติสภาพภูมิอากาศ” ทำให้สภาพภูมิประเทศเปลี่ยนแปลงไป แต่อาจจะเป็นผลดีสำหรับบริษัทขุดเจาะแร่ ที่อาจพบแร่ธรรมชาติจำนวนมากที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้น้ำแข็ง และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ “โดนัลด์ ทรัมป์” อยากได้กรีนแลนด์
การวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยลีดส์ของสหราชอาณาจักร เผยให้เห็นว่า “กรีนแลนด์” เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดินแดนที่ปลุกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง กำลังเปลี่ยนเป็นสีเขียวมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะ “ภาวะโลกร้อน” ที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์
แผ่นน้ำแข็งและธารน้ำแข็งในกรีนแลนด์บางส่วนถูกแทนที่ด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ พื้นที่พุ่มไม้ และหินจำนวนมาก อีกทั้งนักวิทยาศาสตร์เตือนว่า หากหิมะและน้ำแข็งละลายมากขึ้น อาจส่งผลให้เกิดก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นและระดับน้ำทะเลสูงขึ้น
ในแต่ละปีมีน้ำแข็งใหม่บริเวณละติจูดทางเหนือสุดมีเวลาก่อตัวเพียงแค่ 3-4 เดือนเท่านั้น และส่วนอื่น ๆ ของกรีนแลนด์กำลังละลาย ทำให้พบหินและแร่ธาตุที่ถูกฝังอยู่ใต้น้ำแข็งมากขึ้น
จาค็อบ โคลฟ คีดิง ที่ปรึกษาอาวุโสของสำนักสำรวจทางธรณีวิทยาของเดนมาร์กและกรีนแลนด์ (GEUS) กล่าวว่าการสำรวจศักยภาพทรัพยากรของกรีนแลนด์ในปี 2023 ได้ประเมินวัตถุดิบทั้งหมด 38 รายการบนเกาะ โดยส่วนใหญ่มีศักยภาพค่อนข้างสูงหรือปานกลาง
1
วัสดุเหล่านี้รวมถึงโลหะหายากอย่างกราไฟต์ ไนโอเบียม โลหะกลุ่มแพลตตินัม โมลิบดีนัม แทนทาลัม และไททาเนียม กรีนแลนด์ยังเป็นที่รู้จักว่ามีแหล่งลิเธียม แฮฟเนียม ยูเรเนียม และทองคำจำนวนมาก
แร่ธาตุเหล่านี้ถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน สามารถนำไปใช้ในหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เทคโนโลยีการกักเก็บพลังงาน และการใช้งานด้านความมั่นคงแห่งชาติ หากขาดแร่ธาตุเหล่านี้อาจทำให้ซัพพลายเชนหยุดชะงักได้
อย่างไรก็ตาม กรีนแลนด์ยังคงมีปัญหารอบด้านสำหรับการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่เลวร้าย ประชากรจำนวนน้อย ที่สำคัญคือขาดโครงสร้างพื้นฐาน และการสกัดแร่ ที่อาจต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะทำได้สำเร็จ
#กรุงเทพธุรกิจ #InsightforOpportunities #กรุงเทพธุรกิจSustain #กรุงเทพธุรกิจClimate
โฆษณา