9 ชั่วโมงที่แล้ว • สุขภาพ

เวลาที่เราพูดถึงความคิดของเรา

คำว่า “ความคิดของเรา” มันสะท้อนว่า
เราเป็นเจ้าของความคิดที่ผุดขึ้นมาในใจเรา
มันสะท้อนว่าเราสามารถควบคุม
ความคิดที่ปรากฏขึ้นมาในใจเราได้
แต่ในความเป็นจริงนั้น
เราไม่สามารถควบคุมทุกๆความคิด
ที่ปรากฏขึ้นมาในใจเราได้หรือ?
ผมขอตอบตรงนี้เลยครับว่า “ไม่”
เพราะหลายครั้ง เราจะมีความคิดบางอย่าง
ที่ปรากฏขึ้นมาในใจเราแบบ “อัตโนมัติ”
ยกตัวอย่างเช่น
เมื่อไม่นานมานี้ ระหว่างที่ผมกำลังนั่งทำงาน
อยู่ดีๆ เจ้าแมวที่ผมเลี้ยงไว้
(ซึ่งเป็นแมวที่อาม่าผมฝากเลี้ยงก่อนที่ท่านจะเสียไป)
ก็เดินมากัดเท้าผมจนเลือดออกแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
ตอนนั้นเองที่ในใจผมเกิดความคิด
ผุดขึ้นมาอย่างอัตโนมัติว่า
“เดี๋ยวพ่อเตะเปรี้ยงเข้าให้!”
เป็นต้น
เวลาที่หลายคนมองเห็น “เนื้อหา” ของความคิดอัตโนมัติเหล่านี้
หลายคนรู้สึกอับอาย ผิดหวัง หรือแม้กระทั่งขยะแขยงกับตัวเอง
เพราะพวกเขามองว่า
ความคิดอัตโนมัติเหล่านี้
มันสะท้อนถึง “ตัวตน” ของพวกเขา
อย่างถ้าเป็นกรณีของตัวอย่างผมในข้างต้น
ความคิด “เดี๋ยวพ่อเตะเปรี้ยงเข้าให้!”
มันสะท้อนถึง “ตัวตน” ของผม
ที่เป็นคนใช้ความรุนแรง ทารุณกรรมสัตว์ ฯลฯ
ถ้าผมเป็นเหมือนกับพวกเขา
ผมก็จะรู้สึกอับอาย ผิดหวัง หรือแม้กระทั่งขยะแขยง
กับตัวเองที่มีความคิด “ป่าเถื่อน” เช่นนี้
อย่างไรก็ตาม ผมไม่ได้มองว่า
ความคิดที่ผุดขึ้นมาในใจเราคือตัวเรา
ผมมองว่าสิ่งที่จะบอกว่าเราเป็นคนอย่างไร
คือสิ่งที่เราเลือกทำเวลาที่เรา
มีความคิดอัตโนมัติเหล่านี้ผุดขึ้นมาในใจมากกว่า
อย่างถ้าเป็นกรณีของตัวอย่างผมในข้างต้น
ความคิด “เดี๋ยวพ่อเตะเปรี้ยงเข้าให้!” ไม่ใช่
สิ่งที่จะบ่งบอกว่าผมเป็นคนอย่างไร
สิ่งที่จะบ่งบอกว่าผมเป็นคนอย่างไร
คือการตัดสินใจของผมว่า
ผมจะ “ทำตาม” ความคิดดังกล่าว (ก็คือเตะแมวตัวนั้น)
หรือ “ไม่ทำตาม” ความคิดดังกล่าว (ก็คือไม่เตะแมวตัวนั้น) มากกว่า
ถ้าผมเลือกที่จะเตะแมวตัวนั้น
การตัดสินใจนี้ก็จะสะท้อนว่า
ผมเป็นคนใช้ความรุนแรง ทารุณกรรมสัตว์ ฯลฯ
ถ้าผมเลือกที่จะไม่เตะแมวตัวนั้น
การตัดสินใจนี้ก็จะสะท้อนว่า
ผมไม่เป็นคนใช้ความรุนแรง ทารุณกรรมสัตว์ ฯลฯ
ผมคิดว่ามุมมอง “ตัวตนของเรา = สิ่งที่เราเลือก”
ถือเป็นมุมมองที่สมเหตุสมผลมากกว่ามุมมอง
“ตัวตนของเรา = ความคิดที่ปรากฎขึ้นในใจเรา” เยอะเลยครับ
เพราะมันโฟกัสสิ่งที่อยู่ในการควบคุมของเรา (การตัดสินใจของเรา)
ไม่ใช่สิ่งที่อยู่นอกการควบคุมของเรา (ความคิดอัตโนมัติที่โผล่ขึ้นมาในใจเรา)
ดังนั้น
เราอย่ารู้สึกอับอาย ผิดหวัง หรือขยะแขยงกับตัวเอง
เพราะความคิดอัตโนมัติในใจเราเลยครับ
ถ้าเราจะรู้สึกอับอาย ผิดหวัง หรือขยะแขยงกับตัวเองจริงๆ
เก็บไว้ตอนที่เรามองเห็นการตัดสินใจของตัวเองดีกว่าครับ
โฆษณา