Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Wealthy Thai
•
ติดตาม
21 ม.ค. เวลา 03:04 • หุ้น & เศรษฐกิจ
5 หุ้นสหรัฐฯ ลุ้นรับผลดี ในรัฐบาล Trump 2.0
Donald Trump เพิ่งสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไปเมื่อวันวานนี้ (20 มกราคม 2568) ท่ามกลางความตื่นเต้นของนักลงทุนทั่วโลก ซึ่งในบทความนี้ Wealthy Thai ได้รวบรวม 5 หุ้นสหรัฐฯ ที่มีโอกาสรับประโยชน์จากรัฐบาล Trump สูง โดยหุ้นเหล่านี้ได้แก่
1.JP
Morgan Chase (JPM)
ในครั้งแรกที่ Donald Trump ได้เป็นประธานาธิบดี อุตสาหกรรมธนาคารได้รับผลดีจากการลดกฎเกณฑ์และมาตรการต่างๆ ซึ่งนักวิเคราะห์จาก Argus Research มองว่าธนาคาร JPMorgan Chase (JPM) เป็นหนึ่งในธนาคารที่จะได้รับผลดีมากที่สุด เนื่องจากเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ (มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือ market cap ราว 720,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
และมียอดสินเชื่อที่เติบโตได้ดี แถมยังมีแฟรนไชส์บัตรเครดิตที่แข็งแกร่ง ที่สำคัญ มองว่าราคาหุ้นในปัจจุบันนั้นยังต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานอยู่ โดยราคาเป้าหมายโดยเฉลี่ยของหุ้นอยู่ที่ 270.41 ดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก TipRank
2.Lockheed Martin (LMT)
จากสถิติในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หุ้นอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศมักจะไปได้ดีในช่วงรัฐบาลของพรรค Republican แถมสงครามที่ยังคงยืดเยื้ออยู่ ทั้งในยูเครนและในอิสราเอล ก็น่าจะทำให้สินค้าในอุตสาหกรรมนี้เป็นที่ต้องการมากขึ้น โดยนักวิเคราะห์จาก Argus Research มองว่า Lockheed Martin (LMT) บริษัทด้านอากาศยาน อวกาศ และการป้องกันประเทศ
จะเป็นบริษัทที่ได้ผลดีในเทรนด์นี้ เนื่องจากบริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีเกินตลาดคาดอยู่บ่อยๆ และยังมีรายได้จากต่างประเทศเยอะ (มากกว่า 25% ของรายได้ทั้งหมด) ทั้งนี้ราคาเป้าหมายโดยเฉลี่ยของหุ้นอยู่ที่ 571.47 ดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก TipRanks
3.Exxon Mobil (XOM)
นโยบายลดกฎเกณฑ์และข้อบังคับในการทำธุรกิจต่างๆ ของ Trump เช่น การยกเลิกการแบนการขุดก๊าซธรรมชาติที่ Biden เคยเสนอไว้ มีแนวโน้มทำให้ผลประกอบการณ์ของบริษัทในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซปรับตัวดีขึ้น โดยนักวิเคราะห์จาก UBS Global Research มองว่าบริษัท Exxon Mobil (XOM) จะได้รับผลดีสูง เนื่องจากบริษัทมี (1) ธุรกิจต้นน้ำที่เติบโตได้ดี
(2) การขยายธุรกิจปลายน้ำอย่างต่อเนื่อง (3) การลงทุนในการลดคาร์บอน และ (4) การลดต้นทุนค่าใช้จ่าย โดยราคาเป้าหมายโดยเฉลี่ยของหุ้นอยู่ที่ 133.35 ดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก TipRanks
4.Nucor (NUE)
แม้ที่ผ่านมา ผู้ผลิตเหล็กในสหรัฐฯ จะเผชิญการแข่งขันจากจีนและบราซิล ที่ทำให้ราคาเหล็กและความต้องการเหล็กจากสหรัฐฯ ลดลง แต่การขึ้นภาษีนำเข้าของ Trump ก็อาจช่วยทำให้อุตสาหกรรมเหล็กสหรัฐฯ กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ทั้งนี้นักวิเคราะห์จาก Argus Research มองว่าบริษัท Nucor (NUE) จะได้รับประโยชน์สูง เนื่องจากเป็นบริษัทผลิตเหล็กชั้นนำ ที่มีผลการดำเนินงานที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ทั้งนี้ ราคาเป้าหมายโดยเฉลี่ยของ NUE อยู่ที่ 157.90 ดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก TipRanks
5.GEO Group (GEO)
GEO Group (GEO) เป็นบริษัทอเมริกันขนาดเล็กที่โด่งดังในด้านการออกแบบ ผลิต และจัดการเรือนจำและทัณฑสถานเอกชน ซึ่งนักวิเคราะห์จาก Wedbush มองว่าการที่ Trump เสนอมาตรการควบคุมผู้อพยพที่เข้มงวดมากขึ้น มีโอกาสเพิ่มการใช้บริการของบริษัท เนื่องจากที่ผ่านมา ทัณฑสถานเอกชนได้มีส่วนร่วมในนโยบายของ Trump และพรรค Republican ค่อนข้างมาก ซึ่งนี่จะส่งผลให้นักลงทุนมีจิตวิทยาเชิงบวกต่อราคาหุ้น GEO มากขึ้น ทั้งนี้ ราคาเป้าหมายโดยเฉลี่ยของ GEO อยู่ที่ 41.50 ดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก TipRanks
เศรษฐกิจ
การลงทุน
หุ้น
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย