เมื่อวาน เวลา 05:23 • หุ้น & เศรษฐกิจ

“ทรัมป์” ถอนตัว “ข้อตกลงปารีส” เลิกกำหนดเป้าขายรถ EV จำนวน 50%

น้ำมัน WTI ร่วงกว่า 1% หลัง "ทรัมป์" หนุนผลิตน้ำมันเพิ่ม
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้เพิกถอนคำสั่งบริหาร 78 ฉบับ ที่ลงนามโดยโจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดี หนึ่งในคำสั่งสำคัญคือ เริ่มกระบวนการถอนสหรัฐ ออกจาก "ข้อตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ" ซึ่งเป็นข้อตกลงสำคัญของนานาชาติ โดยเขามุ่งดำเนินการตามแผนงานด้านพลังงานที่ครอบคลุม ซึ่งเน้นที่การเพิ่มการผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิล
ข้อตกลงปารีสเป็นข้อตกลงสมัครใจระหว่างประเทศที่มุ่งจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก
นอกจากคำสั่งถอนตัวจากข้อตกลงปารีสแล้ว ประธานาธิบดี ทรัมป์ ได้เพิกถอนคำสั่งบริหารปี 2564 ที่ลงนามโดยโจ ไบเดน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้รถยนต์ใหม่จำนวน 50% จากทั้งหมดที่จำหน่ายในปี 2573 นั้นต้องเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (EV)
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังมีแผนที่จะสั่งการให้หน่วยงานต่าง ๆ ทำการทบทวนใหม่เกี่ยวกับกฎเกณฑ์ที่กำหนดมาตรฐานการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งกฎเกณฑ์ดังกล่าวกำหนดให้ผู้ผลิตรถยนต์จะต้องจำหน่ายรถ EV จำนวน 30-56% ภายในปี 2575
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 1.04 ดอลลาร์ หรือ 1.34% แตะที่ระดับ 76.84 ดอลลาร์/บาร์เรล ในช่วงเช้าวันนี้ (21 ม.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้กล่าวสุนทรพจน์หลังเสร็จสิ้นการสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 47 ที่อาคารรัฐสภาในวันจันทร์ (20 ม.ค.) โดยประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติเพื่อลดราคาพลังงานในสหรัฐฯ ด้วยการเพิ่มการขุดเจาะน้ำมัน วางท่อน้ำมัน และตั้งโรงกลั่นน้ำมัน
การประกาศภาวะฉุกเฉินดังกล่าวสอดคล้องกับการกล่าวปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนส.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งทรัมป์กล่าวว่า เขาจะประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติในวันแรกที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เพื่อลดราคาน้ำมันเบนซินและค่าไฟของชาวอเมริกันลงครึ่งหนึ่งภายในช่วงปีแรกที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี
นอกจากนี้ ทรัมป์ได้กล่าวย้ำอีกครั้งในวันที่ 22 ธ.ค.2567 ว่า เขาจะประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติในวันแรกที่ดำรงตำแหน่ง โดยจะออกคำสั่งประธานาธิบดีเพื่อยกเลิกนโยบายของปธน.โจ ไบเดนเกี่ยวกับการส่งออกก๊าซธรรมชาติ การขุดเจาะน้ำมัน และการกำหนดมาตรฐานของการปล่อยมลพิษ
โฆษณา