1. สมัยยังไม่จบป.ตรี เราเริ่มต้นจากการเป็นลูกจ้างในกิจการนำเข้าเครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์ของครอบครัว ทำหน้าที่ในตำแหน่งจัดซื้อต่างประเทศ และบริการหลังการขายค่ะ
2. เราเคยขอครอบครัวไปทำงานที่บริษัทการ์เม้นท์ข้ามชาติ เขาเรียกตัวไปเพราะภาษาดี ทำหน้าที่โต้ตอบอีเมล์ลูกค้าแบรนด์อังกฤษ และยุโรป ในสมัยนั้น ที่สุดก็ไม่ชอบ เพราะเก่งภาษาอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องเรียนรู้เรื่องการ์เม้นท์ให้ได้ละเอียดยิบ เพื่อที่จะสามารถตอบลูกค้าได้ด้วยศัพท์แสงเฉพาะทาง โดยเฉพาะศัพท์เฉดสี หัวจะปวด! ที่สุดก็กลับมาตายรัง เพราะไม่ใช่ตัวตน เราชอบพบปะผู้คน เจอหน้าเจอตา!
3. เมื่อจบป.โท เราเข้าสู่ยุคเฟื่องฟู ที่ตลาดเงินตลาดทุน เกิดการชิงตัวนักศศ. สมัยรุ่นพี่เรา พยายามดึงตัวรุ่นน้องไปทำงาน หากคุณเคยได้ฟังเรื่องราว " เอกธนกิจ ปิ่น จักกะพาก" ลอง google ดูนะคะ สมัยนั้นโบนัส 10 เดือนไม่ใข่เรื่องโม้! เราจึงอยากทำงานในตลาดเงินตลาดทุน แต่สุดท้ายเราไปทำงานเป็นนักวิเคราะห์ศศ. ในสถาบันการเงินที่เป็นที่ใฝ่ฝันของคนทำงาน มาจนถึงปัจจุบัน ทำงานยาวนานจนเติบโตในหน้าที่การงาน (ประเมินค่าหลักทรัพย์, ทรัพย์สิน, สินเชื่อ , HR etc.)
4. ตอนที่เราอิ่มตัว และจำต้องลาจากอาชีพลูกจ้างประจำ เพื่อสานต่อกิจการครอบครัว เราถูกหน่วยงานภาครัฐซื้อตัวไปช่วยงานพิเศษ งานโหดหินมาก เพราะเป็นช่วง transform หลังเสร็จสิ้นภารกิจตามสัญญา เราก็ออกจากงานประจำ มาเป็น "ซือเจ๊" ในกิจการครอบครัวค่ะ
ตอนนี้ 40+ แล้วล่ะค่ะ
ทำหลายงาน หลายตำแหน่ง
วาไรตี้จิงกะเบลมากค่ะ
ทำอะไรได้ ก็ทำไปก่อนเถอะค่ะ
เพราะ passion กับ โชคชะตา
จะนำพาคุณไปเองนั่นแหละ
ขอให้เชื่อมั่นว่าศศ. ไม่มีวันตายแน่นอน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
