6 ชั่วโมงที่แล้ว
ที่ว่าเป็นมนุษย์นั้น ..เป็นที่รูป ..กาย .. แล้วก็มีจิตจุติ ..จิตที่ว่า จุติ ..นั่นเพราะมีกรรมนำพา ..พอพูด ถึงกรรม ..เรารู้จักได้มั้ย . .พอพูดคำว่าจิต ..ก็ไม่รู้จัก .. ที่เค้าว่า จิตมาอยู่ในกายพ่อแม่เป็นมนุษย์ ..ถ้าไปอยู่ในรูปหมูหมา ก็มีพ่อแม่เป็นหมูหมา .พูดคำว่าพ่อแม่ได้ .. การเกิดมาได้อาศัยกายมนุษย์ ที่พูดดีก็ได้ พูดชั่วก็ได้ .. ก็นับว่า พ่อแม่นั่น ..มีพระคุณ
.หากปราศจากความเอื้ออาทร คว่ามห่วงใยของแม่ ไม่ดูแลตั้งแต่ในท้อง เกิดมาก็อาจมีอาการไม่ครบสามสิบสอง หรือ ว่าเกิดไปทำแท้ง ..ก็หมดโอกาสมีกายเป็นมนุษย์กับเค้า เมื่อหลุดจากท้อง จิตก็ลงสวมจุติ ร้องกระแว้ๆ .. ไม่รู้เรื่องราวอะไรทั้งนั่น ช่วยตัวเองไม่ได้เลย สัตว์สี่เท้ามันแปกล หลุดจากท้องแม่ ก็เดินวิ่งเล่นได้ จะอิจฉาสัตว์มันดีมั้ย มันเกิดมาก็ไม่ต้องเรียนรู้อะไรมาด รู้ที่กินที่นอน พีอแม่กินหญ้า ก็ไปกินหญ้าบ้าง
..นี้ก็ไม่รู้เหมือนกันน่ะ ว่าต้องทำอะไรเมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ ..แต่กายมนุษย์นั้นดีอย่าง สามารถนำมาเรียนรู้อะไรได้ เรียนรู้จักดีชั่วได้ เรียนรู้ดีชั่วได้ ก็ไม่ใช่ว่าแค่รู้จัก ..ไม่ทำอะไรแก้ไข ..รู้จักดีชั่วได้ ก็มีสติปัญญาใช้กายวาจาใจทำเรื่องราวดี ๆ
คราวนี้ ที่ว่า จิตจุติมาเพราะมีกรรม นำมาเกิด . เรารู้จักกรรมแล้วหรือยัง รู้จักคำว่าพระคุณ เช่นพ่อแม่ให่กายเรามา ..เราก็นำกายมนุษย์ที่จิตนั่นอาศัยมากระทำขึ้น เพราะจิตเรามดวงเดียว จิตก็ต้องจากสังขารนี้ไป ด้วยจิตดวงเดียว .จิตเกิดมาทั้งทีเรียนรู้จักกรรม แก้ไขอะไรได้บ้าง ..ไปจนคำว่าบุญกุศลบารมี ที่จะติดตามไปกับจิต
..โอ้ว ..เขียนแค่นี้พอล่ะ คนยุคนี้ พอได้ยินความว่า สร้างบุญกุศล สร้างเรื่องราวดี นำกายมาประพฤติปฏิบัติธรรม เค้าได้ยินเรื่องเหล่านี้ มีแสลงตาแสลงหู หงุดหงิดรำคาญ ..เอาเป็นว่า เป็นเรื่องราวปัจจตัง ตัวใครตัวมันก็แล้วกัน เพราะจิตของแต่ละคน เป็นใหญ่ในเรือนกาย ไม่มีใครใหญ่กว่า จิตที่อาศัยกาย ..บางที่ก็นึกไปถึงเรื่องพระเทวทัต อยู่ใกล้พระพุทธเจ้า แต่กลับต้องไปนรกอเวจี
โฆษณา