Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่าเมาเมาแมน
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 10:20 • ข่าวรอบโลก
ส่งสัญญาณล้างผลาญโลกแล้วฮะ….
ผมเคยเขียนไปแล้ว ว่าสิ่งที่ทำให้ผมไม่อยากได้ทรัมป์
ไม่ใช่เรื่องสงครามยูเครน แต่เป็นเรื่องโลกร้อน
เพราะรู้ ว่าเขาไม่เชื่อเรื่องโลกร้อน
ส่วนจะไม่เชื่อจริง หรือที่จริงรู้ว่ามันมีแต่ปากไปอีกทาง
อันนี้ผมก็ไม่ทราบเขาได้เหมือนกัน
…แต่นโยบายนี้ จะมีผลกับเราทุกคน ไปยันลูกหลาน…
ในหลายข้อที่เขาประกาศออกมา
ผมค่อนข้างมั่นใจว่า มันจะมีแค่เรื่องโลกร้อนข้อตกลงปารีส
นี่แหละ ที่จะผ่านสภาได้ฉลุยที่สุด
…ต้องเข้าใจนะครับ ว่าประกาศประธานาธิบดี ตามกฎหมาย
ของสหรัฐแล้ว แม้จะมีผลบังคับใช้ แต่ยังไม่สมบูรณ์
หลายประเด็น ที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ หรือไม่ใช่เรื่องฉุกเฉิน
มันจะยังต้องผ่านสภาเพื่อรับรอง ไม่งั้นก็อาจเป็นกฎหมาย
ชั่วคราวได้ ก็คล้ายๆกับการยืดเวลาให้ TikTok 90วันแหละ…
กับประเด็น WHO หรือแม้กระทั่งเรื่องผู้อพยพ
เหล่านี้มันเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ ของกลุ่มทุนที่มี สส. ในมือ
มันไม่ง่ายครับที่จะผ่านหรือถึงผ่าน มันก็จะมีการแก้ไขให้เบาลง
เพื่อให้กลุ่มทุนนั้นรับได้
…สภาสหรัฐ ไม่ใช่บ้านเราครับ ที่พอเป็นเรื่องของพรรคไหน
ก็จะยกตามกันเป็นฝักถั่ว ของเขาสวนแนวทางพรรคกันบ่อย…
ดังนั้น ทรัมป์ต้องเกลี่ยผลประโยชน์ ก็ปกติของการเมืองแหละ
แกก็ใช้วิธีแบบนักธุรกิจ คือเสนอแรงเผื่อต่อรอง
ตามนิสัยของอาชีพแก ที่เป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
เรื่องอื่น อาจมีการปรับแก้ให้เบาลง
…แต่ไม่ใช่กับเรื่องข้อตกลงปารีส เพราะมันมีผลกับอุตสาหกรรมน้ำมัน ราคาน้ำมัน และค่าครองชีพในสหรัฐ…
ประเด็นราคาน้ำมันนั้น เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เดโมแครต
แพ้การเลือกตั้ง และทรัมป์ได้เข้ามา
เนื่องจากคนอเมริกันมองว่า น้ำมันมันแพง
เพราะไบเดนใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมเข้มงวดเกินไป
จนประเทศผลิตน้ำมันได้น้อยลง
พอเจอสงครามยูเครน ราคามันเลยสูงขึ้น
ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว ไบเดนก็ไม่ถึงกับทำให้น้ำมันแพง
อะไรนัก มันก็ 60-80 เหรียญสหรัฐ ไม่ใช่เป็นร้อยเหรียญ
ต่อบาร์เรล เหมือนสมัยก่อน
แต่เพราะคนอเมริกันนั้นเสพติดน้ำมันในราคาถูกมากๆ
หรือถูกกว่าตลาดโลก แบบ แกลอนละ 5-7 เหรียญ
อะไรงั้น ก็เลยรู้สึกว่าแพงในยุคไบเดน
ประกอบกับรถอเมริกันส่วนมาก เครื่องยนต์ใหญ่
รับประทานน้ำมัน คนเลยยิ่งไม่ชินกับค่าน้ำมันในเรทชาวโลก
ดังนั้น มันจึงง่าย เมื่อทรัมป์ต้องการเปลี่ยนนโยบาย
ด้านสิ่งแวดล้อม เลิกกีดกันน้ำมันเพื่อสนับสนุนพลังงานทดแทน
ลักษณะนี้ จะทำให้อุตสาหกรรมน้ำมันในสหรัฐเอง
เพิ่มกำลังการผลิตได้โดยแทบไม่จำกัด
เพราะไม่มีกฎหมาย สิ่งแวดล้อมมาขวาง
ชาวบ้านก็ย่อมสนับสนุน นักการเมืองชอบอยู่แล้ว
รีพับลิกันในสองสภา คงเสียไม่แตกแน่ กฎหมายนี้
จึงดันได้ง่ายกว่าเรื่องอื่นๆ
…มันต่างกับเรื่อง WHO ที่จะต้องตามเคลียร์กับ
พวกอุตสาหกรรมยา และประเทศอื่นที่ปกติใช้ยาสหรัฐ
หรือแม้กระทั่งเรื่องผู้อพยพ ที่ทางอุตสาหกรรมใช้คน
และภาคการเกษตร บริการของสหรัฐจ้องค้านอยู่….
การกลับมาหนุนการปั้มน้ำมันในบ้านของสหรัฐครั้งนี้
ถ้าไม่นับเรื่องการล้างผลาญโลกแล้ว
คงต้องบอกว่ามันมีประโยชน์กับสหรัฐเองค่อนข้างมาก
ในแง่เศรษฐกิจภายใน พวกเขาได้ลดด้านต้นทุนของธุรกิจ
และลดค่าครองชีพของชาวบ้านได้ และเพิ่มการจ้างงาน
ได้อีกไม่น้อย มันส่งผลดีทั้งกับสหรัฐ และรัฐบาลทรัมป์
ภายนอก การต่างประเทศก็เป็นผลดี
เพราะหากสหรัฐทุบราคาน้ำมันในบ้านตัวเองได้
ก็เท่ากับไปทุบราคาตลาดโลกได้อีกต่อ
ซึ่งการทุบราคาน้ำมัน มันกระสุนนัดเดียวได้นกสองตัวใหญ่
คือ ทั้งรัสเซียและจีนเลยในคราวเดียว
กับรัสเซีย ถ้าสหรัฐทุบราคาน้ำมันตลาดโลก
มันจะเป็นการตัดรายได้ของรัสเซียแบบสุดๆ
ลองคิดดูง่ายๆว่า ในทรัมป์สมัยแรก พวกเขาผลิตน้ำมัน
จนล้นโลก กดราคาพลังงานน้ำมัน จนเหลือแค่ 40 เหรียญ
และก๊าซเหลือเพียง 2 เหรียญ ก่อนโควิดนั่นแหละ
ถ้าพวกเขาทำแบบนี้อีก แล้วกดราคาน้ำมันลงมาเท่าเดิม
หรือสูงกว่าเดิมนิดหน่อยได้
รัสเซียซึ่งต้องขายน้ำมันติดส่วนลดอีก 30%
และเป็นอูราลออยล์ ซึ่งถูกกว่าน้ำมันปกติอยู่แล้ว 20%
รัสเซียจะเหลือเงินเข้ากระเป๋าเท่าไหร่ล่ะ?
มันหายไปครึ่งนึงเลยนะ
แล้วเศรษฐกิจรัสเซียที่ตอนนี้เน่าเฟะสุดๆ ขนาดเอาหุ้นแบงก์ไปยัดให้ชาวบ้าน เพื่อแลกกับเงินฝาก มันจะเป็นอย่างไรล่ะ ?
…สิ่งนี้ จะสร้างกำลังการต่อรองให้สหรัฐอย่างมาก
เมื่อต้องคุยกับรัสเซีย ในประเด็นสงครามยูเครน ที่ทรัมป์
ประกาศว่าจะหยุดให้ได้ และเรื่องอื่นอีกมาก…
…เพราะไม่ว่าข้อเสนอจะห่วยจนปูตินไม่รับแล้วรบต่อ
หรือไม่ แต่ผลจากรายได้ของรัสเซียที่ลดลง ท่ามกลางการ
คว่ำบาตร มันก็จะยังทำให้รัสเซียพังพินาศอยู่ดีนั่นเอง…
อีกทางคือ น้ำมันที่ถูกลงในตลาดโลก
จะสามารถสกัดรถ EV ที่กำลังปั้มเงินให้จีนได้ชะงัดนัก
ที่จริง มันสกัดรถไฟฟ้าทุกค่ายนั่นแหละ
แต่จีนจะหนักที่สุด เพราะเป็นรายใหญ่ และมีรัฐเอี่ยว
ไม่ใช่เอกชนแท้ๆ แบบชาวโลกเขา
มันดีกว่าการที่สหรัฐจะไปตั้งกำแพงภาษีรถพวกนี้เสียอีก
เหตุผลคือ หากสหรัฐทุบราคาน้ำมันในตลาดโลกสำเร็จ
ราคาน้ำมันที่ต่ำ มันจะจูงใจให้คนใช้อีวีน้อยลงทั่วโลก
ไม่ใช่แค่สกัดได้เฉพาะในสหรัฐ เหมือนกำแพงภาษีของตัวเอง
ลองคิดดูแล้วกัน ถ้าราคาน้ำมัน มันลงมาต่ำแบบ
ลิตรละไม่ถึง 30 บาท คนไทยจะใช้รถอีวีไหม
มันคงยาก เพราะความมั่นใจในเทคโนโลยีเก่าซึ่งแน่นอนกว่า
ในการดูแล ซ่อมบำรุง มันจะทำให้คนไม่สนใจอีวีมากนัก
และราคาน้ำมันระดับนั้น ไฮบริดจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
กว่าไปในทันที
ที่อื่นในโลกเขาก็คิดแบบเดียวกันนั่นแหละ
ยังไม่นับว่าระดับรัฐเอง ในหลายประเทศ ก็ไม่จำเป็น
ต้องลงทุนกับระบบเพื่อรองรับรถไฟฟ้า เขาก็สบายๆ
ไปกับรถน้ำมันเหมือนเดิม มันก็ดีกว่า
ถ้าเป็นแบบนั้นแล้ว มันก็แน่นอนว่า อีวีจีน
ซึ่งมันล้นตลาดอยู่แล้ว ก็จะเริ่มเจ๊งกันไปมากกว่าที่เป็นอยู่
แม้แต่เจ้าใหญ่อย่าง BYD หรือ GWM ก็คงทนทานไม่ได้
แล้วเราก็รู้กันดีว่า ผู้ผลิตอีวีจีนรายใหญ่ทุกราย
มีลักษณะเหมือนรัฐวิสาหกิจของจีน มีรัฐบาลช่วย
หรือถือหุ้นทางอ้อม
หากบริษัทพวกนี้เจ๊ง หรือกระทั่งมีกำไรลดลง
รัฐบาลจีนก็ย่อมจะเจ็บหนักไปด้วยตามบริษัท
…นี่แหละ มันจะทำให้สหรัฐมีอำนาจต่อรองมากขึ้น
กับจีน ในประเด็นต่างๆขึ้นมาทันที ….
การเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของสหรัฐ
มันค่อนข้างให้ผลดีกับพวกเขาจริงๆ ทรัมป์ไม่ได้คิดผิด
แต่ถ้าถามว่ามันดีกับโลกไหม มันคงไม่ใช่อย่างแน่นอน
สงครามต่างๆ ดันราคาน้ำมัน และพลังงานฟอสซิลขึ้นมา
จนเป็นกระแสให้เกิดการบูมพลังงานหมุนเวียน
ซึ่งสิ่งนี้ดีกับโลก และสภาพแวดล้อม
ที่เราต้องรับผิดชอบต่อคนรุ่นหลังมากกว่า
การที่ทรัมป์ทำแบบนี้ มันจะเหมือนการตัดตอน
การเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาดของโลก
และโลกก็จะมีสภาพอากาศแย่ลง ภัยพิบัติมากขึ้น
ซึ่งที่จะซวยที่สุด ก็คือขาติเล็กๆ และคนรุ่นต่อไป
…ว่าไป มันเป็นนโยบายที่ค่อนข้างเห็นแก่ได้มากของสหรัฐ…
…ไม่รู้เหมือนกัน ว่าอีกยี่สิบปีข้างหน้า…
…คนอเมริกันจะตอบลูกหลานตัวเองยังไง ว่าทำไมวันนี้
พวกเขาจึงสนับสนุนคนที่มาทำเรื่องบ้าๆเช่นนี้…
…เพราะท้ายที่สุด เด็กอเมริกันวันนี้และอนาคต
ก็จะต้องรับผลไป ไม่ต่างกับชาวโลกทั้งหมดด้วยนั่นเอง…
…ล้างผลาญแบบไม่เผื่อโลกให้ลูกหลานกันเลยนะเสี่ยทรัมป์….
…วันแรกก็บ้าได้ที่เลย 😑😑😑….
ข่าวรอบโลก
สหรัฐอเมริกา
1 บันทึก
6
1
1
1
6
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย