21 ม.ค. เวลา 11:43 • ประวัติศาสตร์

”สงครามนกกระจอก“

ในปี 1958 ประธานเหมาเจ๋อตงแห่งจีน
ลุกขึ้นมาประกาศสงคราม
ที่ฟังดูแปลกที่สุดในประวัติศาสตร์
นั่นคือ “สงครามกับนกกระจอก”
เหตุผลก็ง่ายๆเลย
เพราะนกกระจอกกินข้าว
กินข้าวก็คือทำลายผลผลิต ทำลายผลผลิตก็คือทำลายอนาคตชาติ
ประธานเหมาจึงสั่งให้ประชาชน
ทุกคนไล่กวาดล้างนกกระจอก
ให้หมดจากแผ่นดินจีน
คนทั้งประเทศ
พร้อมใจออกปฏิบัติการ
ตั้งแต่เด็กยันคนแก่
ทุกคนวิ่งเคาะหม้อ เคาะกะทะ ตะโกนโหวกเหวก
สาดหินปาไม้ บีบให้นกกระจอก
บินจนหมดแรง
หลายล้านตัวร่วงจากฟ้า
ราวกับหิมะกลางฤดูร้อน
ตอนแรกทุกอย่างดูไปได้สวย
ข้าวไม่ถูกนกกินอีกต่อไป
แต่ไม่กี่เดือนต่อมา
แมลงที่เคยถูกนกกระจอกกิน
เริ่มเพ่นพ่านเต็มทุ่งนา
หนอนกินข้าวแทนที่นก
ข้าวเสียหายยิ่งกว่าที่เคย
ความอดอยากลุกลาม
และในที่สุด ผู้คนอดตายหลายสิบล้าน
ประธานเหมา จำต้องยอมรับว่า “เราคิดผิด”
.
.
.
.
.
ชีวิตคนเราก็เหมือนสงครามนกกระจอกนี่แหละ บางครั้งเรามองปัญหาเป็นเรื่องง่ายๆ ใครผิดก็ตัดทิ้ง ใครเกะกะก็ไล่ไป แต่เราอาจลืมไปว่า ทุกสิ่งในโลกนี้มันสัมพันธ์กันหมด สมดุลเล็กๆ ที่เรามองข้ามอาจเป็นตัวประคองระบบใหญ่ที่เราพึ่งพาอยู่
เหมือนกับนกกระจอกที่เราเห็นมันแค่จิ๊บจ๊อย แต่จริงๆ มันคือนักควบคุมแมลงระดับเทพ
ดังนั้น ก่อนจะกวาดล้าง “นกกระจอก” อะไรในชีวิต
ลองหยุดคิดสักนิดว่ามันอาจไม่ได้เป็นปัญหา แต่คือส่วนหนึ่งของคำตอบที่เรายังมองไม่เห็น
#อิททีละเรื่อง
โฆษณา