เมื่อวาน เวลา 15:21 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ

ประวัติการบินที่สำคัญ F4 Phantom

Mitsubishi F-4EJ Phantom II เป็นเครื่องบินขับไล่ความเร็วเหนือเสียงที่พัฒนาขึ้นโดย McDonnell Douglas ในสหรัฐอเมริกา และผลิตภายใต้ใบอนุญาตโดย Mitsubishi Heavy Industries ในญี่ปุ่น การผลิตเครื่องบินรุ่นนี้สิ้นสุดลงในปี 1981 โดยมีการผลิตทั้งหมด 5,195 ลำ ซึ่ง 138 ลำผลิตโดย Mitsubishi ในญี่ปุ่น ดังนั้น ปัจจุบันไม่มีการผลิตเครื่องบินรุ่นนี้อีกต่อไป
Mitsubishi F-4EJ Phantom II (หรือรุ่นพื้นฐาน F-4 Phantom II ของ McDonnell Douglas) มีประวัติการเข้าร่วมสงครามและปฏิบัติการที่สำคัญหลายครั้งทั่วโลก โดยเฉพาะในช่วงสงครามเย็นและสงครามเวียดนาม ต่อไปนี้คือภาพรวมของภารกิจสำคัญที่เครื่องบินรุ่นนี้เข้าร่วม:
1. สงครามเวียดนาม (Vietnam War, 1965-1973)
F-4 Phantom II ถูกใช้อย่างกว้างขวางโดยกองทัพอากาศสหรัฐ (USAF), กองทัพเรือ (US Navy) และนาวิกโยธิน (USMC) ในภารกิจต่าง ๆ เช่น:
  • 1.
    ​การโจมตีทางอากาศ: ใช้ในการโจมตีเป้าหมายยุทธศาสตร์ เช่น สะพาน, โรงงาน, และเส้นทางขนส่งของฝ่ายเวียดกง
  • 2.
    ​การคุ้มกัน: ทำหน้าที่ป้องกันเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 จากการโจมตีของเครื่องบินขับไล่ฝ่ายเวียดนามเหนือ
  • 3.
    ​การต่อสู้ทางอากาศ (Dogfight): โดยเฉพาะกับ MiG-17 และ MiG-21 ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่ของฝ่ายศัตรู
2. สงครามเย็น (Cold War)
ในช่วงสงครามเย็น F-4 Phantom II ถูกประจำการในฐานะเครื่องบินลาดตระเวนและขับไล่ เพื่อป้องกันการบุกรุกน่านฟ้าจากสหภาพโซเวียตและประเทศพันธมิตร:
  • 1.
    ​ภารกิจลาดตระเวนทางทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
  • 2.
    ​ปฏิบัติการในยุโรปตะวันตกเพื่อรักษาความสมดุลทางการทหารใน NATO
3. สงครามอาหรับ-อิสราเอล (Arab-Israeli Wars)
F-4 ถูกใช้โดยกองทัพอากาศอิสราเอล (Israeli Air Force) ในสงครามหลายครั้ง เช่น:
  • 1.
    ​สงครามหกวัน (1967) และ สงครามยมคิปปูร์ (1973): ใช้ในภารกิจโจมตีทางอากาศและการสกัดกั้นเครื่องบินศัตรู
  • 2.
    ​มีบทบาทสำคัญในการทำลายฐานที่ตั้งของฝ่ายอาหรับ เช่น SAM (Surface-to-Air Missiles)
4. สงครามอ่าวเปอร์เซีย (Gulf War, 1991)
แม้ว่าเครื่องบินรุ่นนี้เริ่มเก่าในช่วงเวลานั้น แต่ยังถูกใช้โดยพันธมิตรสหรัฐ เช่น กองทัพอากาศอิหร่านและตุรกี
  • 1.
    ​ใช้ในภารกิจโจมตีทางอากาศและการลาดตระเวนในทะเลทราย
5. การประจำการในญี่ปุ่น
Mitsubishi F-4EJ Phantom II ผลิตในญี่ปุ่นเพื่อใช้ป้องกันประเทศโดยเฉพาะ:
  • 1.
    ​ประจำการตั้งแต่ปี 1971 เพื่อป้องกันน่านฟ้าและทำภารกิจลาดตระเวน
  • 2.
    ​ญี่ปุ่นไม่เคยใช้ในสงครามจริง แต่ใช้ในภารกิจซ้อมรบและการเฝ้าระวัง
บทบาทสำคัญ
F-4 Phantom II เป็นเครื่องบินที่โดดเด่นในยุคของมัน ด้วยความสามารถหลากหลาย (Multirole) ใช้ได้ทั้งในภารกิจโจมตี, สกัดกั้น, และลาดตระเวน ซึ่งทำให้มันถูกใช้งานอย่างกว้างขวางในหลายประเทศและในสงครามสำคัญหลายครั้ง.
สมรรถนะของ F-4 Phantom II
F-4 Phantom II เป็นหนึ่งในเครื่องบินขับไล่แบบมัลติโรล (Multirole Fighter) ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุคสงครามเย็น มีสมรรถนะเด่นดังนี้:
สมรรถนะพื้นฐาน
  • 1.
    ​ผู้ผลิต: McDonnell Douglas (สหรัฐฯ), Mitsubishi Heavy Industries (ญี่ปุ่น)
  • 2.
    ​ลูกเรือ: 2 คน (นักบินและเจ้าหน้าที่ระบบอาวุธ)
  • 3.
    ​เครื่องยนต์: 2 × General Electric J79-GE-17A Turbojet
  • 4.
    ​แรงขับ: 17,900 ปอนด์ต่อเครื่อง (หลังการเผาไหม้)
ข้อมูลสมรรถนะ
  • 1.
    ​ความเร็วสูงสุด: 2,370 กม./ชม. (Mach 2.23)
  • 2.
    ​เพดานบินสูงสุด: 60,000 ฟุต (18,300 เมตร)
  • 3.
    ​พิสัยปฏิบัติการ: 2,300 กม. (1,440 ไมล์)
  • 4.
    ​อัตราไต่ระดับ: 41,300 ฟุต/นาที (12,600 เมตร/นาที)
  • 1.
    ​อาวุธ:
  • ​ปืน M61 Vulcan 20 มม. (ติดตั้งในรุ่น F-4E)
  • ​ขีปนาวุธ AIM-7 Sparrow, AIM-9 Sidewinder, AGM-65 Maverick
  • ​ระเบิดหลากหลายชนิด รวมถึงระเบิดนำวิถีและระเบิดนิวเคลียร์
  • ​อาวุธ:
  • ​ปืน M61 Vulcan 20 มม. (ติดตั้งในรุ่น F-4E)
  • ​ขีปนาวุธ AIM-7 Sparrow, AIM-9 Sidewinder, AGM-65 Maverick
  • ​ระเบิดหลากหลายชนิด รวมถึงระเบิดนำวิถีและระเบิดนิวเคลียร์
  • ​จุดเด่น
  • ​ความเร็วสูง: F-4 Phantom II เป็นเครื่องบินขับไล่สองเครื่องยนต์ที่เร็วที่สุดในยุคนั้น
  • ​อเนกประสงค์: รองรับทั้งภารกิจโจมตี, ขับไล่, ลาดตระเวน, และสกัดกั้น
  • ​เทคโนโลยีล้ำสมัย: มีระบบเรดาร์ AN/APQ-120 และระบบนำทางที่พัฒนาไปไกลในยุคนั้น
  • ​การพัฒนาต่อยอด
  • ​F-4 Phantom II เป็นพื้นฐานของการพัฒนาเครื่องบินยุคใหม่ในหลายประเทศ ตัวอย่างเช่น:
  • ​1. F-15 Eagle
  • 1.
    ​เครื่องบินขับไล่ที่สหรัฐฯ พัฒนาหลังจากประเมินจุดอ่อนของ F-4 (เช่น ขาดความคล่องตัวในการสู้รบระยะประชิด)
  • 2.
    ​F-15 ใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่า เช่น การออกแบบปีกคู่ที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัว
1
  • ​2. F/A-18 Hornet
  • 1.
    ​พัฒนาขึ้นเพื่อแทนที่ F-4 ในกองทัพเรือสหรัฐฯ
  • 2.
    ​ออกแบบให้รองรับทั้งการบินจากเรือบรรทุกเครื่องบินและการโจมตีทางอากาศ
  • ​3. Mitsubishi F-2 (ญี่ปุ่น)
  • 1.
    ​พัฒนาต่อยอดจาก F-16 แต่ได้รับอิทธิพลด้านโครงสร้างและบทบาทจาก F-4
  • 2.
    ​มุ่งเน้นการป้องกันประเทศและการโจมตีเรือ
  • ​4. F-22 Raptor และ F-35 Lightning II
  • ​เทคโนโลยีเรดาร์และอาวุธนำวิถีของ F-4 ถูกปรับปรุงและพัฒนาเข้าสู่เครื่องบินสเตลธ์ (Stealth Fighter)
  • ​เครื่องบินที่ยังคงได้รับอิทธิพล
  • ​แม้ว่า F-4 จะเลิกประจำการในหลายประเทศ แต่สมรรถนะและแนวคิดในการออกแบบยังมีผลต่อการพัฒนาเครื่องบินขับไล่ยุคใหม่ เช่น:
  • ​ระบบมัลติฟังก์ชัน (Multirole Capability)
  • ​การใช้เรดาร์ที่ล้ำสมัยและการป้องกันอิเล็กทรอนิกส์
  • ​การผสมผสานอาวุธหลากหลายชนิด
  • ​F-4 Phantom II ยังคงเป็นเครื่องบินที่เป็นต้นแบบสำคัญในการพัฒนากองทัพอากาศทั่วโลกในยุคหลังสงครามเย็น.
ขอขอบคุณฐานข้อมูลจาก Chat GPT และภาพสวยจากพี่ไพบูลย์ มากๆ ครับ
โฆษณา