22 ม.ค. เวลา 08:04 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เพื่อนก็ไม่ใช่ ศัตรูก็ไม่เชิง! "ทรัมป์" ขู่คว่ำบาตรรัสเซียเพิ่ม หาก "ปูติน" ไม่เจรจายุติสงครามยูเครน

“สี จิ้นผิง” หารือ “ปูติน” รับมือ Trump 2.0
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เปิดเผยในวันอังคาร (21 ม.ค.) ว่า เขาอาจใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย หากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ไม่ยอมเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครน ซึ่งปัจจุบันสหรัฐฯ ใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างหนักหน่วงอยู่แล้วตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อเดือนก.พ. 2565
พร้อมกันนี้ สำทับว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังดูเรื่องการส่งอาวุธไปยังยูเครน และแนะนำให้สหภาพยุโรป (EU) ควรสนับสนุนยูเครนมากกว่านี้ พร้อมระบุว่า ตนได้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เข้ามาแทรกแซงเพื่อยุติสงครามในยูเครน โดยเปิดเผยว่า "เขายังไม่ได้ทำอะไรมากนัก ทั้งที่มีอำนาจมากเหมือนกับที่เรามี ผมเลยบอกเขาว่า 'คุณควรช่วยจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย' เราได้พูดคุยกันเรื่องนี้แล้ว"
ขณะที่ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ประชุมผ่านวิดีโอคอลเป็นเวลา 1 ชั่วโมง 35 นาที เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาเช่นกัน โดยมีประเด็นสำคัญในการหารือสามเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการขึ้นสู่อำนาจครั้งที่ 2 ของ โดนัลด์ ทรัมป์ เรื่องแรกคือการสร้างความสัมพันธ์กับ ทรัมป์ บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกันและการเคารพซึ่งกันและกัน
เรื่องที่สองคือสถานการณ์ในยูเครน ปูตินย้ำว่าต้องการสันติภาพระยะยาว ไม่ใช่แค่การหยุดยิงชั่วคราว และต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของรัสเซียด้วย ด้านประธานาธิบดีสีเรียกร้องให้มีการเจรจาเพื่อยุติสงคราม พร้อมวิจารณ์สหรัฐฯ ว่าเป็นผู้จุดชนวนสงครามด้วยการส่งอาวุธให้ยูเครน
เรื่องที่สามคือประเด็นไต้หวัน รัสเซียยืนยันสนับสนุนนโยบาย "จีนเดียว" ของจีนอย่างเต็มที่ โดยจีนยังคงยืนยันว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน และประธานาธิบดีสีย้ำว่าไม่มีใครสามารถหยุดยั้งการรวมชาติได้ ขณะที่รัฐบาลไต้หวันยืนยันว่าอนาคตของเกาะแห่งนี้ควรถูกตัดสินโดยประชาชนชาวไต้หวันเอง
นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจในลักษณะหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์โดยจีนเป็นผู้ซื้อพลังงานรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย และทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันในด้านพลังงานนิวเคลียร์
ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซียแน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ประกาศความร่วมมือแบบ "ไม่จำกัด" เมื่อต้นปี 2565 ก่อนหน้านี้ รอยเตอร์รายงานว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวแสดงความยินดีกับว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังเข้ารับตำแหน่งในอีกไม่กี่ชั่วโมง
พร้อมระบุว่าผู้นำสหรัฐคนใหม่และทีมงาน “มีความปรารถนา” ที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ และกลับมาติดต่อโดยตรงกับรัสเซีย พร้อมชื่นชม การที่ทรัมป์มีแนวคิดต้องการป้องกัน ไม่ให้โลกเสี่ยงเกิดสงครามโลกครั้งที่สาม เป็นเรื่องที่น่าชื่นชม
หากพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่าง ปธน.ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และปธน.ปูติน แห่งรัสเซียให้ชัด ปธน.ทรัมป์ เคยกล่าวให้สัมภาษณ์ในการประชุมสุดยอดนาโต้ที่กรุงบรัสเซลส์ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2018 ไว้ว่า ปธน.ปูตินเป็น “คู่แข่ง” และเสริมว่า “หวังว่าสักวันหนึ่งเขาอาจจะกลายเป็นเพื่อนก็ได้ มันอาจจะเกิดขึ้นได้ แต่ผมแค่ไม่รู้จักเขาดีนัก” ย้ำ “เขาไม่ใช่ศัตรูของผม ‘เขาเป็นเพื่อนหรือเปล่า’ ไม่ ผมไม่รู้จักเขาดีพอ แต่สองสามครั้งที่ผมได้พบเขา เราก็เข้ากันได้ดีมาก”
โฆษณา