22 ม.ค. เวลา 14:33 • การศึกษา

ฟ้องชู้ไม่ฟ้องหย่ากับสมรสเท่าเทียม

วันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๘ กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้จึงอยากเขียนถึงมาตราที่เกี่ยวข้องกับการเรียกค่าทดแทนจากชู้กรณีไม่ฟ้องหย่าเพราะมาตรานี้แต่เดิมภริยาเสียเปรียบมาก
กล่าวคือในกฎหมายเดิมสามีจะฟ้องเรียกค่าทดแทนจาก “ชู้” เพศใดก็ได้ โดยไม่ต้องพิจารณาว่าภริยาจะเต็มใจหรือไม่ และไม่จำเป็นต้องพิจารณาว่า เป็นการแสดงความสัมพันธ์โดยเปิดเผยหรือไม่
ในขณะที่หากเป็นฝ่ายภริยา จะฟ้องเรียกร้องค่าทดแทนจากคนที่มาเป็นชู้กับสามีของตนได้เฉพาะผู้หญิงเท่านั้น ผู้ชายที่มาเป็นชู้กับสามีตนภริยาฟ้องไม่ได้ อีกทั้งถ้าชู้ของสามีเป็นหญิงยังมีเงื่อนไขว่าต้องเป็นหญิงที่แสดงความสัมพันธ์ในทางชู้สาวโดยเปิดเผย ถ้าคบกันหลบๆ ซ่อนๆ ไม่เปิดเผยจะไปเรียกค่าทดแทนไม่ได้
ซึ่งเรื่องนี้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเป็นความไม่เสมอภาคระหว่างเพศ ดังนั้นเมื่อมีการแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เรื่องสมรสเท่าเทียมจึงแก้ไขมาตรานี้ด้วย
 
เรื่องฟ้องเรียกค่าทดแทนจากชู้กรณีไม่ฟ้องหย่ามีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๕๒๓ วรรคสอง ดังนี้
#เดิม
"สามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวก็ได้ และภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้"
#ใหม่
"คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งไปในทำนองชู้
หรือจากผู้ซึ่งแสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งในทำนองชู้ก็ได้"
ดังนั้นต่อไปนี้ไม่ว่าบุคคลเพศใด
๑.มาล่วงเกินคู่สมรสของเรา (คู่สมรสของเราจะเป็นเพศเดียวกันหรือคนละเพศกับเราก็ได้) ในทำนองชู้ (แปลว่าไม่ต้องเปิดเผยก็ได้, คู่สมรสของเราไม่เต็มใจก็ได้) หรือ
๒.แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับคู่สมรสของเราในทำนองชู้
เราสามารถฟ้องเรียกค่าทดแทนจากบุคคลนั้นได้
ข้อสำคัญคำว่าคู่สมรสคือบุคคลที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น หากจัดงานแต่งงานใหญ่โตคนรู้ทั้งประเทศแต่ไม่จดทะเบียนสมรสก็ไม่มีสิทธิใดๆในฐานะคู่สมรสเลย
นับว่าเป็นอีกก้าวของความเสมอภาคระหว่างหญิงชายและทุกเพศ
#สนุกกับกฎหมายวันละนิดชีวิตง่ายขึ้น
#ทนายน้อยหน่า
๒๒ มกราคม ๒๕๖๘
โฆษณา