หมดยุครวยเร็วจากตลาดหุ้นไทย (แต่ยังมีโอกาสอยู่นะ)
ในช่วงที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยไหลลงเป็นน้ำตก ก็เกิดข้อถกเถียงในหมู่นักลงทุนว่า ตลาดหุ้นไทยยังลงทุนได้อยู่หรือไม่ ?
ฝั่งที่มองว่าตลาดหุ้นไทยยังลงทุนได้อยู่ ก็มองว่าตอนนี้หุ้นไทยหลายตัวมี valuation ที่น่าสนใจ
ฝั่งที่ย้ายเงินไปลงทุนหุ้นนอก ก็อาจจะมองว่าต่อไปในอนาคต หุ้นไทยน่าจะทำผลตอบแทน “แพ้” ตลาดหุ้นประเทศอื่น ๆ อย่างเช่น เวียดนาม จีน หรือสหรัฐฯ ตามแต่มุมมองแต่ละคน
ผมเข้าใจเหตุผล และเห็นด้วยกับมุมมองของคนทั้ง 2 กลุ่มนะ
คนกลุ่มแรก เขาก็มองถูก ยังมีหุ้นไทยคุณภาพดี อีกเป็นจำนวนมากที่ตอนนี้ให้ผลตอบแทนเงินปันผลเกิน 4% ไปแล้ว
แล้วถ้าจะบอกว่าหุ้นไทย ไม่โตแล้ว ก็คงต้องถามกลับไปว่า หุ้นแบบไหน ที่ไม่โต ?
เพราะจริง ๆ ธุรกิจไทยก็ยังมีจุดแข็ง ที่ธุรกิจต่างชาติแข่งได้ยาก เช่น อาหาร, การแพทย์ และการท่องเที่ยว
และถ้ามองว่าตลาดในประเทศอิ่มตัว ธุรกิจเหล่านี้สามารถออกไปเติบโตต่างประเทศได้ ไม่ว่าจะผ่านการส่งออก หรือการดึงคนต่างชาติให้เข้ามาเป็นลูกค้า
ส่วนฝั่งที่มองว่าหุ้นไทย ในระยะยาว การลงทุนในหุ้นไทย อาจจะแพ้การลงทุนในหุ้นต่างประเทศ
ผมก็ว่าเขามองถูกอีกเช่นกัน เพราะธุรกิจที่ยังเติบโตได้ในตลาดหุ้นไทย มักจะเป็นหุ้น market cap หมื่นล้านต้น ๆ เท่านั้น
ส่วนพวกหุ้นกลุ่มการแพทย์ ที่มี market cap ระดับแสนล้าน ก็ต้องยอมรับว่าโต แต่จะมี upside เหลือน้อย
ด้วย size ของธุรกิจที่เล็ก รวมกับวัฒนธรรมการถือหุ้นในสัดส่วนที่สูงของครอบครัวผู้ก่อตั้งธุรกิจ ทำให้ free float หรือจำนวนหุ้นที่นักลงทุนรายย่อยซื้อขายได้ ก็ยิ่งน้อยลงไปอีก
เมื่อมองในมุมนักลงทุนที่มีพอร์ตการลงทุนขนาดใหญ่ ก็อาจจะทำให้มองว่า เขาไม่สามารถลงทุนในสัดส่วนที่มีนัยสำคัญกับขนาดพอร์ตของเขาได้
กำไรที่ได้มา ก็อาจจะแทบไม่ได้ contribute อะไรให้กับผลตอบแทนโดยรวม
สู้ไปลงทุนในตลาดหุ้นเมกา น่าจะดีกว่า แม้ว่าจะต้องเสียภาษีก็ตาม
อีกเรื่องก็คือ ผมมองว่ามีแค่ 3 อุตสาหกรรมเท่านั้นที่จะโตต่อได้ ทำให้หุ้นไทยที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูง ๆ ให้เรา เหลือน้อยลงไปทุกที
ขณะที่มีหุ้นใหม่ ๆ เข้ามาจดทะเบียนในตลาดทุกปี ทำให้เราน่าจะต้องเสียเวลาในการ งมหาเพชรจากโคลนตม มากๆ
นอกจากเงินแล้ว เวลาก็เป็นทรัพยากรที่สำคัญด้วย
ในความเห็นผม ที่บอกว่า หมดยุครวยเร็วจากตลาดหุ้นไทย คือ ผมมองว่า ราคาหุ้นจะวิ่งได้มาจาก 2 ปัจจัยหลัก
1. กำไรต่อหุ้นเพิ่ม
2. ตลาดให้ P/E หุ้นของเราสูงขึ้น
การที่เราจะได้กำไรอย่างรวดเร็วนั้น มักจะมาจากปัจจัยที่ 2 เป็นหลัก คือตลาดปรับ P/E หุ้นเราให้สูงขึ้น
ผมมองว่าด้วยสภาพตลาดหุ้นที่สภาพคล่องเหลือน้อย กับบรรยากาศตลาดหุ้นในภาพรวมที่ซบเซา
ผมว่ายากมาก ที่ต่อไปหุ้นจะถูกปรับ P/E ได้สูงอย่างง่ายดาย เหมือนเมื่อก่อน (good old day 😂😂)
ผมว่านักลงทุนคงต้องปรับความคาดหวังในการลงทุนในหุ้นไทยใหม่ เราอาจจะไม่เห็นว่าตัวเองจะได้ผลตอบแทนสูงๆ เร็วๆ แล้ว
คงต้องรอให้ EPS ปรับขึ้นอย่างเดียวละ ซึ่งต้องรอผลประกอบการประกาศ 3 เดือนครั้ง
พอไล่ logic มาแบบนี้แล้ว กลยุทธ์ส่วนตัวผมคือ focus ที่ตลาดเมกา แต่แบ่งเงินมาลงทุนในหุ้นไทยบ้าง
หุ้นไทย ผมคงไม่เสียเวลาไปทำการบ้านหาหุ้นใหม่แล้ว (เพราะอย่างที่บอก เวลาก็เป็นทรัพยากรที่สำคัญ การหาเพชรในโคลน เป็นกิจกรรมที่กินเวลา) คงจะลงทุนในหุ้นตัวเดิมแหละ
เอาเวลาไปหาหุ้นต่างประเทศดีกว่า
สรุป
เวลา 80% ผมทุ่มให้หุ้นต่างประเทศ
เวลาที่เหลือ 20% ติดตามงบหุ้นไทยที่ตัวเองถือ
เงิน 50% อยู่ไทย
เงินอีก 50% อยู่ต่างประเทศ (พยายาม optimize เรื่องภาษีอยู่ 😂)
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
