22 ม.ค. เวลา 20:27 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

Wicked (2024)

การดู Wicked เหมือนเป็นการสัมผัสประสบการณ์ละครเวที Musical ในแบบที่ตัวเราเหมือนได้ขึ้นไปอยู่บนเวทีพร้อมกับตัวละครด้วย ฉากเปิดเรื่อง ให้ความรู้สึกเหมือนการเปิดม่านเวที แสดงแสงสีเสียงอย่างอลังการ เพื่อกระชากคนดูให้ตะลึงตะลานกับภาพที่เห็น และเสียงที่ได้ยิน ทำให้รับรู้ได้ทันทีว่าหนังเรื่องนี้ จะยิ่งใหญ่อลังการแบบนี้ไปตลอดแน่นอน
เนื้อเรื่องของ Wicked ว่าด้วยชีวิตของ Elphaba เด็กสาวผู้เกิดมามีผิวสีเขียว ดูผิดแปลกจากคนปกติ ชีวิตถูก bully รังแกตั้งแต่เด็ก จนโตมาเป็นวัยรุ่น แต่นอกจากสีผิวที่ติดตัวเธอมาแต่กำเนิด ก็ยังมีพลังเวทมนตร์เป็นของแถมติดออกมาด้วย นั่นจึงยิ่งทำให้ผู้คนรอบตัวต่างหวาดกลัว Elphaba กันไปหมด
แล้วเรื่องราวก็ดำเนินมาจนถึงจุดที่ทำให้เธอจับพลัดจับผลูได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย Shiz ได้พบเจอกับ Galinda จนได้มาเป็นเพื่อนกัน จับมือพากันไปพบกับพ่อมดออซผู้ยิ่งใหญ่
ที่ผมเล่ามา เป็นเพียงเหตุการณ์ใหญ่ ๆ ที่เราได้เห็นกันตั้งแต่ตัวอย่างหนัง ยังมีรายละเอียดอีกเยอะ ให้ทุกคนได้เข้าไปสัมผัสกันในหนังเต็ม ๆ ซึ่งต้องบอกเลยว่า สนุกเอาเรื่อง ตลอดความยาว 2 ชั่วโมง 40 นาที ไม่มีตรงไหนน่าเบื่อเลย มันสนุกจนไม่รู้สึกว่ามันยาวเลยด้วยซ้ำ
นอกจากเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม เพลงในหนังก็ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะเสียงร้องของ Cynthia Erivo และ Ariana Grande ที่ทรงพลังสุด ๆ ยิ่งได้รู้ว่าเป็นการร้องสดหน้ากล้องของสองนักแสดงนำแล้ว จังหวะที่เสียงร้องต่อเนื่องกับลมหายใจ ขนลุกสุด ๆ
จะบอกว่าบทสรุปเรื่องราวของ Wicked เป็นการ “ปิดม่าน” ก็ไม่เชิงซะทีเดียว เหมือนเป็นการพักครึ่งช่วงกึ่งกลางละครเวทีมากกว่า เพราะที่ได้ดูไปมันคือ Wicked: Part 1 รอกลับมาพบกับ Part 2 ที่ใช้ชื่อว่า Wicked: For Good กันอีกทีในเดือนพฤศจิกายน 2025 บอกเลยว่าคาดหวังสูงมากกกก
Wicked (2024)
7/10
#PlamoAndPopcorn #คนประกอบหนัง #Wicked
โฆษณา