“WWF ประเทศไทย” จัดงานประชุมและนิทรรศการ รณรงค์อนุรักษ์สัตว์ป่าและต่อต้านการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย
- 1.WWF ประเทศไทย” ไทยพีบีเอส และ องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) พร้อมจับมือหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน จัดงานประชุมเชิงปฎิบัติการและ เปิดตัวนิทรรศการ รณรงค์อนุรักษ์สัตว์ป่าและต่อต้านการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
- 2.จัดนิทรรศการ เพื่อให้ความรู้แก่สาธารณชนได้เห็นถึงผลกระทบที่เกิดจากการคุกคามที่เกี่ยวข้องกับการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย การส่งเสริมและความพยายามในการอนุรักษ์สัตว์ป่าของทุกๆหน่วยงาน ที่ได้ร่วมกันต่อต้านการซื้อขายสัตว์ป่าร่วมถึงการปกป้องสิ่งแวดล้อม
“การค้าสัตว์ป่าเป็นปัญหาสำหรับประชาชนทุกคน ปัญหานี้นอกจะส่งผลต่อความสมดุลในระบบนิเวศน์แล้วยังเป็นสาเหตุหนึงที่ทำให้เกิดโรคระบาด ทำลายชีวิต ทำลายระบบเศรษฐกิจ อีกทั้งยังส่งผลต่อสุขอนามัยของประชาชนทั่วไป รวมถึงความมั่นคงของชาติอีกด้วย” นาย เจษฎา ทวีกาญจน์ ผู้จัดการโครงการการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายของ WWF กล่าวว่า
“ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายที่สำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่ายินดีที่พันธมิตรในภาคการเดินทางท่องเที่ยวของเรามีความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์สัตว์ป่าและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ด้วยการสนับสนุนจากพันธมิตร เราสามารถสร้างความแตกต่างในการท่องเที่ยวให้กับธรรมชาติได้อย่างแท้จริง”
ประเด็นหลักของงาน ได้แก่:
● การอภิปรายแบบกลุ่ม: ผู้เชี่ยวชาญจากภาคการท่องเที่ยวและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายบอกเล่าประสบการณ์การทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานอื่น และกับ WWF โดยแต่ละหน่วยงานมีบทบาทที่ชัดเจนตามหน้าที่ปฏิบัติงาน ในการต่อสู้กับการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย เช่น การค้างาช้าง ชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์ต่างๆจากเสือ รวมถึงสัตว์เลี้ยงแปลก หรือ Exotic Pet
● การประชุมเชิงปฏิบัติการ: โดยผู้เข้าร่วมได้ร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการเป็นกลุ่ม เพื่อแบ่งปันแนวคิดหรือรูปแบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ที่ได้ปฏิบัติมาจนถึงปัจจุบัน และสร้างกรอบแนวการทำงานเพื่อให้แน่ใจว่าการทำงานร่วมกันในอนาคต มีความราบรื่น ส่งผมต่อการอนุรักษ์สัตว์ป่า
● นิทรรศการ: การเปิดนิทรรศการการอนุรักษ์สัตว์ป่าอย่างเป็นทางการ เพื่อสร้างความรู้และแรงกระตุ้นให้สาธารณชนร่วมกันปกป้องสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับผลกระทบของการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย โดยมีเสือและช้างซึ่งเป็นสัตว์สำคัญ 2 ชนิดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบซื้อขายโดยตรงด้วย
โดยนิทรรศการจะเริ่มตั่งแต่วันที่ 21 มกราคม 2568 จนถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดตรุษจีน ซึ่งเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมายังกรุงเทพฯ และมีแนวโน้มที่จะมารับชมนิทรรศการนี้ กระทรวงการคมนาคม คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามายังประเทศไทยประมาณ 4 ล้านคนในช่วงวันหยุดยาวของประเทศจีน 10 วัน ระหว่างวันที่ 24 มกราคม ถึง 2 กุมภาพันธ์ 2568
นิทรรศการนี้ถือเป็นโอกาสดีในการดึงดูดผู้เข้าชมที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นประชาชนไทยหรือชาวต่างชาติ เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความจำเป็นอย่างเร่งด่วนในการอนุรักษ์สัตว์ป่า โดยกิจกรรมและนิทรรศที่เกิดขึ้นนี้การนี้ได้รับการสนับสนุนจาก องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ซึ่งเป็นผู้สนบสนุนโครงการเที่ยวไทยไร้การซื้อขายงาช้าง หรือ“TRAVELIVORYFREE” เพื่อลดความต้องการและการซื้อขายงาช้างในหมู่นักท่องเที่ยว
“เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับ WWF ในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ผ่านโครงการความร่วมมือต่อต้านอาชญากรรมสัตว์ป่าในแอฟริกาและเอเชีย ซึ่งได้รับทุนจากรัฐบาลเยอรมนี เราขอเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของเราในการต่อต้านการค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมายและปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ
ความร่วมมือนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบในการอนุรักษ์มรดกทางธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาค เสริมสร้างพลังให้กับชุมชน และอนาคตของสัตว์ป่าจะเติบโตควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” ผู้แทน GIZ กล่าว
"งานของเรากับ WWF ในประเทศไทย และหน่วยงานภาครัฐและด้านการเดินทางท่องเที่ยวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานเพื่อร่วมกันป้องกันและจัดการกับการค้าสัตว์ป่าที่เป็นภัยคุกคาม และนิทรรศการนี้จะแสดงให้สาธารณชนเห็นถึงพลังของความร่วมมือเหล่านี้ในการปกป้องธรรมชาติและระบบนิเวศที่เราทุกคนต้องพึ่งพา”
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
